บทที่ 63 ไม่ซื่อสัตย์
หานเส่โยวทำท่าจะผลักประตูเข้าไป
เสิ่นเฉียวตกใจจนหน้าซีด เธอรีบเดินไปคว้าตัวหานเส่โยวเอาไว้
หานเส่โยวเบะปากมองบนอย่างเซ็ง:“โถ่ ให้ฉันได้เข้าไปเห็นด้วยตาหน่อยสิ”
เสิ่นเฉียวไม่ยอมให้เธอได้มีโอกาสนั้น ก่อนจะพาเธอกลับไปที่เดิม:“เส่โยว อย่าซนสิ เดี๋ยวเขาจะโมโหเอา”
“ก็ได้ๆ เห็นแก่เธอหรอกนะ งั้นรอให้เขาเลิกงานก่อนค่อยดูก็ได้ จริงสิเฉียวเฉียว คุณชายเย่เขาชอบหัวเสียใส่เธอบ่อยมั้ย?”
เสิ่นเฉียวคิดอยู่สักพัก เอียงหัวเล็กน้อยก่อนจะตอบไปว่า:“หัวเสียใส่ไม่มีนะ แค่ฉันแต่งงานเข้าไปอยู่ในตระกูลเย่แค่นี้ก็ทำให้เขาลำบากแล้ว แถมขาของเขาก็ยังเจ็บอีก ถึงจะโมโหใส่แต่ฉันก็เข้าใจได้ล่ะนะ”
“จริงเหรอ?”หานเส่โยวนั่งคิด“อันที่จริงฉันรู้สึกว่าการที่เขาสามารถทำให้เธออยู่ที่ตระกูลเย่ได้ นั่นก็แสดงว่าเขาไม่ธรรมดาเลยนะ และ……ฉันดูจากท่าทางของเขาแล้ว ก็ไม่เหมือนกับคนที่ไร้สมรรถภาพทางเพศเลย คุณชายเย่คนนี้……ดูไม่ค่อยจะเหมือนกับในเรื่องเล่าเท่าไหร่เลยนะ”
รอจนถึงเวลาเลิกงาน หลังจากเย่โม่เซินออกไปแล้ว เสิ่นเฉียวถึงพาหานเส่โยวไปที่ห้องทำงาน
“แค่ดูเฉยๆนะ ห้ามอยู่นาน ห้ามแตะต้องของในนั้นด้วย ไม่งั้นโดนจับได้แน่”
หานเส่โยวทำตามที่บอก หลังจากดูห้องทำงานเสร็จก็เดินตามเสิ่นเฉียวออกมา ระหว่างทางที่ไปส่งเธอกลับบ้าน อยู่ๆก็มีความคิดแปลกๆผุดขึ้นมา:“เฉียวเฉียว คืนนี้ฉันไปเป็นแขกบ้านเธอนะ?”
ได้ยินแบบนั้น เสิ่นเฉียวก็มือไม้สั่น เธอมองไปทางหานเส่โยวด้วยท่าทีที่แปลกประหลาดใจ:“เส่โยว?”
หานเส่โยวหลุดหัวเราะออกมาทันที:“ฉันหมายความว่า ฉันจะไปเยี่ยมเธอในฐานะแขกของบ้านเธอไง เธอแต่งงานไปอยู่ที่ตระกูลเย่ตั้งนานแล้วน่าจะยังไม่มีใครไปหาเธอเลยใช่มั้ย?ฉันคิดว่าฉันน่าจะไปสักหน่อย ให้คนบ้านตระกูลเย่รู้บ้างว่าเธอก็มีคนหนุนหลังอยู่นะ แบบนี้พวกนั้นจะได้ไม่กล้ามารังแกเธอ”
ที่เธอพูดมาก็ฟังดูมีเหตุมีผล ดูน่าเชื่อถือ เสิ่นเฉียวไม่ได้คิดว่าเอายังไง ได้แต่ก้มหน้าก้มตาไม่พูดไม่จา
หานเส่โยวเห็นเธอเงียบไป เหมือนจะไม่ค่อยดีใจ ข้างในจึงรู้สึกกระอักกระอ่วน มือที่จับพวงมาลัยอยู่ก็สั่นเทา ก่อนจะพูดออกไปว่า:“ถ้าเธอไม่สะดวกจริงๆ งั้นฉันยังไม่ไปก็ได้นะ?”
“ไม่ใช่ไม่สะดวก ฉันแค่กำลังคิดว่า……ฉันแต่งงานมาตั้งนานขนาดนี้ แต่ก็ไม่เคยมีใครไปหาฉันที่บ้านตระกูลเย่เลยจริงๆซักคน”
หานเส่โยวที่กำลังขับรถอยู่ก็หยุด แล้วนึกถึงพ่อแม่ของเธอ ก่อนจะพูดปลอบเธอว่า:“ฉันก็ไปหาแล้วนี่ไง?เฉียวเฉียว เธอนับฉันเป็นคนหนึ่งในครอบครัวของเธอได้เลยนะ”
เสิ่นเฉียวยิ้ม แล้วก็สวมกอดคอของหานเส่โยว:“เส่โยว ขอบคุณนะ”
สุดท้ายหานเส่โยวก็กลับบ้านไปพร้อมๆกับเสิ่นเฉียว ทว่าเธออยู่ในบ้านตระกูลเย่แต่ไม่มีตำแหน่งใดๆ ดังนั้นเสิ่นเฉียวจึงต้องไปถามความเห็นของนายท่านก่อน แต่ระหว่างทางที่กำลังไปก็ไปเจอเข้ากับเย่หลิ่นหาน
หลังจากเย่หลิ่นหานได้ฟังเหตุผลของเธอแล้ว ก็อธิบายให้เธอเบาๆว่า:“คุณปู่ยังโมโหเรื่องก่อนหน้านี้อยู่ ดังนั้นผมไม่แนะนำให้คุณไปหาแกนะ มีอะไรมาคุยกับผมก่อนมั้ย?”
เสิ่นเฉียวคิดอยู่ซักพัก ก่อนจะพูดเรื่องการพาหานเส่โยวมาเป็นแขกที่บ้านกับเย่หลิ่นหาน พูดเสร็จก็ก้มหน้าก้มตา และพูดขึ้นอย่างประหม่าว่า:“ฉันไม่รู้ว่าจะได้มั้ย……เลยอยากจะมาถามความเห็นของนายท่าก่อนค่ะ”
“ไม่เป็นไร เสิ่นเฉียว ตอนนี้เธอเองก็เป็นหนึ่งในคนของบ้านตระกูลเย่นะ การตัดสินใจเรื่องพวกนี้เธอสามารถตัดสินใจเองได้เลยนะ ถ้าอยากพาเพื่อนมาก็พามาเลย”เย่หลิ่นหานยังคงถ่อมตัวและมีมารยาทเหมือนเดิม เสิ่นเฉียวเกือบจะมีความสงสัยในตัวเองว่าเข้าใจเขาผิดไปหรือเปล่า
เสิ่นเฉียวไม่ทันสังเกตุว่าเย่หลิ่นหานเรียกชื่อเธอเปลี่ยนไป และเธอเองก็ลืมไปว่าอยู่ที่นี่เธอชื่อเสิ่นโย่ว
“ขอบคุณค่ะพี่ งั้นฉันไปพาเพื่อนเข้ามาก่อนนะคะ”
“อื้ม ไปเถอะ”เย่หลิ่นหานยิ้มให้ แล้วอยู่ๆก็ยื่นมือไปลูบหัวของเธอ:“ได้ข่าวว่าเมื่อคืนเธอเข้าโรงพยาบาลเหรอ อาการไม่หนักใช่มั้ย?”
ท่าทางที่เขาเอามือมาลูบหัวนั้นมันดูเอ็นดูเกินไปจริงๆ เสิ่นเฉียวถอยหลังออกมาหนึ่งก้าวตามสัญชาตญาณ แล้วส่ายหัวบอกไปว่า:“ขอบคุณพี่ใหญ่ที่เป็นห่วงค่ะ อาการฉันไม่หนักอะไร ฉันไปรับเพื่อนมาก่อนนะคะ”
“ฉันไปกับเธอด้วยดีกว่า”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เจ้าสาวมือสองของคุณชายเย่