เซียนอมตะ 2,500 ปี [我只有两千五百岁] นิยาย บท 135

บทที่ 135 ตลาดแห่งนี้มีแต่พ่อค้าหัวใสทั้งนั้น

“ให้จ่ายเงินสดหรือโอนในมือถือดีครับ?”

ซููเย่ถามพร้อมกับแอดเพื่อนชายชราในแอปวีแชท

“โอนมาเลยดีกว่า”

ชายชราฉีกยิ้ม ก่อนจะยื่นส่งโทรศัพท์ในมือมาให้ซููเย่ ขณะนี้บนหน้าจอกำลังแสดงคิวอาร์โค้ดสำหรับให้ชายหนุ่มสแกนจ่ายเงิน

ซููเย่สแกนและโอนเงินโดยไม่ลังเล

“เรียบร้อยครับ”

ซื้อเสร็จเรียบร้อยแล้วหรือ?

ยังไม่ทันที่หลี่เคอหมิงจะได้ออกปากห้ามปราม ซููเย่ก็โอนเงินเสร็จเรียบร้อยเสียแล้ว

จ่ายเงิน 20,000 หยวนเพื่อซื้อต้นเบญจมาศกระถางเดียวเนี่ยนะ?

หลี่เคอหมิงไม่เข้าใจเลยจริง ๆ

เถ้าแก่เจ้าของแผงดึงโทรศัพท์กลับไปดูด้วยความพอใจ แววตาของเขายามจ้องมองซููเย่เป็นประกายวูบวาบมากกว่าเดิม

“ดูเหมือนคุณจะมีความรู้มากกว่าคนทั่วไปจริง ๆ !” พูดจบ ชายชราก็ส่งโลเคชั่นมาให้ซููเย่

ซููเย่เปิดดูโลเคชั่นนั้น และพบว่ามันเป็นตำแหน่งที่อยู่บริเวณหุบเขาใกล้เคียงนี่เอง

“ไม่ไกลจากเมืองจี้หยางเท่าไหร่ วันไหนว่างคงต้องลองไปสำรวจดูสักที”

ซููเย่คิด หยิบกระถางดอกไม้ขึ้นมาถือ ถามต่อด้วยน้ำเสียงเป็นมิตร “ว่าแต่ทำไมเถ้าแก่ถึงไม่เก็บเบญจมาศกระถางนี้เอาไว้เองล่ะครับ?”

“คุณก็เห็นนะว่าฉันอายุปูนนี้แล้ว เก็บเอาไว้จะมีประโยชน์อะไร สู้เปลี่ยนเป็นเงินมาใช้จ่ายไม่ดีกว่าหรือ?” ชายชราตอบกลับพร้อมยิ้มแฉ่ง

“จริงด้วยสินะ”

ซููเย่พยักหน้าด้วยความเข้าใจ “ถ้าอย่างนั้นก็ขอให้เถ้าแก่อายุยืนหมื่นปีเลยนะครับ”

ชายชราขึงตามองหน้าซููเย่ ก่อนพูดด้วยความไม่สบอารมณ์ “ตอนนี้ไม่กี่ปีฉันก็จะถึงร้อยแล้ว มีอายุยืนแต่ต้องออกมาหาเงินง่ก ๆ ทุกวัน ยังจะอายุยืนเพื่ออะไรอีก ถ้าจะอวยพรฉันนะ คุณขอให้ฉันกลายเป็นมหาเศรษฐีดีกว่า”

ซููเย่เม้มริมฝีปาก ชูกำปั้นให้กำลังใจฝ่ายตรงข้าม จากนั้นจึงได้หมุนตัวเดินออกมาพร้อมกับหลี่เคอหมิง

เมื่อเดินออกมาแล้ว หลี่เคอหมิงก็จ้องมองกระถางเบญจมาศที่อยู่ในมือซููเย่ตลอดเวลา และสุดท้ายเขาก็ต้องถามออกมาเพราะทนสงสัยไม่ไหว “ทำไมเธอต้องจ่ายแพงขนาดนี้ เพื่อซื้อเบญจมาศกระถางนี้ด้วยล่ะ?”

“พอดีญาติผู้ใหญ่ของผมชอบดอกเบญจมาศน่ะครับ ต้นที่สมบูรณ์แบบนี้หายากมาก ผมถือว่าซื้อเอาไปเป็นของฝากญาติผู้ใหญ่ท่านนั้น ไม่ได้คิดอะไรมากเรื่องราคาหรอกครับ”

ซููเย่ตอบ

“พ่อแม่ของเธอคงรวยมากเลยสินะ”

หลี่เคอหมิงตวัดสายตาขึ้นมามองหน้าซููเย่ด้วยความสงสัย “หรือเธอจะเป็นทายาทจากตระกูลใหญ่ เป็นพวกลูกคุณหนูปลอมตัวมาอะไรทำนองนั้น?”

ซููเย่ส่ายหน้าตอบกลับไปและยิ้มด้วยความขบขัน

“ไม่ใช่ครับ”

“ถ้าอย่างนั้นก็ใช้เงินให้มันระวัง ๆ หน่อยสิ”

“เข้าใจแล้วครับอาจารย์”

หลี่เคอหมิงพาซููเย่มาที่หนึ่งในแผงขายสมุนไพรแผงใหญ่ที่สุดในตลาด ร้านนี้มีสมุนไพรจำนวนมากมายหลากหลายคุณภาพ และหน้ากระบะไม้ที่ตั้งอยู่บนแผง ก็มีแผ่นกระดาษติดเอาไว้สำหรับแจ้งว่าด้านในกระบะนั้นมีสมุนไพรชนิดไหนอยู่บ้าง

“ชวนป๋วย”

“ลีลาวดี”

“ย่านพาโหม”

ซููเย่มองดูสมุนไพรเหล่านี้ไม่ต่างจากมองเมล็ดแตงโมสำหรับทานเล่น

เขาเริ่มตรวจสอบสมุนไพรด้วยห้าวิธีที่หลี่เคอหมิงสอนไว้ก่อนหน้านี้…

หลี่เคอหมิงหยิบสมุนไพรที่มีขนาดเท่าเม็ดถั่วขึ้นมาจากกองสมุนไพรเล็ก ๆ ซึ่งปักป้ายเขียนว่า ชวนป๋วย และหันมาพูดกับซููเย่

“ลูกชวนป๋วยที่ดี ต้องไม่มีจุดขาวขึ้นแซม ผลกลมเกลี้ยง ไม่มีเส้นดำตัดผ่าน ใบและดอกมีความสูงกับความกว้างเสมอกัน เมื่อถืออยู่ในมือ มันจะมีลักษณะเหมือนกับดวงจันทร์เต็มดวง”

หลังจากนั้น อาจารย์แพทย์แผนจีนก็ชูลูกชวนป๋วยที่ถืออยู่ในมือให้ชายหนุ่มดู “คราวนี้เธอลองดูนี่ แล้วบอกฉันได้ไหมว่าลูกชวนป๋วยลูกนี้ แตกต่างจากสิ่งที่ฉันอธิบายยังไงบ้าง? ”

ซููเย่รับผลสมุนไพรนั้นไปดูและพบว่ามันมีความแตกต่างจริง ๆ

“ลูกชวนป๋วยผลนี้ไม่ได้ใกล้เคียงกับความเป็นดวงจันทร์เต็มดวงเลยสักนิด กลีบดอกของมันมีขนาดเล็กเกินไป ความกว้างไม่สมดุลกับความสูง และบนตัวผล ก็ยังมีเส้นสีดำพาดผ่านด้วยครับ”

“ถูกต้อง!”

หลี่เคอหมิงพยักหน้า ถอนหายใจและกล่าวต่อ “ถึงป้ายจะเขียนเอาไว้ว่าเป็นผลชวนป๋วย แต่ความจริงแล้ว นี่คือผลผิงเป่ยต่างหาก”

ได้ยินดังนั้น

เจ้าของแผงขายสมุนไพรที่ตอนแรกยืนปั้นหน้ายิ้มแย้มมาบัดนี้สีหน้าก็เปลี่ยนแปลงไปแล้ว

“พูดแบบนี้หมายความว่ายังไง?” เจ้าของร้านถาม น้ำเสียงเย็นชา

ซููเย่ควักเงินออกมาให้ 200 หยวนและบอกว่า “ผมเป็นนักศึกษาจากมหาวิทยาลัยแพทย์แผนจีนจี้หยาง ส่วนคุณลุงคนนี้เป็นอาจารย์ของผมเอง ผมมาที่ตลาดเพื่ออยากจะทดสอบการระบุชนิดสมุนไพรของตัวเองน่ะครับ ไม่ได้ตั้งใจที่จะทำให้คุณไม่พอใจ ต้องขออภัยด้วย…”

เจ้าของร้านรีบรับเงินไปอย่างรวดเร็ว

สีหน้าก็เปลี่ยนแปลงไปอีกแล้วเช่นกัน

รอยยิ้มกลับมาปรากฏอยู่บนริมฝีปาก ก่อนพูดว่า “ถ้าไม่เอาเรื่องนี้ไปพูดกับใคร อยากตรวจสอบสมุนไพรชนิดไหนก็ตามสบาย เดี๋ยวนี้หายากนะที่จะมีอาจารย์ใส่ใจลูกศิษย์ถึงขนาดนี้ นายเองก็ตั้งใจเรียนให้ดีล่ะ พอเรียนจบแล้ว อย่าไปทำตัวเป็นหมอสมุนไพรหลอกเงินชาวบ้านเด็ดขาดเชียวนะ”

ซููเย่พูดอะไรไม่ออก

เจ้าของแผงสมุนไพรแผงนี้ขายสินค้าไม่ตรงปก แล้วยังจะมีหน้ามาสั่งสอนเขาอีกหรือ?

หลี่เคอหมิงถึงกับหลุดหัวเราะออกมาเล็กน้อย ก่อนเริ่มตรวจสอบสมุนไพรบนแผงทุกชนิดอย่างเชื่องช้า

ซููเย่สามารถตรวจสอบสมุนไพรได้อย่างดีเยี่ยม

จังหวะที่ลูกศิษย์และอาจารย์กำลังจะเดินออกมาจากแผงขายสมุนไพรเจ้าปัญหานั้น ผู้เป็นเจ้าของร้านก็ได้ควักนามบัตรออกมาสองใบ ยื่นส่งให้ซููเย่กับหลี่เคอหมิงด้วยความเคารพ

“ความจริงวันนี้ผมเองก็ได้เรียนรู้อะไรมากมาย”

“ถ้ามีโอกาสดีในอนาคต ผมอยากจะติดต่อกับพวกคุณอีก ผมมีเส้นสายสำหรับซื้อสมุนไพรดี ๆ ที่คนอื่นไม่มีทางรู้เด็ดขาด ส่วนแผงขายสมุนไพรแผงนี้ ผมแค่เปิดขายเล่น ๆ ฆ่าเวลาเท่านั้น”

ซููเย่กับหลี่เคอหมิงรับนามบัตรมาเก็บไว้เพื่อไม่ให้เป็นการเสียมารยาท

ต่อจากนั้น พวกเขาก็เดินไปหยุดยืนอยู่ที่แผงขายสมุนไพรอีกแผงหนึ่ง ซึ่งตั้งอยู่ห่างออกไปหลายสิบเมตร

“ดูสิ นี่แหละลูกชวนป๋วยของจริง”

หลี่เคอหมิงหยิบผลสมุนไพรทรงกลมที่มีลักษณะเหมือนกับลูกผิงเป่ยขึ้นมาจากแผง

ซููเย่สังเกตดูอย่างละเอียด ทบทวนตำหนิและจุดสังเกตที่หลี่เคอหมิงสอนไว้ก่อนหน้านี้ แล้วเขาก็ต้องพยักหน้าด้วยความเข้าใจทันที

“ดูเหมือนร้านนี้จะขายของแท้หมดเลย ดูนี่…”

หลี่เคอหมิงเริ่มต้นอธิบายสมุนไพรแต่ละชนิดด้วยความตื่นเต้น

เจ้าของร้านยืนกอดอกรับฟัง สีหน้าถมึงทึง

ตอนแรกเขานึกว่าลูกค้าคู่นี้มาเพื่อหาเรื่อง แต่พอรับฟังไปได้หลายประโยค จึงได้ยินชายหนุ่มและชายวัยกลางคนทั้งสองพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า สมุนไพรที่เขาขายนั้นคือของแท้และมีคุณภาพอยู่ในระดับดีมาก

แสดงว่าลูกค้าทั้งสองท่านนี้ต้องเป็นบุคลากรในวงการแพทย์แผนจีนแน่ ๆ

ดังนั้น ชายหนุ่มเจ้าของร้านจึงยิ้มออกมาด้วยความกระตือรือร้น

“ลูกค้าทั้งสองท่าน ไม่ทราบว่ามาจากไหนกันหรือครับ?” เจ้าของร้านเอ่ยถามด้วยความเป็นมิตร

“ผมเป็นอาจารย์จากมหาวิทยาลัยแพทย์แผนจีนจี้หยาง วันนี้พาลูกศิษย์มาสำรวจดูตลาดสมุนไพร ต้องขอโทษเถ้าแก่ด้วยที่ทำให้การค้าขายล่าช้า”

หลี่เคอหมิงพูดอย่างสำรวม

“เป็นอาจารย์จากมหาวิทยาลัยแพทย์แผนจีนจี้หยางหรือครับ?” เจ้าของร้านตาลุกวาว

หลี่เคอหมิงพยักหน้า

“ถ้าอย่างนั้นก็ดีเลยครับ” ชายหนุ่มเจ้าของร้านพูดออกมาทันที “ต้องการสมุนไพรชนิดไหนบอกมาได้เลย ผมยินดีลดราคาให้เป็นพิเศษ”

“เดี๋ยวผมขอดูก่อนนะ”

หลี่เคอหมิงยิ้มตอบกลับไปและเริ่มต้นอธิบายสมุนไพรแต่ละชนิดต่อจากเดิม

ชายหนุ่มรับฟังด้วยความตั้งอกตั้งใจ

ตั้งแต่ก้าวแรกที่เดินเข้ามาในตลาดแห่งนี้ ชายหนุ่มก็พอจะรับทราบได้โดยทันที

สมุนไพรที่วางขายอยู่ในตลาดนี้ ไม่มีชนิดใดเป็นสมุนไพรคุณภาพสูงอย่างที่เขาต้องการเลย

สมุนไพรที่เขาต้องการจำเป็นต้องมีพลังปราณธรรมชาติบรรจุอยู่ด้านใน มันอาจจะมีลักษณะไม่ตรงกับความสมบูรณ์แบบที่ถ่ายทอดกันมาในตำราแพทย์แผนจีน แต่มีความเหมาะสมสำหรับการนำไปหลอมโอสถเป็นอย่างยิ่ง

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เซียนอมตะ 2,500 ปี [我只有两千五百岁]