บทที่ 170 ซูเย่ ฉันรู้นะว่านายคือเทพ X
สีหน้าของชายร่างผอมสูงแสดงออกถึงความประหลาดใจ เขาม้วนตัวตีลังกาไปบนพื้นดินเพื่อเว้นระยะห่างสำหรับตั้งหลัก ในเวลาเดียวกันนี้ ชายร่างผอมสูงก็ต้องยอมรับว่าคู่ต่อสู้ที่เขากำลังพบเจออยู่มีฝีมือดีมากกว่าที่คิด!
ระดับพลังของอีกฝ่ายไม่ต่ำไปกว่าเขา ดีไม่ดีอาจจะมีพลังมากกว่าเขาด้วยซ้ำ?!
แต่ถึงอย่างนั้นก็ตาม ความโกรธแค้นในแววตาของชายร่างผอมก็ไม่ได้ลดน้อยลงเลย
เขาคำรามออกมา “ต่อให้วันนี้ฉันต้องตาย ฉันก็จะลากแกลงนรกไปด้วยกันให้ได้!”
พูดจบ ชายร่างผอมสูงก็วิ่งตะบึงเข้ามาหาซูเย่ด้วยความบ้าคลั่ง
ชายหนุ่มตั้งท่าเตรียมตัวปัดป้องการโจมตี
แต่ใครจะไปคิดเลยว่าวินาทีต่อมา ชายร่างผอมสูงกลับหยุดชะงักและวิ่งหนีเข้าไปในป่าข้างทางหน้าตาเฉย
“ถ้ารู้ตัวว่าสู้ไม่ได้ ก็อย่าทำปากเก่งแต่แรกสิ!”
ซูเย่ตะโกนไล่หลังไปด้วยความอารมณ์เสีย
บรรยากาศตกอยู่ในความเงียบ
เขาได้แต่นึกสงสัยอยู่ครามครัน*ว่าอีกฝ่ายเป็นใครกันแน่
…
“เฮ้อ ดันมาเจอตอเข้าซะได้ ซวยจริง ๆ เลยเรา”
ชายร่างผอมสูงได้แต่โอดครวญอยู่ในใจขณะวิ่งหนีออกมาอย่างไม่คิดชีวิต
นอกจากเก็บหญ้าเฉาก๊วยไม่ได้แล้ว เขายังได้รับบาดเจ็บอีกด้วย ทำไมถึงได้ซวยซ้ำซวยซ้อนขนาดนี้นะ!
แต่อย่างน้อยก็ยังโชคดีที่หนีเอาชีวิตรอดออกมาได้!
ระหว่างที่วิ่งหนีมานี้ ชายร่างผอมก็ต้องเหลียวมองข้างหลังเป็นระยะ เพื่อให้แน่ใจว่าอีกฝ่ายหนึ่งไม่ได้ไล่ตามมาจริง ๆ เมื่อเห็นว่าไม่มีผู้ใดไล่ตามมา ชายร่างผอมถึงได้ถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งอก
เมื่อวิ่งข้ามภูเขามาได้สองลูก ชายร่างผอมก็หยุดพักเหนื่อยในที่สุด
เขายืนอยู่ในป่า กวาดสายตามองรอบตัว เพื่อตรวจสอบให้แน่ใจว่าไม่มีใครอยู่ในบริเวณใกล้เคียง จากนั้นจึงกระโดดลงไปในปากทางเข้าหลุมหลบภัยใต้ดิน
ภายในหลุมหลบภัย
“ได้อะไรมาบ้างล่ะ ฉันเตรียมลับมีดรอแล้วนะเนี่ย”
พ่อครัวร่างอ้วนหัวเราะร่วนขณะเดินออกมาต้อนรับ
แต่เดินออกมาได้ครึ่งทางก็ต้องหยุดชะงักฝีเท้า
“นายบาดเจ็บได้ยังไง?” พ่อครัวร่างอ้วนขมวดคิ้วมองหน้าชายร่างผอมสูงและถามด้วยความเป็นกังวล “เกิดอะไรขึ้น? หรือว่านายไปเจอพวกหน่วยสืบสวนพิเศษ?”
ชายร่างสันทัดก็เดินออกมาถามด้วยความตื่นตระหนกว่า “มีเรื่องอะไรกัน?”
“ฉันไปเจอคนในภูเขามาคนหนึ่ง หมอนั่นแม่งไม่ใช่พวกหน่วยสืบสวนพิเศษ แต่เป็นคนขโมยผลวอลนัทวิเศษกับต้นโซวู 100 ปีของฉันไป…”
หลังจากนั้น ชายร่างผอมสูงก็รีบบอกเล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทั้งหมดให้เพื่อนทั้งสองฟัง
รวมถึงเรื่องหญ้าเฉาก๊วยวิเศษที่ถูกแย่งชิงไปต่อหน้าต่อตาด้วยเช่นกัน
หลังรับฟังจบแล้ว
“บ้าเอ้ย! ไอ้หมอนั่นน่ากลัวเป็นบ้า ทำไมนายต้องไปมีเรื่องกับเขาด้วยวะ! อยากจะทำให้พวกเราเดือดร้อนนักหรือไง?” ชายร่างสันทัดสบถด้วยความหงุดหงิด “เกิดแม่งตามนายมาที่นี่ พวกเราจะทำยังไง?”
“อย่าเสียเวลาพูดอะไรอีกเลย รีบเปลี่ยนที่ซ่อนหมวกกันก่อนดีกว่า พวกเราคงอยู่ที่นี่ไม่ได้แล้ว” พ่อครัวร่างอ้วนพูดพร้อมกับหมุนตัวเดินเข้าไปในส่วนลึกของหลุมหลบภัยเพื่อเตรียมเคลื่อนย้ายหมวก VR
“หมวกงั้นเหรอ?”
ณ ด้านนอกหลุมหลบภัย
ซูเย่ซึ่งได้ยินบทสนทนาทุกอย่างอดขมวดคิ้วด้วยความสงสัยไม่ได้ เขานึกถึงหมวก VR ที่ตนเองขโมยมาเก็บไว้บนชั้นดาดฟ้าของหอพักขึ้นมาทันที
หรือว่าชายฉกรรจ์เหล่านี้ก็ขโมยหมวก VR มาจากหน่วยสืบสวนพิเศษเหมือนกัน?
“วางไว้ที่เดิมนั่นแหละ”
ซูเย่กระโดดลงไปในหลุมหลบภัย พูดกับชายฉกรรจ์ทั้งสามคนซึ่งกำลังช่วยกันยกหีบเหล็กขึ้นจากพื้นดิน “เดี๋ยวเรื่องราวต่อจากนี้ ฉันจะเป็นคนจัดการเอง”
เมื่อได้ยินเสียงของบุคคลปริศนา สีหน้าของชายฉกรรจ์ทั้งสามก็แปรเปลี่ยนไปทันที…
“ใช่หมอนี่หรือเปล่า?” ชายร่างสันทัดจ้องมองชายร่างผอมสูงด้วยสีหน้าเคร่งเครียด แต่เมื่อรู้สึกได้ว่าซูเย่ไม่ได้แข็งแกร่งอย่างที่คิด เขาก็ถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งอก
“หมอนี่แหละ แต่นายระวังตัวด้วย แม่งน่ากลัวกว่าที่เห็น” พูดจบ ชายร่างผอมสูงก็หันกลับไปถลึงตาใส่ซูเย่ “ขนาดฉันเป็นผู้ฝึกยุทธ์ระดับสอง ก็ยังไม่ใช่คู่ต่อสู้ของไอ้หมอนี่เลย!”
ชายร่างสันทัดหันไปสบตามองพ่อครัวร่างอ้วน แววตาของพวกเขาเป็นประกายระยิบระยับด้วยความอำมหิต
ทันใดนั้น ทั้งสองคนแยกย้ายออกไปยืนซ้ายขวา ชายร่างสันทัดล้วงมีดสั้นออกมาจากกระเป๋ากางเกงสองเล่ม ส่วนพ่อครัวร่างอ้วนก็ชักมีดสับกระดูกออกมาจากหลังเอว
“แกมาจากหน่วยสืบสวนพิเศษใช่ไหม?”
ชายร่างสันทัดจ้องมองซูเย่ ถามด้วยน้ำเสียงเย็นชา
“ไม่ใช่”
ซูเย่ปฏิเสธ และในเวลานั้นเอง เขาก็สัมผัสได้ว่าชายฉกรรจ์ทั้งสามคนนี้มีระดับพลังไล่เลี่ยกัน คือเป็นผู้ฝึกยุทธ์ระดับสองทั้งหมด
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เซียนอมตะ 2,500 ปี [我只有两千五百岁]