เซียนอมตะ 2,500 ปี [我只有两千五百岁] นิยาย บท 146

สรุปบท บทที่ 146 เกมนี้ต้องมีบั๊กแน่ ๆ: เซียนอมตะ 2,500 ปี [我只有两千五百岁]

สรุปเนื้อหา บทที่ 146 เกมนี้ต้องมีบั๊กแน่ ๆ – เซียนอมตะ 2,500 ปี [我只有两千五百岁] โดย Internet

บท บทที่ 146 เกมนี้ต้องมีบั๊กแน่ ๆ ของ เซียนอมตะ 2,500 ปี [我只有两千五百岁] ในหมวดนิยายกำลังภายใน เป็นตอนที่โดดเด่นด้วยการพัฒนาเนื้อเรื่อง และเปิดเผยแก่นแท้ของตัวละคร เขียนโดย Internet อย่างมีศิลป์และชั้นเชิง ใครที่อ่านถึงตรงนี้แล้ว รับรองว่าต้องติดตามตอนต่อไปทันที

บทที่ 146 เกมนี้ต้องมีบั๊กแน่ ๆ

ทันใดนั้น ใบหน้าของผู้คุ้มกันมีความเย็นชามากขึ้น พลังลมปราณที่แผ่ออกจากร่างกายก็รุนแรงมากขึ้น

เขาสะกิดปลายเท้าลงบนพื้นเวที ใช้แรงกระแทกที่เกิดขึ้นระหว่างเซถอยหลังเป็นแรงเหวี่ยงหมุนตัวเตะกลับหลังฟาดส้นเท้าเข้าใส่ศีรษะของซูเย่

“ผลั่ก!”

เขาไม่ได้ขยับหลบหนี แต่ยกแขนขึ้นมาปิดด้านข้างศีรษะของตนเอง ทำให้สามารถป้องกันการโจมตีด้วยส้นเท้าของผู้คุ้มกันได้ทันเวลา

ซูเย่ยังคงไม่ได้บุกตะลุยไปข้างหน้า

เขาถูกโจมตีถึงสองกระบวนท่า แต่ก็ยังไม่ได้ตอบโต้กลับไป

ผู้คุ้มกันรีบหมุนตัวทิ้งระยะห่าง หันหน้ากลับมาถลึงตามองชายหนุ่มด้วยความระมัดระวัง

บรรดาผู้เล่นที่ติดตามมารับชมการต่อสู้ ล้วนเบิกตาโตด้วยความตกตะลึงอีกครั้ง

ผู้คุ้มกันสังเวียนมีความแข็งแกร่งมากไม่ใช่หรือ?

สองกระบวนท่าที่โจมตีออกมาเมื่อสักครู่นี้ หากเปลี่ยนเป็นคนอื่นคงไม่สามารถต้านทานได้แล้ว

แต่เจ้าเวรกรรมกลับรับมือได้อย่างสบาย

ทุกสายตาจ้องมองไปที่ซูเย่ด้วยความตื่นเต้น

หมอนี่แข็งแกร่งถึงขนาดนี้ได้ยังไงกันเนี่ย!

“หรือว่าเขาจะเอาชนะผู้คุ้มกันได้จริง ๆ?”

คำถามนั้นปรากฏขึ้นมาในจิตใจของหวังเหา

ถึงเขาจะรู้ดีว่าเพลงหมัดขั้นพื้นฐานไม่มีทางเอาชนะวิชาการต่อสู้ของผู้คุ้มกันสังเวียนได้เด็ดขาด

แต่วินาทีต่อมา

ซูเย่ก็เริ่มเคลื่อนไหวแล้ว

การจู่โจมสองครั้งติด ๆ เมื่อสักครู่นี้ ทำให้ชายหนุ่มสามารถประเมินพลังของผู้คุ้มกันสังเวียนได้พอสมควร

เขาเคลื่อนไหวด้วยความรวดเร็วราวสายฟ้าฟาด พร้อมกับปล่อยหมัดชกออกไปที่ศีรษะของอีกฝ่ายด้วยความว่องไว

เมื่อเห็นกำปั้นพุ่งตรงเข้ามาหาตนเอง สีหน้าของผู้คุ้มกันสังเวียนก็เปลี่ยนแปลงไป

เขายกแขนทั้งสองข้างขึ้นมาป้องกันศีรษะ

“ผลั่ก!”

กำปั้นของชายหนุ่มกระแทกเข้าใส่ท่อนแขนของผู้คุ้มกัน

สีหน้าของผู้คุ้มกันเปลี่ยนแปลงไปอีกครั้ง

แรงอัดของพลังลมปราณไม่ได้ซัดใส่เข้ามาอย่างที่คิด

สิ่งที่ผู้คุ้มกันรู้สึกก็คือมันเป็นการกระแทกของหมัดธรรมดา ๆ เมื่อยกมือขึ้นป้องกันแล้ว ก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้นอีก

แต่วินาทีต่อมา ผู้คุ้มกันถึงได้ตระหนักว่ามีนิ้วมือกำลังจ่ออยู่ที่ลำคอของตนเอง

ขอแค่นิ้วมือนั้นทิ่มออกมาข้างหน้าอีกเล็กน้อย

เขาก็จะคอหักเสียชีวิตไปทันที

เขาเบิกตาโตจ้องมองซูเย่อยู่เนิ่นนาน สุดท้ายก็ได้แต่พูดออกมาด้วยใบหน้าบิดเบี้ยวว่า “นายชนะแล้ว!”

ซูเย่ชักมือกลับ

“เท่ากับว่าผมผ่านโหมดนี้แล้วใช่ไหม?”

ซูเย่ถามให้แน่ใจ

“ผ่านแล้ว”

ผู้คุ้มกันมองหน้าชายหนุ่มอีกเล็กน้อย ก็หมุนตัวกลับไปนั่งกลางเวทีเพื่อปรับระดับพลังลมปราณ และรอคอยผู้ท้าดวลคนต่อไปเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น

เห็นดังนั้น กลุ่มผู้เล่นที่ติดตามมารับชมการต่อสู้ก็ถึงกับปากอ้าตาค้าง

เจ้าเวรกรรมชนะแล้วหรือ?

เพิ่งเปิดจุดลมปราณได้เพียงจุดเดียวกลับสามารถเอาชนะผู้คุ้มกันสังเวียนที่มีความแข็งแกร่งที่สุดได้แล้ว?

หวังเหากำลังขมวดคิ้วเฝ้ามองซูเย่ด้วยความประหลาดใจไม่แพ้ทุกคน

“ถ้าให้ต่อสู้กันจริง ๆ นายจะสามารถเอาชนะฉันได้ตั้งแต่ตอนไหน?”

ทันใดนั้น ผู้คุ้มกันส่งเสียงถามออกมาเหมือนติดใจสงสัยอะไรบางอย่าง

“ตั้งแต่ตอนที่คุณโจมตีกระบวนท่าแรก”

ซูเย่ตอบ

ผู้คุ้มกันสังเวียนชักสีหน้าด้วยความไม่พอใจ ก่อนพูดน้ำเสียงทุ้มต่ำ “ถ้าเป็นโลกความจริง นายคงมายืนพูดอยู่แบบนี้ไม่ได้แล้ว”

พูดจบ

เขาก็หลับตานั่งสมาธิไม่สนใจชายหนุ่มอีก

ซูเย่ไม่พูดอะไร หันกลับมากวาดตามองกลุ่มคนดูผู้รับชม และก้าวเดินลงมาจากสังเวียนต่อสู้

หวังเหายืนดูจนซูเย่เดินหายลับไปจากสายตา

“นั่นสิ ทำไมถึงสอนแค่เพลงหมัดระดับพื้นฐานให้พวกเรา แต่เจ้าเวรกรรมกลับได้เรียนเพียงหมัดระดับสูงเฉยเลย?”

ยังคงมีผู้คนตั้งคำถามต่อไปมากมาย

หลังจากนั้น

ทางทีมงานจึงต้องเข้ามาตอบกระทู้ว่า

“เพราะว่าพวกคุณยังมีฝีมืออ่อนด้อยมากเกินไปไงล่ะ”

คำตอบนี้ยิ่งทำให้สถานการณ์ร้อนแรงมากกว่าเดิม

“เฮ้ย! ทีมงานจะดูถูกผู้เล่นแบบนี้ก็ได้เหรอ?”

“พวกเรามีฝีมืออ่อนด้อยมากเกินไป? พูดแบบนี้หมายความว่าไงกันแน่?”

“อ่อนด้อยแล้วจะทำไมล่ะ ฉันอยากเรียนเพลงหมัดระดับสูง ฉันจะไปฝึกฝนได้ที่ไหน ใครจะรู้ว่าฉันอาจมีพรสวรรค์ซ่อนอยู่ก็ได้ ฉันว่าพวกเราหาวิชามาฝึกกันเองเหอะ อย่าไปฝึกตามคู่มือที่ทีมงานแนะนำเลยดีกว่า!”

ทุกคนแสดงความคิดเห็นด้วยความโกรธแค้น

หลังจากนั้นไม่นาน

ทีมงานก็เข้ามาตอบกระทู้อีกครั้ง

“มีเพียงผู้ที่ผ่านโหมดสังเวียนผู้กล้าสำเร็จเท่านั้น ถึงจะได้รับสิทธิ์ให้เรียนรู้เพลงหมัดระดับสูงนะครับ”

นั่นไง!

บอกมาตั้งแต่แรกก็หมดเรื่องไปแล้ว!

ไม่เห็นต้องพูดจาดูถูกกันเลยนี่นา!

เมื่อได้รู้ว่าหากผ่านโหมดสังเวียนผู้กล้าได้สำเร็จ ตนเองก็จะมีโอกาสได้เรียนเพลงหมัดระดับสูง ทุกคนจึงเกิดความตื่นเต้นขึ้นมาแล้ว

พวกเขาไม่เสียเวลาโต้เถียงอยู่ในกระทู้อีกต่อไป ทุกคนกลับมาฝึกซ้อมประลองฝีมือบนเวทีต่อสู้ด้วยความตั้งใจและมุ่งมั่นมากกว่าเดิมหลายเท่า

ในเวลาเดียวกันนี้

เมื่อเดินลงมาจากสังเวียนของผู้คุ้มกัน ซูเย่ก็มุ่งหน้ากลับไปยังน้ำตกซึ่งเป็นทางเข้าของโหมดสังเวียนผู้กล้า

เขาก้าวเท้ากลับเข้าไปในม่านน้ำตก

ซูเย่อยากรู้แล้วว่าโฉมหน้าที่แท้จริงของเกม Fantasy Dream นั้นเป็นอย่างไร

หวังเหาเคยกล่าวเอาไว้ว่าหากผู้เล่นคนไหนสามารถผ่านโหมดสังเวียนผู้กล้าได้สำเร็จ ผู้เล่นคนนั้นก็จะสามารถเข้าสู่เกม Fantasy Dream ที่แท้จริงได้โดยทันที

* บั๊ก หมายถึง ปัญหาที่เกิดขึ้นกับโปรแกรมอันเนื่องมาจากคำสั่งในโปรแกรมนั้นเอง ซึ่งทำให้การทำงานของโปรแกรมไม่ถูกต้อง มีข้อผิดพลาด หรือไม่ราบรื่นเท่าที่ควร นอกจากปัญหาเกี่ยวกับโปรแกรมแล้ว อาจเป็นปัญหาเกี่ยวกับตัวเครื่องก็ได้ คำนี้มาจากคำ bug ที่แปลว่า ตัวด้วง ตัวแมลง ที่ชอบทำให้คอมพิวเตอร์สมัยก่อนเสีย

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เซียนอมตะ 2,500 ปี [我只有两千五百岁]