บทที่543 คุณจูบฉันก่อนสิคะ
หานชิงอ่านข้อความแล้วนิ่งเงียบไปสักพัก ก่อนจะกดล็อกหน้าจอโทรศัพท์ลง
เขาจะไม่รู้ได้ยังไงว่านิสัยของน้องสาวตัวเองเป็นแบบไหน ข้อความก่อนหน้าเป็นข้อความที่เธอส่งมา แต่ข้อความสุดท้ายไม่เหมือนเธอเลย และเดาได้ไม่ยากว่ามีคนอยู่ข้างๆเธอด้วย
แน่นอนว่าต้องเป็นเสี่ยวหมี่โต้ว
เฮ้อ เด็กคนนี้ ทำไมถึงได้ซุกซนขนาดนี้ นี่ถึงขั้นพุ่งเป้าหมายมาที่ตัวเขาผู้เป็นลุงแท้ๆ คอยดูว่าเขาจะจัดการกับตัวปัญหายังไง
“คือว่า…”หลังจากเสี่ยวเหยียนเก็บโทรศัพท์ แล้วมองไปทางหานชิงด้วยท่าทางอ้ำๆอึ้งๆ แต่หานชิงกลับมีสีหน้านิ่งเฉยมองมาที่เธอ “มีอะไรหรือเปล่า”
“ยังมีแขกที่ต้องชนแก้วด้วยเยอะไหมคะ”เสี่ยวเหยียนกัดริมฝีปากล่างแล้วถามออกมาเบาๆ หลังจากถามแล้วก็มีท่าทางเขินอาย เธอถามแบบนี้ หานชิงจะรำคาญเธอหรือเปล่า
“คุณเหนื่อยแล้วเหรอ” หานชิงไม่ตอบ แต่ถามกลับ
“ไม่ค่ะ ไม่เหนื่อยค่ะ” เสี่ยวเหยียนรีบส่ายหน้าปฏิเสธ ก่อนจะยิ้มแหย แล้วพูด “ฉันแรงเยอะ แค่นี้จะเหนื่อยได้ยังไงกันคะ แค่ลองถามดูเท่านั้นเอง”
ที่จริงแล้วเธอเหนื่อยจะตายอยู่แล้ว แต่จะให้ทำยังไงได้ชุดราตรีที่คนรับใช้เตรียมให้เธอในคืนนี้มันต้องใส่คู่กับรองเท้าส้นสูงถึงจะดี แต่ดูเหมือนช่วงนี้เธอจะกินเยอะมากเกินไป เบอร์รองเท้าที่ก่อนหน้านี้เคยพอดีกับเท้า ตอนนี้มันกลับแน่นเท้ามาก ตอนที่ใส่ช่วงแรกยังพอจะได้ เธอไม่คิดว่าจะมีปัญหา แต่พอต้องเดินไปทักทายบรรดานักธุรกิจกับหานชิง เธอก็เริ่มรู้สึกเจ็บเท้าจนเดินแทบจะไม่ไหวแล้ว ฮือฮือ… รู้สึกเหมือนจะล้มลงไปได้ตลอดเวลาเลย
แต่เพื่อหานชิงแล้ว เสี่ยวเหยียนพยายามอดทนต่อความเจ็บปวดไว้
“คุณดื่มเหล้าเก่งไหม”หานชิงถามเธอ
เสี่ยวเหยียนชะงักไปเล็กน้อย ก่อนจะตอบกลับ “พอ พอใช้ได้ค่ะ ดื่มอีกสักพักไม่น่าจะมีปัญหา” เธอกลัวว่าหานชิงจะไล่เธอกลับก่อน
และอีกอย่างหลายปีมานี้หานชิงไม่เคยมีผู้หญิงคนไหนยืนข้างกายเลย นอกจากมู่จื่อที่เป็นญาติของเขาแล้ว คนที่ใกล้เขามากที่สุดก็มีแค่ซูจิ่ว ตอนแรกซูจิ่วก็แอบหลงรักหานชิงเหมือนกัน แต่น่าเสียดายที่ผู้ชายคนนี้ไม่มีพรสวรรค์ด้านความรักเลย อีกทั้งยังซื่อบื้อเรื่องนี้มากจนน่าตกใจ
ยกตัวอย่างเช่น ตอนที่คนอื่นถามคุณว่าคุณจะเอาหรือไม่เอา พอคุณบอกว่าไม่เอา เขาจะคิดว่า อ๋อคุณไม่อยากเอาจริงๆ งั้นก็ได้ ไม่เอาก็ไม่เอา
เหมือนเสี่ยวเหยียน ถามว่าเธอเหนื่อยไหม ดื่มเหล้าเก่งหรือเปล่า คำถามพวกนี้เขาถามจริงจัง พอเสี่ยวเหยียนบอกว่าไม่เหนื่อย ดื่มเหล้าพอไหว หานชิงก็จะคิดว่าเธอไม่เหนื่อยและดื่มเหล้าไหวจริงๆ
ดังนั้นช่วงเวลาหลังจากนั้น เสี่ยวเหยียนจึงต้องเหนื่อยใจอยู่คนเดียว
เธอชนแก้วกับแขกไปด้วยพยายามอดทนกับความเจ็บปวดไปด้วย ในใจกำลังด่าตัวเองอยู่ ว่าทำไมถึงได้หาเรื่องใส่ตัวเองแบบนี้ แต่ว่า… อีกฝ่ายคือหานชิงเลยนะ
ถ้าเป็นผู้ชายคนอื่น เธอสะบัดผมเดินออกไปตั้งนานแล้ว
“ประธานลี่”
ต้องชนแก้วอีกแล้ว เสี่ยวเหยียนดื่มเหล้าเข้าปากอีกครั้ง อีกฝ่ายมองมาที่เธอยิ้มๆ “คุณผู้หญิงท่านนี้ดื่มเหล้าเก่งมากเลยครับ ไม่ทราบว่าคุณคือ”
คำพูดยังไม่ทันจบ เสี่ยวเหยียนที่ดื่มเหล้าเข้าไปก็ยืนไม่ไหวอีกต่อไป เธอสะดุดล้มไปข้างหน้า
คนที่กำลังยืนถามสีหน้าตกใจ รีบยื่นมือออกไปพยุงเธอไว้ กลิ่นกายหอมกรุ่นผิวเนียนนุ่มเอกลักษณ์ของผู้หญิงโชยออกมา อีกฝ่ายชะงักไปเล็กน้อย กำลังเตรียมจะพูดอะไรต่อ แต่มือใหญ่อีกคู่ก็แย่งเสี่ยวเหยียนไปก่อน
พอเงยหน้าขึ้นมองก็พบว่าคนที่ดึงเสี่ยวเหยียนไปก็คือหานชิงนั่นเอง
เขาดึงเสี่ยวเหยียนมายืนด้านข้างด้วยสีหน้าเรียบเฉย ทำให้เสี่ยวเหยียนพิงไหล่เขาอย่างหมดแรง ก่อนจะพูด “ยังไหวไหม”
พอได้ยินเสียงของหานชิง เสี่ยวเหยียนก็ได้สติกลับมา เธอค่อยๆเงยหน้าขึ้นมา แล้วมองอีกฝ่ายด้วยสีหน้าสะลึมสะลือ
อืม…
ทำไมถึงได้รู้สึก… มองอะไรไม่ชัดเลย เสี่ยวเหยียนขยี้ตา แล้วมองคนตรงหน้า
เธอคงจะเมาแล้วจริงๆ สายตาเธอเลื่อนลอย มองหน้าเขาอยู่นาน ปกติเธอไม่กล้ามองหน้าเขานานแบบนี้หรอก ตั้งแต่ที่เธอจูบเขาไปสองครั้ง หลังจากนั้นเธอก็มีท่าทางเหมือนหนูกลัวแมว พยายามหลบหน้าเขาตลอด
ท่าทางของเธอตอนนี้ บอกได้เลยว่าเธอเมาแล้ว
หานชิงนึกถึงท่าทางกล้าพูดกล้าทำของเธอก่อนหน้านี้ จึงได้แต่ส่ายหน้าไปมา
“ดื่มไม่ไหวก็ไม่ต้องดื่ม จะดื้อดึงไปทำไม ประธานลี่ขอโทษด้วยนะครับ ผมขอพาเธอไปพักก่อน ตามสบายเลยนะครับ”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เจ้าสาวมือสองของคุณชายเย่