บทที่ 188 ค่อยให้จินฟานจับตาดูซูเย่
เมื่อกฎประกาศออกมาแบบนั้น ทุกคนที่ติดตามเกี่ยวกับการสอบนี้ ล้วนตกตะลึงต่อกฎระเบียบที่เข้มงวดนี้คิดไม่ถึงเลยว่า การสอบรอบสุดท้ายมหาวิทยาลัยจะให้อาจารย์ทั้ง 30 ท่านออกแบบทดสอบด้วยกัน นี่มันการสอบมหาโหดที่ไม่เคยมีมาก่อนชัด ๆ นักศึกษาสาขาแพทย์แผนจีน ค่อย ๆ โผล่มาบนเว็บบอร์ดรวมมิตรมหาวิทยาลัย
“เข้มงวดขนาดนี้เชียวเหรอ”
“อาจารย์ 30 ท่านตั้งคำถามคนละข้อแถมยังผลัดกันถาม ดูท่าแล้วมหาวิทยาลัยจะให้ความสำคัญการสอบครั้งนี้มากจริง ๆ ”
“แบบนี้ก็ดี สามารถเห็นถึงความแตกต่างของแต่ละคน แบบนี้ก็สามารถคัดเลือกตัวแทนมหาวิทยาลัยที่เก่งที่สุดได้”
ตอนที่ถกเรื่องนี้ทุกคนล้วนตั้งใจลืมเรื่องของซูเย่ทั้งหมด ไม่มีใครเอ่ยถึงเรื่องนี้อีก เพราะที่หน้าของทุกคนตอนนี้ล้วนหนาว ๆ ร้อน ๆ
ยังไงซะการสอบครั้งสุดท้ายวันเสาร์นี้ก็เริ่มแล้ว ในสถานการณ์ที่ถ่ายทอดสด เวลานั้นทุกคนก็สามารถเห็นระดับความสามารถที่แท้จริงของซูเย่ได้ด้วยตาของตนเอง ก็จะรู้ได้ว่าซูเย่เก่งกาจจริงหรือไม่!
“อ้าว ออกมากันแล้วเหรอ ขอโทษเดี๋ยวนี้เลย อย่ามาทำเป็นเนียน!” ซูชือโพสต์ข้อความอีกครั้ง แต่ไม่มีใครสนใจเขา
“ขอบคุณนะ” ซูเย่กล่าวขอบคุณเพราะเห็นคำพูดประหนึ่งกำลังผดุงความยุติธรรมของเพื่อนเขาบนบอร์ด
“หึหึ อย่าพูดเฉย ๆ สิ เลี้ยงข้าวฉันสักมื้อก็โอเคแล้ว แต่ว่ายังไม่พอหรอกนะ ฉันจะยั่วยุพวกมันต่อ โดนพวกมันด่าเสีย ๆ หาย ๆ ขนาดนี้ ในที่สุดก็ได้ระบายความคับแค้นใจแล้ว ฉันไม่ปล่อยพวกมันไปแน่”
เช้าวันต่อมา ซูชือมือปั่นอันดับหนึ่งออนไลน์อีกครั้ง
“ทุกคน ฉันมาดูว่าทุกคนขอโทษหรือยัง”
ส่งออกไป แล้วก็โพสต์รายชื่อ แถมยัง แท็กทีละรายชื่อให้เสร็จสรรพ
ทุกคน: “……”
ยามบ่าย ซูชือออนไลน์อีกครั้ง
“ทุกคน ฉันมาดูอีกแล้วว่าทุกคนขอโทษหรือยัง พวกแกยังไม่ขอโทษอีกงั้นเหรอ เย็นนี้ฉันจะมาดูใหม่”
ทุกคน: “พวกฉันไม่เห็นอะไรทั้งนั้น”
ตกเย็น
“นายท่านซูของพวกเอ็งกลับมาดูอีกแล้ว”
ทุกคน: “โว้ย ”
เลิกกัดไม่ปล่อยแบบนี้สักทีเถอะ!
ตอนเย็นมีเวลาว่างพอดี ตอนที่ซูชือเตรียมจะแสดงฤทธิ์เดชของความโมโหอีกครั้ง
“ติ๊ดติ๊ดติ๊ด”
ปรากฏว่าได้รับข้อความหนึ่งข้อความ เป็นหวังห่าวส่งมา
“ผมรอคุณที่สนาม”
เห็นข้อความนี้ ซูชือกรอกตาด้วยความเบื่อหน่าย รีบมุ่งหน้าออกจากหอพักอย่างรวดเร็ว
พอมาถึงสนาม ก็ถูกหวังห่าวดึงไปในมุมลับตาคนของสนาม
“ทำไมจนถึงตอนนี้ ถึงไม่ส่งรายงานเกี่ยวกับซูเย่มาให้ฉันเลย”
หวังห่าวจ้องซูชืออย่างเย็นชา กล่าวเสียงเย็น “เช้าวันนี้ฉันส่งข้อความไปให้นาย ทำไมนายไม่ตอบ อย่ามาบอกว่าโทรศัพท์แบตหมด ฉันเห็นบนเว็บบอร์ดนายมีการเคลื่อนไหว”
“อย่ารีบร้อนสิครับ”
ซูชือใบหน้าแสดงความขอโทษกล่าว “ผมเป็นสายลับครั้งแรกนะครับ มันก็ต้องมีเวลาปรับตัวสักหน่อยนี่ครับ”
“เพราะกลัวว่าเสี่ยวเย่จะจับได้ ช่วงนี้ผมเลยกำลังปรับตัวอยู่ ผมกำลังหาหนังสายลับดู จะได้เรียนรู้ว่าทำยังไงถึงจะได้เป็นสายลับที่โดดเด่นคนหนึ่ง”
“ดูจบ ผมถึงได้รู้ว่าสายลับมีรายละเอียดปลีกย่อยมากมายที่จะต้องระวังให้ดี สาเหตุที่ทำให้ฐานะถูกเปิดโปงมักจะเป็นเพราะปัญหาเกี่ยวกับรายละเอียดยิบย่อย ”
“ดังนั้นเพื่อที่จะทำงานออกมาได้ดี ปฏิบัติภารกิจที่ทีมสารวัตรมอบหมายให้ลุล่วง ผมจะทำให้ดีสุดความสามารถ ผมกำลังเรียนรู้อยู่”
“โธ่เอ้ย ฉันแค่ให้นายส่งข้อความให้ฉัน แล้วนายพูดบ้าบออะไรเนี่ย” หวังห่าวโมโหจนน้ำเสียงแข็งกระด้าง
ถ้าไม่ใช่เพราะไอ้เด็กนี่เป็นตัวเลือกอันดับแรก เป็นทายาทคนรวยแถมพ่อมันยังเป็นคนมีอำนาจอีก เขาจะทำให้มันร้องหาพ่อจริง ๆ ซะเลย
“อยู่ในสถานศึกษา อย่าพูดคำหยาบนะครับ”
ซูชือกล่าวอย่างเคร่งขรึม
“แม่—”
คำว่า‘แม่ง’ของหวังห่าวพูดได้ครึ่งคำก็ถูกกลืนลงไป โธ่เว้ย นี่ฉันเจอพวกปัญญาอ่อนงั้นเหรอ
สูดหายใจลึกหนึ่งเฮือก กดความโมโหเอาไว้เอาไว้ในอก พูดเน้นทีละประโยค “นายไม่ต้องทำอะไรทั้งนั้น และไม่ต้องดูหนังสายลับอะไรนั่น นายแค่ส่งข้อความมาให้ฉันก็พอแล้ว บอกฉันว่าซูเย่เข้าสู่ระบบเกมกี่โมง เพียงเท่านี้ ฟังเข้าใจหรือไม่”
“แค่นี้งั้นหรือครับ”
ซูชืออึ้งงัน พูดอย่างหมดอารมณ์ “งั้นผมก็เรียนเสียเปล่าแล้วน่ะสิครับ ผมที่โดดเด่นขนาดนี้ คิดว่าจะได้ทำเรื่องที่น่าตื่นเต้นมากกว่านี้ซะอีก แค่นี้เนี่ยนะ”
“อย่าพูดไร้สาระ”
หวังห่าวไม่อยากเสียเวลาพูดต่อ พูดทิ้งท้าย “ฟังให้ดี เริ่มตั้งแต่คืนนี้”
“ก็ได้ครับ”
ซูชือยักไหล่อย่างจนปัญญา ไร้หนทาง
“ฉันจะรอข่าวจากนาย”
หวังห่าวหันกายเดินจากไป
เย็นวันเดียวกัน เขานั่งรอในห้องทำงานอยู่ทั้งคืน ไม่ได้รับข้อมูลข่าวสารแม้แต่น้อย
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เซียนอมตะ 2,500 ปี [我只有两千五百岁]