ตอน บทที่ 159 กระบวนทัพเป็ดแมนดาริน จาก เซียนอมตะ 2,500 ปี [我只有两千五百岁] – ความลับ ความรัก และการเปลี่ยนแปลง
บทที่ 159 กระบวนทัพเป็ดแมนดาริน คือตอนที่เปี่ยมด้วยอารมณ์และสาระในนิยายกำลังภายใน เซียนอมตะ 2,500 ปี [我只有两千五百岁] ที่เขียนโดย Internet เรื่องราวดำเนินสู่จุดสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยใจตัวละคร การตัดสินใจที่ส่งผลต่ออนาคต หรือความลับที่ซ่อนมานาน เรียกได้ว่าเป็นตอนที่นักอ่านรอคอย
บทที่ 159 กระบวนทัพเป็ดแมนดาริน
แต่สู้จนตัวตาย ก็ดีกว่าตายด้วยความหิวโหยละนะ!
“พี่น้องทุกท่าน ฉันตั้งกลุ่มขึ้นมาแล้ว ทุกคนส่งคำขอเข้าร่วมกลุ่มมาได้เลย พวกเราจะไปฆ่าสัตว์ประหลาดด้วยกัน!”
“เมื่อพวกเราร่วมมือร่วมใจ ฉันไม่เชื่อว่าเราจะฆ่าพวกมันไม่ได้!”
“อีกอย่าง ถึงตายแล้วก็กลับเข้าระบบใหม่ได้อีก ตราบใดที่พวกเราหาทางฆ่าสัตว์ประหลาดพวกนี้ได้ การอัปเลเวลก็ไม่ใช่ปัญหาอีกต่อไป พวกเรามาร่วมมือกันเถอะ!”
เพียงไม่กี่นาที เหล่าผู้เล่นก็เริ่มรวมตัวกันแยกเป็นกลุ่ม ๆ
หลังจากนั้น
ก็มีการจัดตั้งทีมขึ้นมามากมาย
พวกเขาส่งเสียงโห่ร้องให้กำลังใจกันและกัน ก่อนจะดาหน้าเดินเข้าหาสัตว์ประหลาดด้วยจิตใจที่ห้าวหาญ
ผลก็คือ
กลุ่มผู้เล่นถูกสัตว์ประหลาดฆ่าตายไปนับไม่ถ้วน
นางไม้ปีศาจเหล่านี้มีความน่ากลัวกว่าที่คิด การโจมตีของพวกมันหนึ่งครั้ง สามารถฆ่าผู้เล่นได้หลายคนในเวลาเดียวกัน
เพียงไม่กี่นาทีเท่านั้น
กลุ่มผู้เล่นที่แยกกันเป็นทีมก็นอนระเกะระกะอยู่บนพื้นดินอย่างหมดสภาพ
ส่วนคนที่ตายร่างกายก็จะเลือนรางหายไปอย่างช้า ๆ
แต่ไม่กี่นาทีหลังจากนั้น พวกเขาก็จะกลับมาอยู่ในจุดเซฟ และเริ่มความพยายามครั้งใหม่อีกครั้ง!
ตอนแรกนั้น
ซูเย่มัวแต่ก้มหน้าก้มตาไล่ล่าฆ่าสัตว์ประหลาดไม่ได้สนใจสิ่งรอบตัว จนเมื่อได้ยินเสียงโห่ร้องด้านหลังดังผิดปกตินั่นเอง เขาถึงได้หยุดชะงักแล้วหันไปมอง
และเขาก็ได้ค้นพบความจริงที่น่าประหลาดใจ
กลุ่มผู้เล่นจำนวนมากรวมทีมกันบุกเข้าหาสัตว์ประหลาดอย่างบ้าคลั่ง แต่ก็ยังถูกพวกมันจัดการง่ายดายมากเกินไปอยู่ดี
“ปล่อยไว้แบบนี้ไม่ดีแน่”
ซูเย่ขมวดคิ้ว
ขืนเป็นแบบนี้ต่อไป มันก็จะไม่เป็นไปตามแผนที่เขาวางไว้น่ะสิ
แผนการของซูเย่ก็คือช่วยเหลือผู้เล่นธรรมดาเหล่านี้ให้อัปเลเวลขึ้นมาให้ได้เยอะที่สุด ในระหว่างที่ผู้เล่น ซึ่งเป็นผู้ฝึกยุทธ์ยังคงต้องเสียเวลาต่อสู้อยู่ในโหมดสังเวียนผู้กล้า
เมื่อผู้เล่นธรรมดาเหล่านี้ได้อัปเลเวลขึ้นมาแล้ว พวกเขาก็จะสามารถเข้าถึงทรัพยากรต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นอาวุธวิเศษ ค่าประสบการณ์ และค่าวรยุทธ์ ที่จะช่วยเพิ่มพูนความแข็งแกร่งให้พวกเขามากยิ่งขึ้น
เพราะยิ่งผู้เล่นธรรมดามีความแข็งแกร่งมากเท่าไหร่ พวกเขาก็ยิ่งสร้างความกดดันให้แก่ผู้เล่น ซึ่งเป็นผู้ฝึกยุทธ์ได้มากเท่านั้น และมันก็จะทำให้ผู้ฝึกยุทธ์เล่นเกมนี้อย่าง ‘มีความสุข’ มากขึ้นเช่นกัน
แต่ในขณะนี้ ทุกครั้งที่ผู้เล่นเสียชีวิต พวกเขาก็จะถูกลดเลเวลกลับลงไปหนึ่งระดับ แล้วจะมีสักกี่คนที่เหลือรอดไปกดดันพวกผู้ฝึกยุทธ์ได้ในท้ายที่สุด?
“ทุกคนหยุดก่อน!”
เทพ X คำรามหลังจากฆ่าสัตว์ประหลาดที่อยู่ตรงหน้าเสร็จสิ้น
ผู้เล่นทุกคนหันมามองเขาเป็นตาเดียว
ซูเย่พูดด้วยน้ำเสียงเป็นมิตรว่า “เดี๋ยวฉันจะสอนพวกนายจัดกระบวนทัพฆ่าสัตว์ประหลาดเอง”
“พวกเราต้องทำยังไงบ้างครับ ท่านเทพ?”
ทุกคนถามออกมาด้วยความตื่นเต้น
“กระบวนทัพเป็ดแมนดาริน!”
ซูเย่ตอบกลับไปน้ำเสียงหนักแน่น
หลังจากนั้น ชายหนุ่มก็เลือกอาสาสมัครมา 11 คน และสอนให้ทุกคนรู้จักการจัดกระบวนทัพเป็ดแมนดาริน ซึ่งเป็นกระบวนทัพที่ถูกคิดค้นโดยแม่ทัพชีจี้กวงแห่งราชวงศ์หมิง ซูเย่ไม่ลืมกำชับให้เหล่าผู้เล่นถ่ายคลิปวิดีโอเอาไว้ เพื่อเผยแพร่ให้ผู้เล่นคนอื่น ๆ ได้รับรู้ในภายหลังอีกด้วย
ซูเย่บรรยายยุทธศาสตร์การโจมตีอย่างละเอียด
ในไม่ช้า ทุกคนก็เข้าใจ
พวกเขาแยกกลุ่มกันบุกโจมตีสัตว์ประหลาดอีกครั้ง
ปรากฏว่าการบุกโจมตีในครั้งนี้แตกต่างจากการบุกโจมตีหลายครั้งก่อนหน้าอย่างสิ้นเชิง
ด้วยการร่วมแรงร่วมใจของทุกคน ในที่สุด พวกเขาก็สามารถโค่นล้มนางไม้เกราะเหล็ก ซึ่งเป็นสัตว์ประหลาดเลเวล 31 ได้สำเร็จเป็นตัวแรก
และไม่ได้มีเพียงตัวเดียวเท่านั้น
หลังจากนั้น เกือบทุกทีมที่จัดตั้งกระบวนทัพเป็ดแมนดาริน ล้วนสามารถสังหารนางไม้เกราะเหล็กได้ทั้งสิ้น
เมื่อเห็นสัตว์ประหลาดล้มตายต่อหน้าเป็นจำนวนมาก
ตอนแรกทุกคนก็ตกตะลึง ก่อนที่ความตกตะลึงจะเปลี่ยนเป็นความตื่นเต้น
“สมแล้วที่เป็นท่านเทพ X ผู้สูงส่ง! ขนาดฉันก็ยังฆ่านางไม้ปีศาจได้สำเร็จ! ทุกคน ฉันทำได้แล้ว!”
“ฉันก็ทำได้แล้วเหมือนกัน!”
“งั้นพวกเราลุยกันต่อเลยดีกว่า!”
กลุ่มผู้เล่นวิ่งเข้าหานางไม้ปีศาจด้วยแววตาดุดัน
พวกเขาโจมตีด้วยกระบวนทัพเป็ดแมนดาริน
ช่วงพักเบรกจากการฝึกฝน ผู้เล่นที่เป็นผู้ฝึกยุทธ์เข้ามาตรวจสอบความเคลื่อนไหวในบอร์ดข้อความ และพวกเขาก็ได้เห็นคลิปวิดีโอของท่านเทพ X ตอนกำลังสอนผู้เล่นธรรมดาให้จัดกระบวนทัพฆ่าฟันสัตว์ประหลาดเพื่ออัปเลเวล
ทุกคนล้วนตกตะลึง
“เทพ X กำลังทำอะไรอยู่เนี่ย?”
“ให้ตายสิ เทพ X กำลังแกล้งเราอยู่ใช่ไหม? กว่าเราจะมีโอกาสได้เข้าไปเล่นเกม ถึงตอนนั้นไม่โดนพวกผู้เล่นธรรมดาอัปเลเวลทิ้งห่างไปไกลแล้วเหรอ?”
“นั่นสิ! อย่างนี้มันเอาเปรียบกันนี่หว่า ผู้เล่นธรรมดามีโอกาสได้อัปเลเวลรัว ๆ ส่วนพวกเราต้องมาติดแหง็กอยู่ในสังเวียนผู้กล้าเนี่ย”
“พวกเราอย่าไปกลัวสิ อย่าลืมนะว่าเราเป็นผู้ฝึกยุทธ์ พวกผู้เล่นธรรมดาจะมาสู้ได้ยังไง ปล่อยให้พวกเขาอัปเลเวลล่วงหน้าไปก่อนเถอะ เดี๋ยวพวกเราตามไปทีหลังก็ยังไม่สาย!”
ในระหว่างที่ผู้เล่นกลุ่มหนึ่งเอาแต่ต่อว่าด่าทอท่านเทพ X ก็ยังคงมีผู้เล่นอีกจำนวนหนึ่งที่รีบกลับเข้าสู่สังเวียนผู้กล้า เพื่อเสริมสร้างความแข็งแกร่งของตนเองให้เพิ่มพูนมากยิ่งขึ้น
ถึงจะรู้สึกเจ็บใจอยู่บ้างก็ตาม
แต่เหล่าผู้ฝึกยุทธ์ก็ได้พบว่ายิ่งพวกเขาขยันฝึกซ้อมในสังเวียนผู้กล้ามากเท่าไหร่ ความแข็งแกร่งของพวกเขาก็ยิ่งเพิ่มมากขึ้นเท่านั้น และถึงแม้ยังจะต้องฝึกหนักอีกเนิ่นนาน แต่ก็ยังดีกว่าไม่ทำอะไรเลยนั่นเอง
ในสังเวียนผู้กล้าขณะนี้
ซูชือกับจินฟานสามารถใช้วิชาหมัดขั้นพื้นฐานได้อย่างชำนาญ และเริ่มฝึกฝนการต่อสู้ด้วยวิชาหมัดระดับสูงมาหลายวันแล้ว
กล่าวได้ว่าถึงชายหนุ่มทั้งสองคนจะไม่ใช่อัจฉริยะ แต่พวกเขาก็มีความมุ่งมั่นตั้งใจเกินร้อยไม่แพ้ใคร ซูชือกับจินฟานไม่เคยปล่อยให้เวลาผ่านไปอย่างเปล่าประโยชน์ ทั้งสองคนจึงไต่เต้าขึ้นมาจากตำแหน่งรองบ๊วยได้อย่างรวดเร็ว…
และในสังเวียนผู้กล้าแห่งนี้ ซูชือกับจินฟานก็มีสถานะกลายเป็นคนดังไปเรียบร้อยแล้ว
…
ในโลกแห่งเกม Fantasy Dream
เขตแผนที่ระดับ 31
ด้วยการชี้ทางสว่างจากซูเย่และการรวมกลุ่มกันอย่างสามัคคีของบรรดาผู้เล่น สัตว์ประหลาดที่มีอยู่มากมายในเขตแผนที่ระดับ 31 ก็ถูกกวาดล้างไปหมดสิ้นในพริบตาเดียว
สุดท้าย ก็ไม่หลงเหลือสัตว์ประหลาดตัวไหนอยู่อีกแล้ว
ทุกคนหยุดชะงักแล้วหันมามองที่ซูเย่อย่างต้องการคำแนะนำ
ซูเย่นำตัวเฉิงหวงเทพเจ้าออกมาขี่อีกครั้ง
เขาถือดาบอยู่ในมือข้างหนึ่งและชี้ดาบไปยังเขตแผนที่ระดับ 32
“พี่น้องทุกท่าน เป้าหมายต่อไปของพวกเราคือที่นั่น ลุยโลด!”
“พวกเราลุย!!!”
เมื่อกลุ่มผู้เล่นได้ยินคำสั่งของท่านเทพ X พวกเขาก็ประสานเสียงดังกังวาน ก่อนจะติดตามซูเย่เข้าไปยังเขตแผนที่ระดับ 32 ด้วยความเร็วไว
ตอนนี้ พวกเขาไม่ตื่นตระหนกหรือหวาดกลัวอีกแล้ว เพราะทุกคนมีความมั่นใจในตัวเองเปี่ยมล้นอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน!
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เซียนอมตะ 2,500 ปี [我只有两千五百岁]