เจ้าสาวมือสองของคุณชายเย่ นิยาย บท 749

บทที่ 748 ฉันคิดวิธีออกแล้ว

หลังจากที่หานมู่จื่อฟื้นขึ้นมาแล้ว ก็นั่งอยู่ข้างเตียง ด้านหลังมีหมอนสองใบหนุนอยู่ แววตาเลื่อนลอย ไม่รู้ว่ามองไปทางไหน

ซูจิ่วรินน้ำอุ่นแก้วหนึ่งส่งให้เธอ หานมู่จื่อไม่รับ ซูจิ่วได้แต่ถอนหายใจ วางแก้วน้ำในมือลง แล้วพูดว่า“ความจริงคุณชายเย่ตอนนี้……ไม่ใช่คุณชายเย่คนก่อนอีกแล้ว จะพูดให้ถูกก็คือ ตอนนี้เขาไม่ได้ชื่อว่าเย่โม่เซินแล้ว ชื่อแซ่ของเขาถูกตระกูลยู่ฉือเปลี่ยนไปแล้ว ตอนนี้เขาชื่อว่ายู่ฉือเซิน”

“ยู่ฉือเซิน……”

หานมู่จื่อพึมพำชื่อนี้ สัมผัสได้ถึงความขมขื่นในปาก

“ดังนั้น คุณจะบอกฉันว่า ตอนนี้เขาไม่รู้จักฉันแล้ว ไม่ใช่แค่ไม่รู้จัก แต่ไม่ได้ชื่อว่าเย่โม่เซินแล้ว…..แต่เปลี่ยนชื่อเป็นยู่ฉือเซินอย่างนั้นเหรอ ฉันรับไม่ได้ และก็ไม่อยากจะเชื่อ พวกคุณต้องตามหาผิดคนแล้ว เย่โม่เซินของฉัน จะไม่รู้จักฉันได้ยังไง”

ซูจิ่ว“คุณหนูมู่จื่อ แต่ความจริงมันก็คือแบบนี้นะคะ คุณชายเย่เองก็คงจะไม่ได้เป็นคนเปลี่ยนชื่อเอง เขาคงจะไม่ได้รู้เรื่องอะไร”

“ไม่รู้……”หานมู่จื่อหลับตาลง “พวกคุณต้องหามาผิดคนแน่”

ซูจิ่วถอนหายใจอีกครั้ง“คุณหนูมู่จื่อคิดอะไรอยู่คะ คุณคิดว่าเรื่องนี้มันน่าเหลือเชื่อ คุณจะฟังที่ฉันวิเคราะห์สักหน่อยได้มั้ยคะ”

เธอไม่ได้ตอบรับ แต่เธอก็ไม่ได้ปฏิเสธ

ซูจิ่วจึงอธิบายว่า“ไม่ทราบว่าคุณหนูมู่จื่อเคยได้ยินอาการสูญเสียความทรงจำหรือไม่”

ปลายนิ้วหานมู่จื่อสั่นระริก หันหน้ามาหาซูจิ่ว

“คุณจะบอกว่า……”

ซูจิ่วพยักหน้า

“ถูกต้องค่ะ อาการของคุณชายเย่ตอนนี้ก็คือความจำเสื่อม มิเช่นนั้นด้วยความรู้สึกที่เขามีแต่คุณหนูมู่จื่อ จะอย่างไรเสียก็ไม่มีทางลืมได้ ครั้งแรกที่เราพบเขา เขาก็จำพวกเราไม่ได้เหมือนกัน พวกเราเองก็ไม่รู้ว่าตอนที่เครื่องบินเกิดอุบัติเหตุนั้นเกิดเรื่องอะไรขึ้นบ้าง แต่คุณชายเย่ต้องเกิดการกระทบกระเทือนทางสมองแน่นอน จึงทำให้ลืมเหตุการณ์ในอดีต”

“ได้รับการกระทบกระเทือนทางสมองเหรอ”ริมฝีปากสีชมพูของหานมู่จื่อสั่นเล็กน้อย รู้สึกยากที่จะเชื่อ

“อาการแบบนี้พวกเราได้สอบถามไปทางแพทย์ผู้เชี่ยวชาญแล้ว สมองได้รับการกระทบกระเทือนอย่างรุนแรง มีโอกาสเกิดอาการได้หลายอย่าง การสูญเสียความทรงจำก็เป็นหนึ่งในนั้น จากท่าทีที่คุณชายเย่แสดงออกต่อคุณหนูมู่จื่อ พวกเราจึงคาดว่าคุณชายเย่น่าจะความจำเสื่อม แต่ว่า….ไม่ใช่ว่าจะรักษาให้หายเป็นปกติไม่ได้ แต่ในทางการแพทย์ไม่ได้มีวิธีรักษาที่ระบุไว้ชัดเจน คนที่สูญเสียความทรงจำต้องหมั่นพูดคุยอยู่กับคนรู้จัก ไปในสถานที่คุ้นเคย ใช้วิธีนี้มากระตุ้นความทรงจำของเขา ให้ความทรงจำของเขาค่อยๆฟื้นคืนเรื่องในอดีต แต่ว่า…..ถ้าหากผู้ป่วยรับไม่ไหว ก็ไม่อาจฝืนทำหลายครั้ง”

“ความหมายคุณก็คือ……ถ้าฉันพาเขากลับบ้าน หรือให้ฉันคอยอยู่ตรงหน้าเขา อาจจะกระตุ้นความทรงจำในอดีตทั้งหมดของเขาให้ฟื้นคืนกลับมาได้”

คำพูดนี้ของซูจิ่ว ทำให้หานมู่จื่อมีความหวังขึ้นมาบ้าง จากเดิมที่มืดมิดตอนนี้ก็พอจะเห็นแสงสว่างรำไร

มีความหวังถือเป็นเรื่องดี

คนเรา มักจะต้องมีความคาดหวัง จึงจะทำให้ทุกวันยิ่งมีความหมาย

ซูจิ่วพยักหน้า“อาจจะเป็นเช่นนั้น แต่เรื่องนี้ยังไม่แน่นอน คุณหนูมู่จื่อ มีเรื่องมากมายที่เราต้องใช้ความพยายามจึงจะเห็นผล เหมือนเมื่อก่อน ครอบครัวของผู้สูญหายบางคนถอดใจที่จะค้นหา อย่างนั้น…ไม่ว่าผู้สูญหายจะยังมีชีวิตอยู่บนโลกนี้ หรือไม่มีชีวิตอยู่แล้วก็ตาม ในเมื่อครอบครัวเขาทอดทิ้งแล้ว เช่นนั้นเท่ากับว่าจะไม่มีโอกาสได้พบกับคนๆนี้อีก แต่พวกเรายังไม่ถอดใจ สุดท้ายพวกเราก็ตามหาคุณชายเย่จนพบ ดังนั้น….ขอแค่คุณหนูมู่จื่อพยายาม ฉันเชื่อว่าไม่นานคุณชายเย่จะต้องจำเรื่องในอดีตได้แน่ค่ะ”

คำพูดเหล่านี้พูดได้ดีมาก โดยเฉพาะเมื่อพูดกับหานมู่จื่อที่ตกอยู่ในพื้นสีเทาหม่นหมอง สิ่งเหล่านี้เข้ามาเติมสีสันให้กับโลกของเธออย่างมาก

หานมู่จื่อนั่งตัวตรง“แต่ตอนนี้ฉันมีปัญหาอย่างหนึ่ง ในเมื่อเขาไม่รู้จักฉัน แล้วฉันจะไปปรากฏตัวต่อหน้าเขาบ่อยๆได้อย่างไรล่ะ”

“นี่ก็คือปัญหาอย่างหนึ่ง” ซูจิ่วคิดไตร่ตรองอย่างจริงจัง มองหานมู่จื่อยังขมวดคิ้ว จึงยิ้มออกมาโดยไม่รู้ตัว“ไม่ได้กินอะไรมาทั้งวันแล้วเอาอย่างนี้มั้ยคะคุณหนูมู่จื่อลงไปทานอาหารที่ห้องอาหารชั้นล่างเสียหน่อย นอนพัก ไม่แน่ว่าพรุ่งนี้อาจจะคิดหาวิธีได้”

นอนสักตื่นแล้วจะคิดหาวิธีได้จริงเหรอ

แม้ว่าหานมู่จื่อจะไม่ค่อยอยากจะเชื่อเท่าใดนัก แต่เธอก็ไม่อยากให้ลูกในท้องหิว จึงได้แต่พยักหน้า

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เจ้าสาวมือสองของคุณชายเย่