บทที่845 หรือว่าจะไม่ได้ส่งซิกให้ผมงั้นหรอ
“หา?”
หานมู่จื่อคิดว่าเธอได้ยินผิดไป
เย่โม่เซินให้เธอรับเงินของยู่ฉือจินเนี่ยนะ?
“นี่เป็นเงินที่เขาให้กับหลานสะใภ้ของตัวเอง” เย่โม่เซินเอ่ยพูดออกมาอย่างสบายๆ “ครั้งหน้าเขาให้มา คุณก็รับเอาไว้”
หานมู่จื่อ “...”
จู่ๆก็คิดขึ้นมาว่า หลานชายที่ยู่ฉือจินช่วยชีวิตมากลายมาเป็นคนที่วางแผนร้ายกับคุณตาด้วยอีกคนจะทำยังไง?
ในระหว่างที่ทั้งสองคนกำลังพูดกันอยู่นั้น ทันใดนั้นเองหานมู่จื่อก็รับรู้ได้ถึงเสียงเคาะประตูที่ดังขึ้นมาจากทางด้านหลัง เธอตกใจจนแทบจะสะดุ้งตัวโยนออกมา จากนั้นก็รีบเข้าไปหลบข้างหลังเย่โม่เซินทันที
เธอเข้าไปด้านหลังร่างของเขา มือกำเสื้อสูทของเขาจนมีรอยยับออกมา สำหรับคนที่รักสะอาดทั้งยังเป็นโรคย้ำคิดย้ำทำอย่างเขาแล้วนั้น ถ้าเป็นเมื่อก่อนเย่โม่เซินจะต้องอดไม่ได้ที่จะต้องระเบิดอารมณ์ออกไปแน่
แต่ในตอนนี้คนที่ทำให้เสื้อผ้าเขายับนั้นเป็นหานมู่จื่อ มันจึงได้ต่างออกไป
เขาไม่เพียงแต่จะไม่ระเบิดอารมณ์ออกมาแล้ว แต่ภายในใจกลับรู้สึกพอใจขึ้นมาแปลกๆ
คนที่เคาะประตูอยู่ข้างนอกเมื่อไม่ได้ยินการตอบกลับออกมา จึงได้ลองเคาะดูอีกครั้ง ตามมาด้วยเสียงเอ่ยถามที่ดังตามเข้ามา
“ท่านประธานคะ?”
“เป็นพี่หลิน!” หานมู่จื่อเอ่ยเตือนออกไปเบาๆ จากนั้นก็มองออกไปรอบๆ เห็นโต๊ะตัวนั้นแล้ว ก็รีบวิ่งเข้าไปทันที จากนั้นก็ซุกตัวเข้าไปหลบลงใต้โต๊ะตัวนั้น
เย่โม่เซิน “...”
เขากดนวดลงไประหว่างคิ้วไปอย่างปวดหัว เด็กนั่นชอบมุดตัวหลบจนเป็นนิสัยแล้วหรือไง?
“เข้ามา”
หลังจากเสียงเย็นของชายหนุ่มดังขึ้น ประตูห้องทำงานก็ถูกผลักเข้ามา พี่หลินถือซองจดหมายเข้ามา เห็นเย่โม่เซินยืนอยู่ข้างประตูก็เผยสีหน้าของความประหลาดใจออกไปทันที
“ท่านประธาน ท่านประธานกำลังจะออกไป?”
พูดจบ พี่หลินเหมือนกับว่าจะสังเกตเห็นอะไรเข้ายังไงอย่างนั้น สายตาหยุดอยู่ตรงเสื้อสูทของเขา
ปกติแล้วชุดสูทของท่านประธานจะถูกดูแลจนไม่มีรอยยับปรากฏออกมาแม้แต่รอยเดียวอยู่ตลอด แต่มาวันนี้ตรงแขนเสื้อของเขาและตรงบริเวณช่วงเอวของเขากลับมีรอยยับเกิดขึ้นมากมาย เมื่อได้ลองคิดดูแล้วเมื่อกี้นี้เธอเคาะประตูอยู่นานกว่าจะมีการตอบรับออกมาจากทางด้านใน
แต่เรื่องพวกนี้เธอไม่อาจเอ่ยถามออกไปได้ พี่หลินทำได้แค่เพียงยื่นมือส่งของในมือออกไป
“ท่านประธาน เมื่อกี้นี้นายท่านมาค่ะ”
สีหน้าของเย่โม่เซินนิ่งเรียบออกมา เหมือนกับว่าไม่ได้รู้สึกตกใจอะไรกับคำพูดของเธอเลยแม้แต่น้อย ดูเหมือนว่าจะได้เจอกับนายท่านยู่ฉือมาก่อนแล้ว
เมื่อคิดได้อย่างนั้นแล้ว พี่หลินก็ยิ่งเอ่ยออกไปอย่างไม่อ้อมค้อมมากขึ้น “นี่เป็นซองจดหมายที่นายท่านทิ้งไว้ตอนที่เดินออกไปเมื่อครู่ค่ะ ไม่ทราบว่าด้านในเป็นอะไร ก็เลยเอามาให้ท่านประธานค่ะ”
ซองจดหมายงั้นหรอ?
เย่โม่เซินนึกถึงคำพูดของมู่จื่อที่พูดกับเขาเมื่อกี้นี้ จึงเหลือบมองไปยังซองนั้นเล็กน้อย จากนั้นก็รับมาแล้วเปิดมันออกมา
และมันก็เป็นไปอย่างที่คิดจริงๆ เพราะด้านในนั้นมีเช็คเงินอยู่ใบนึง
“ฉันรู้แล้ว ยังมีเรื่องอะไรอีกหรือเปล่า?”
พี่หลินยืนลังเลใจอยู่ตรงนั้นไปสักพักนึง แล้วคิดว่าบอกเรื่องนั้นไปกับเขาไปเลยน่าจะดีกว่า
“นายท่าน...ให้ฉันจัดหาตำแหน่งงานในบริษัทให้กับคุณหนูตระกูลตวนมู่สักตำแหน่งนึงด้วยค่ะ”
ได้ยินอย่างนั้นแล้ว เย่โม่เซินก็ขมวดคิ้วออกมาทันที กลิ่นอายรอบตัวเขาครึ้มทะมึนลง
ผู้หญิงคนนั้น ยังไม่ยอมแพ้อีกสินะ?
ทั้งๆที่ได้พูดกับหล่อนชัดเจนขนาดนั้นแล้ว
เห็นเขาขมวดคิ้วออกมา พี่หลินก็คิดในใจว่ามันเหมือนอย่างที่เธอคิดเอาไว้ไม่มีผิด ว่าท่านประธานยังคงหลบเลี่ยงผู้หญิงด้วยความรังเกียจอยู่ แต่ตวนมู่เสว่ผู้นี้นั้นไม่ใช่คนธรรมดานี่สิ คงจัดการไม่ได้ง่ายๆแน่
พี่หลินคิดอย่างนั้นแล้ว จึงเอ่ยออกไปอย่างพินิจพิจารณา “ดูจากความหมายของนายท่านแล้ว ท่านดูให้ความสำคัญต่อคุณหนูตวนมู่อย่างมาก ถ้าไม่จัดการหาตำแหน่งงานให้ล่ะก็ เกรงว่าจะทำให้นายท่านไม่พอใจได้ แต่ถ้ามอบตำแหน่งงานให้...”
ในวันต่อๆไปนั้น ท่านประธานก็คงจะไม่มีวันที่สงบเลยสักวันแน่
ถึงแม้ว่าท่าทีที่นายท่านแสดงออกมาจะแน่วแน่เป็นอย่างมาก แต่ถึงอย่างไรนี่ก็เกี่ยวข้องกับเย่โม่เซิน ดังนั้นแล้วพี่หลินก็ยังต้องมาปรึกษาเขาดูสักหน่อย
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เจ้าสาวมือสองของคุณชายเย่