บทที่591นายวางแผนมาหมดแล้วใช่ไหม
เจอเย่หลิ่นหานอีกครั้งแล้ว
ไม่คิดเลยว่าจะเป็นเหตุการณ์แบบนี้ หานมู่จื่อมองไปที่ใบหน้าที่ยังคงอ่อนโยนที่อยู่ไกลๆ รอยยิ้มจางๆ ในแววตาของเขาทำให้เธอเกิดภาพลวงตาเหมือนกับอยู่อีกโลกหนึ่ง
หานมู่จื่อเม้มริมฝีปากที่แดงระเรื่อของตัวเอง หลังจากนั้นก็เดินเข้าไป
ไม่ว่าจะเป็นห้าปีก่อน หรือว่าห้าปีหลัง เย่หลิ่นหานก็ยังคงเป็นสุภาพบุรุษและอ่อนโยน
พอเธอเดินใกล้เข้าไป เขาก็เดินอ้อมโต๊ะมาดึงเก้าอี้ให้เธอ แล้วพูดด้วยน้ำเสียงที่อ่อนโยน
“นั่งสิ”
“ขอบคุณ”
หลังจากเอ่ยขอบคุณเขาแล้ว หานมู่จื่อถึงได้นั่งลง
พนักงานเดินเข้ามา หลังจากสอบถามว่าพวกเขาจะดื่มอะไร ก็หยิบเมนูแล้วก็เดินออกไป
สายตาของเย่หลิ่นหานมองมาที่ใบหน้าของเธอด้วยสายตาที่อ่อนโยน แล้วพูดเบาๆ ว่า
“ฉันก็นึกว่าเธอจะไม่ยอมมาเจอฉันซะอีก”
หานมู่จื่อหยุดไปครู่หนึ่ง มองใบหน้าที่เงียบสงบและสง่างามราวกับลมของเขา เมื่อเปรียบเทียบกับเรื่องที่เขาแอบทำแล้วนั้น เธอก็อดรู้สึกเย้ยหยันไม่ได้ ดังนั้นริมฝีปากสีแดงของเธอก็คลี่ยิ้มที่เยาะเย้ยออกมา พร้อมกับพูดเชิงประชดประชัน “ถ้าเกิดว่าฉันไม่ยอมเจอนาย ประธานเย่หลิ่นหานก็มีวิธีบังคับให้ฉันติดต่อนายมาเองอยู่ได้ไม่ใช่เหรอ? ”
คำว่าประธานเย่หลิ่นหาน รอยยิ้มที่มุมปากของเย่หลิ่นหานก็จางลงไปเยอะ สายตาที่เขามองหานมู่จื่อนั้นดูไม่มีทางเลี่ยง
“ทำไม? ตอนนี้เธอเห็นว่าฉันเป็นศัตรูขนาดนั้นเลยงั้นเหรอ? ฉันทำผิดอะไรไปงั้นเหรอ? ”
“เป็นศัตรู? ”
หานมู่จื่อยิ้ม “นายคิดว่าฉันเห็นนายเป็นศัตรูตรงไหน? ”
“ถ้าเกิดว่าไม่ได้เห็นเป็นศัตรู แล้วทำไมเธอถึงไม่ยอมรับว่าฉันเป็นเพื่อน? ทำไม……ถึงได้เรียกฉันว่าประธานเย่หลิ่นหานอย่างห่างเหินแบบนี้ด้วย? ”
หานมู่จื่อมองเขา ไม่พูดอะไร
แต่ว่าเห็นได้ชัดว่ารอยยิ้มบนใบหน้าของทั้งสองคนหายไปแล้ว
เย่หลิ่นหานมองเธออยู่นาน สุดท้ายก็ยอมแพ้อย่างไม่มีทางเลี่ยง เขาถอนหายใจออกมา “เฉียวเฉียว อย่าทำกับฉันแบบนี้แล้ว ฉันเคยบอกเธอแล้วไง ว่าฉันไม่ได้มีเจตนาร้าย”
“ถ้ายังงั้นนายต้องการอะไร? ” หานมู่จื่จ้องหน้าเขานิ่ง “ถ้าเกิดว่านายไม่ได้มีเจตนาร้าย ก็ควรจะไม่ทำอะไรเลยไม่ใช่เหรอ? ผู้จัดการอี้ รวมถึงสัญญาฉบับนั้น นายวางแผนมาหมดแล้วใช่ไหม? ”
พอได้ยินประโยคนี้ เย่หลิ่นหานก็ถอนหายใจออกมาอย่างแรงอีกครั้ง
“ดูแล้วในสายตาเธอ พี่ใหญ่เป็นคนเลวร้อยเปอร์เซ็นต์เลยสินะ”
พี่ใหญ่……
คำเรียกนี้ฟังแล้วดูห่างไกลมาก หานมู่จื่อตะลึงไปชั่วขณะ แล้วก็พูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา “ฉันกับเย่โม่เซินไม่ได้เป็นสามีภรรยากันแล้ว นายก็ไม่ใช่พี่ฉันแล้ว”
“ในที่สุดเธอก็ยอมรับแล้วว่าฉันไม่ใช่พี่เธอ” เย่หลิ่นหานค่อยๆ คลี่ยิ้มออกมา “เมื่อห้าปีก่อนฉันไม่อยากให้เธอเรียกฉันว่าพี่ แต่ว่าเธอก็ไม่ยอม แต่ว่าตอนนี้หลังจากผ่านมาห้าปี แม้แต่คำว่าพี่เธอก็ไม่ยอมเรียกฉันแล้ว แต่ว่าทำไมฉันถึงได้รู้ว่าเศร้ามากกว่าเดิมกันนะ? ”
หานมู่จื่อ :“……”
“พูดตามตรง ที่อี้เทียนไปคุยกับเธอเรื่องสัญญา ฉันไม่รู้เรื่องเลย ฉันรู้หลังจากที่เขามารายงาน ว่าฝ่ายที่จะร่วมงานด้วยก็คือเธอ”
ประโยคนี้ เย่หลิ่นหานพูดด้วยความจริงใจมาก น้ำเสียงก็จริงจังมากเช่นกัน สีหน้าและแววตาของเขาไม่ได้เหมือนว่ากำลังโกหกอยู่เลย แต่ว่าหานมู่จื่อไม่ค่อยอยากจะเชื่อเขาเท่าไหร่
เธอรู้สึกว่า เรื่องนี้มันไม่ได้บังเอิญขนาดนั้น จะเป็นไปได้ยังไงที่เขาจะรู้หลังจากได้รับการรายงาน?
ถ้าเกิดว่ารู้หลังจากที่ได้รับรายงานจริง ถ้ายังงั้น……ท่าทางของอี้เทียนที่มีต่อเธอนั้นมันคือเรื่องอะไรกัน?
แน่นอนว่าเธอไม่ได้พูดอะไรพวกนี้ออกมา เย่หลิ่นหานกลับยิ้มแล้วก็พูดเบาๆ ว่า “พอแล้ว ในเมื่อพวกเรามาเจอกัน ก็ไม่ควรจะพูดเรื่องที่ไม่มีความสุขสิ วันนี้เธอยอมมาเจอฉัน ฉันดีใจมากเลยนะ”
หานมู่จื่อเม้มริมฝีปากของเธอ ไม่ได้ตอบอะไรเขา
“ถ้าเกิดว่าเธอไม่ยอมเรียกฉันว่าพี่ล่ะก็ ก็เลยชื่อฉันก็ได้ อย่าเรียกว่าประธานเย่หลิ่นหานเลย”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เจ้าสาวมือสองของคุณชายเย่