บทที่671 เหมือนยืนอยู่บนเส้นบางๆไม่มีความแน่นอน
ก้อนหินที่กดทับอยู่บนหัวใจของเย่โม่เซินดูเหมือนจะถูกเอาออกไปทันที แต่เสี่ยวหมี่โต้วกลับส่งเสียงฮึดฮัดออกมาเบาๆ และมีแค่เขาที่ได้ยินคนเดียว
แด๊ดดี้ทำถึงขนาดนี้แล้ว หม่ามี๊ยังจะช่วยพูดแทนอีก
เสี่ยวหมี่โต้วรู้สึกไม่พอใจจึงบ่นพึมพำออกมา “แล้วเขาดีกับหม่ามี๊ไหมครับ ถ้าเขาไม่ดีกับหม่ามี๊ล่ะก็ เสี่ยวหมี่โต้วก็จะไม่เอาแด๊ดดี้คนนี้แล้ว”
พอได้ยินถึงตรงนี้ เย่โม่เซินรู้สึกหวั่นใจขึ้นมา และรู้สึกปวดหัวจนต้องนวดขมับตัวเองเบาๆ
เด็กคนนี้…
ทำไมถึงรู้สึกว่าเขาซุกซนมากและยังคอยหาเรื่องตนเองตลอดเลยล่ะ
แต่พอมาคิดดูดีๆ มันก็ไม่ใช่เรื่องแปลก ถ้าหากเขาเป็นเสี่ยวหมี่โต้ว ถ้ามีผู้ชายแปลกหน้ามาปรากฏตัวต่อหน้าแล้วบอกว่าเป็นพ่อแท้ๆของตนเอง เขาเองก็คงจะต่อต้านเหมือนกัน เพราะตลอดเวลาห้าปีที่ผ่านมาเขาไม่เคยทำหน้าที่ของพ่อเลย พอปรากฏตัวขึ้นมากะทันหัน ลูกจะเชื่อได้ยังไงกัน
เรื่องพวกนี้… ต้องใช้เวลา
พอคิดได้แบบนั้น เย่โม่เซินถึงสบายใจขึ้นบ้าง
“ไม่ว่าลูกจะต้องการหรือไม่ต้องการ เขาก็คือพ่อของลูกอยู่ดี” หานมู่จื่อถอนหายใจออกมา ก่อนจะพูดเสียงเบา “ เขาอยู่ข้างๆไหม”
เสี่ยวหมี่โต้วจงใจมองไปทางเย่โม่เซิน แล้วส่ายหน้า “ไม่อยู่ครับหม่ามี๊”
“งั้นลูกฟังที่หม่ามี๊พูดนะ”หานมู่จื่อมองไปที่ลูกชายของตัวเองด้วยสายตาอ่อนโยน ก่อนจะยิ้มออกมา แล้วพูด “ไม่ว่าเมื่อก่อนเขาจะอยู่ที่ไหน แต่ตอนนี้เขาปรากฏตัวออกมาแล้ว งั้นเขาก็คือแด๊ดดี้ของลูก ถึงแม้ลูกจะไม่ยอมรับเขาเป็นแด๊ดดี้ของลูก แต่เขาก็ยังเป็นแด๊ดดี้ของลูกอยู่ดี ดังนั้น… ถึงลูกจะยอมรับหรือไม่ยอมรับก็ไม่ใช่ปัญหา อีกอย่างตลอดห้าปีที่ผ่านมา… หม่ามี๊เองก็ทำเรื่องที่ผิดไปบ้างเหมือนกัน แต่ตอนนี้ทุกอย่างชัดเจนแล้ว ดังนั้นนะเสี่ยวหมี่โต้ว… ถือว่าเห็นแก่หน้าของหม่ามี๊ อย่าทำให้แด๊ดดี้ของลูกลำบากใจเลยนะ ได้ไหมลูก”
ในเวลานี้หานมู่จื่อกำลังคิดอะไรอยู่อย่างนั้นเหรอ
ที่จริงแล้วเธอเข้าใจความรู้สึกของเย่โม่เซินดี ถ้าหากเป็นเธอ เธอคงจะรับไม่ได้เหมือนกัน
โดยเฉพาะปัญหาสองเรื่องสุดท้าย นั่นคือสิ่งที่เย่โม่เซินใส่ใจมากที่สุด
นั่นก็คือเย่หลิ่นหาน ถึงแม้ว่าเขาจะไม่เคยพูดต่อหน้าหานมู่จื่อว่าแค้นเคืองเย่หลิ่นหาน
แต่ว่าคนที่ทำลายชีวิตครอบครัวของตัวเอง เขาจะไม่แค้นเคืองเย่หลิ่นหานได้ยังไงกัน
ความรู้สึกที่ถูกมือที่สามมาทำลายครอบครัว หานมู่จื่อเองก็มีเจอมาเหมือนกัน ในตอนนั้นความสัมพันธ์ระหว่างเธอกับหลินเจียงแตกหักก็เพราะมีมือที่สามเข้ามาเหมือนกันไม่ใช่หรือไง เธอเองก็รังเกียจเหมือนกัน
ดังนั้นเธอจึงเข้าใจความรู้สึกของเย่โม่เซินดี
เสี่ยวหมี่โต้วแก้มป่อง แล้วพูดอย่างไม่พอใจ “หม่ามี๊ คิดเพื่อเขาถึงขนาดนี้ เขารู้หรือเปล่าครับ”
คำพูดนี้เด็กน้อยจงใจพูดให้เย่โม่เซินที่ยืนอยู่อีกมุมในห้องฟัง เย่โม่เซินลูบคางตัวเอง เขารู้สึกว่าภาพลักษณ์ของตัวเองต่อหน้าลูกชายไม่มีอะไรดีเลย
เดิมทีเด็กน้อยก็โกรธเขามากอยู่แล้ว ตอนนี้เขายังพามาที่บ้าน โดยไม่พาหม่ามี๊ของเด็กน้อยมาด้วย เสี่ยวหมี่โต้วคงจะโกรธเขามากกว่าเดิมแน่ๆ
เย่โม่เซินเม้มปาก รู้สึกทำตัวไม่ถูกเล็กน้อย
แต่ทางฝั่งหานมู่จื่อกลับยิ้มบาง “เอาล่ะ เด็กน้อยอย่าถามเรื่องของผู้ใหญ่เยอะ ต้องทำยังไง หม่ามี๊รู้ขอบเขตดี พรุ่งนี้อย่าลืมให้แด๊ดดี้ของลูกไปส่งลูกที่โรงเรียนนะ ส่วนกระเป๋าเรียนเดี๋ยวหม่ามี๊เอาไปให้ที่โรงเรียน เข้าใจไหม”
“อ้อ” เสี่ยวหมี่โต้วพยักหน้าเข้าใจ แต่ก็ยังรู้สึกสงสารหม่ามี๊ของตัวเองมาก
“ดึกแล้ว ลูกรีบนอนได้แล้ว ห้ามไปแอบหลับในห้องเรียน”
“ราตรีสวัสดิ์ครับหม่ามี๊ จุ๊บจุ๊บ”
เสี่ยวหมี่โต้วส่งจูบผ่านหน้าจอโทรศัพท์ ก่อนจะกดวางสายวิดีโอคอลไป
หลังจากเก็บโทรศัพท์แล้ว เสี่ยวหมี่โต้วก็นอนลงบนโซฟา แล้วพูดเบาๆ “ฮึ หม่ามี๊ซื่อบื้อ”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เจ้าสาวมือสองของคุณชายเย่