บทที่ 21 สั่นคลอนวงการพิณผีผา (ตอนต้น)
“น่าชื่นชม! ช่างน่าชื่นชม!”
อาจารย์ลั่วตงหมิงลุกขึ้นปรบมืออย่างปิติยินดี “คิดไม่ถึงจริง ๆ ว่าเธอจะรู้เยอะมากมายขนาดนี้ เยี่ยมจริง ๆ! ช่างเป็นเรื่องที่ดีอะไรอย่างนี้!”
ซูเย่ไม่เพียงแต่บรรเลงแค่บทเพลงที่ไพเราะอย่างเดียวเท่านั้น แต่เขากลับแสดงเทคนิคต่างๆ ในแต่ละยุคสมัยให้เห็นเป็นตัวอย่างได้อย่างครบครัน
ราวกับว่าความรู้เบื้องลึกของเขานั้นแทบไม่มีที่สิ้นสุด!
ไม่เพียงเท่านั้น เขายังสามารถบรรเลงให้เห็นถึงความแตกต่างระหว่างการถือเล่นแบบแนวตั้งและแนวนอนได้อีกด้วย
ซึ่งนอกจากจะสร้างความเข้าใจโดยง่ายให้กับนักศึกษาแล้ว ยังทำให้นักเรียนสามารถมองเห็นสภาพโดยรวมที่แตกต่างกันอย่างเห็นได้ชัดอีกด้วย
นักศึกษาทุกคนในห้องประชุมต่างพร้อมใจกันปรบมืออย่างจริงใจในที่สุดพวกเขาก็เข้าใจแล้ว
ถึงแม้ว่าตอนแรกพวกเขาต่างสงสัยที่อาจารย์ลั่ว ขอให้นักศึกษาจากมหาวิทยาลัยแพทย์แผนจีน ที่อายุราวคราวเดียวกันมาเป็นผู้บรรยาย แต่ตอนนี้สิ่งที่เหลืออยู่ก็มีเพียงความชื่นชมจากใจจริงเท่านั้น
“เจ๋งไปเลย เสี่ยวเย่! สุดยอด สุดเท่ เยี่ยมไปเลยโว้ย…”
จินฟานและซูชือปรบมืออย่างแข็งขัน พลางชมเพื่อนตัวเองไม่ขาดปากอยู่ในใจ
ณ แถวที่นั่งรองสุดท้าย
“เขาคนนั้นสุดยอดไปเลยแฮะ”
ไป๋จือเหยียนกล่าวขึ้นมาด้วยเสียงเบา ๆ เธอปรบมือขณะที่สายตาจับจ้องซูเย่ที่อยู่บนเวทีอย่างไม่วางตา
“เห็นด้วย”
ไป๋จือหรานที่มองซูเย่ที่อยู่บนเวที พยักหน้าอย่างเห็นด้วยกับความเห็นของน้องสาว
เสียงดิ้ง! แจ้งเตือนที่แสนจะไพเราะดังขึ้นในห้วงความคิดของซูเย่
แต้มศีลธรรม +2
ซูเย่ยิ้มออกมาเล็กน้อย ดูเหมือนว่าการลงแรงในครั้งนี้จะไม่เสียเปล่า ตอนนี้เหลืออีกเพียง 6 แต้ม ก็จะสามารถเปิดจุดพลังปราณได้แล้ว
ซูเย่ครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งและตัดสินใจกล่าวต่อเพิ่มเติม
แต่คราวนี้ เขาไม่ได้พูดเกี่ยวกับพิณผีผา แต่เป็นความรู้ด้านสุขภาพที่เกี่ยวข้องกับการเล่นพิณผีผา
สำหรับนักศึกษาที่เรียนในสถาบันดนตรีแล้ว บ่อยครั้งที่พวกเขาจะต้องฝึกฝนการเล่นเทคนิคเดิม ๆ ซ้ำ ๆ และบางครั้งมันก็อาจทำให้เกิดอาการบาดเจ็บจากการฝึกฝนนั้น
และด้วยสถานะของซูเย่ที่เป็นนักศึกษาจากมหาลัยแพทย์ เขาเลยได้ใช้โอกาสนี้ในการสอนความรู้ด้านสุขภาพให้กับผู้อื่น
“ดิ้ง——”
เมื่อประโยคสุดท้ายจบลง
เสียงสวรรค์ได้ดังขึ้นในห้วงความคิด
ให้ความรู้ สร้างแรงจูงใจ แต้มศีลธรรม +2
ซูเย่ยิ้มจนออกหน้า
“ขอบคุณนักศึกษาซูเย่ด้วย สำหรับการบรรยายที่แสนวิเศษในวันนี้”
อาจารย์ลั่วตงหมิงยิ้มแย้มขณะที่กำลังก้าวขึ้นไปบนเวที เขาจับมือกับซูเย่เป็นการแสดงความขอบคุณก่อนจะหันไปกล่าวกับนักศึกษาของตนเอง “อย่างที่พวกเธอได้เห็น ซูเย่คนนี้มีฝีมือพิณผีผาในระดับที่เกินกว่าจะวัดได้”
“ดังนั้น อาจารย์หวังว่าพวกเธอจะลดอีโก้และความเย่อหยิ่งลง สุภาพน้อบน้อมต่อผู้อื่นตลอดเวลา และตระหนักไว้เสมอว่าในโลกอันกว้างใหญ่นี้ ยังมีผู้คนอีกมากมายที่ปราดเปรื่องยิ่งกว่าอยู่เสมอ!”
เหล่านักศึกษาทุกคนพยักหน้ารับทราบอย่างจริงจัง
สิ่งที่เกิดขึ้นในวันนี้ช่างเป็นบทเรียนที่ลืมไม่ลง
ถ้าเป็นเมื่อก่อนคงมีแค่รู้สึกภาคภูมิใจจนเกิดเป็นอีโก้ แต่ตอนนี้พวกเขาต่างรู้ถึงข้อด้อยของตัวเองแล้ว และพวกเขาก็พร้อมที่จะแก้ไขมัน
“เอาล่ะ ขอจบการสัมมนาแต่เพียงเท่านี้”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เซียนอมตะ 2,500 ปี [我只有两千五百岁]