บทที่ 56 ผลลัพธ์ช่างน่าอัศจรรย์!
“ยินดีต้อนรับสู่หอหวังเป่า”
ทันทีที่ซูเย่ก้าวเข้าประตูไป เจ้าของร้านในชุดคลุมสีฟ้า หวังอวี้ ออกมาทักทายพร้อมรอยยิ้ม “ต้องการให้ช่วยอะไรไหม?”
“ผมต้องการนำของมาขายครับ แต่ไม่ทราบว่าหอหวังเป่าจะรับซื้อไหม” ซูเย่กล่าว
“ขึ้นอยู่กับว่าขายอะไร มีค่าพอไหม” หวังอวี้ยิ้มตอบ จากนั้นผายมือเข้าไป “ในเมื่อเราจะทำธุรกิจกัน เชิญเข้ามาคุยข้างในก่อน ค่อย ๆ คุยกัน”
ระหว่างที่พูดก็พาซูเย่ไปนั่งลงที่โต๊ะ
“ดูจากการแต่งกายแล้ว เจอปัญหาอะไรมาหรือเปล่า?” เมื่อนั่งลง หวังอวี้ก็เอ่ยถามโดยที่ยังคงยิ้มอยู่
หากมีคนที่แต่งตัวมิดชิดปกปิดหน้าตามาขายของ อาจจะมีปัญหาตามมาในภายหลังก็เป็นได้
“ไม่ต้องห่วงครับ” ซูเย่ตอบ “ผมเป็นแค่ผู้ฝึกยุทธ์พเนจร ไม่ได้ไปก่อเรื่องอะไรมา และไม่ได้สร้างปัญหาให้หอหวังเป่าแน่นอนครับ”
“ล้อเล่นนะ” หวังอวี้ยิ้ม “แล้วจะขายอะไรล่ะ?”
“สูตรโอสถ” ซูเย่ตอบตรงไปตรงมา “โอสถโบราณ”
“อะไรนะ?” หวังอวี้ประหลาดใจเล็กน้อย อย่างกับว่าเขาได้ยินไม่กระจ่าง
“สูตรโอสถโบราณสองชนิด” ซูเย่ตอบ
สองชนิด?
หวังอวี้ตกตะลึง
ชายคนนี้ต้องการขายสูตรโอสถโบราณ? และขายถึงสองสูตร?
เป็นที่รู้กันว่า สูตรโอสถในโลกนี้มีความขาดแคลนเป็นอย่างมาก มีเพียงบางสำนักหรือบางตระกูลที่ใหญ่โตเท่านั้นที่จะมีสูตรโอสถอยู่ในครอบครอง
เหตุผลที่ว่าเพราะเหตุใด สำนักเหล่านั้นจึงได้มีสมาชิกจำนวนมาก เนื่องมาจากพวกเขามีความสามารถในการสร้างโอสถสำหรับช่วยเหลือลูกศิษย์ในการฝึกฝน และเพื่อดึงดูดผู้คนมาเข้าร่วมสำนัก
หรือกล่าวอย่างง่ายได้ว่า หากมีกำลังคนแข็งแกร่งพอ และมีโอสถเพื่อสนับสนุนการฝึก จะเป็นการพัฒนาเสริมสร้างรากฐานของสำนักให้มั่นคงยิ่งขึ้น
ความล้ำค่าของสูตรหลอมโอสถจึงเป็นสิ่งที่เหนือจินตนาการ
และด้วยความขาดแคลนของโอสถในปัจจุบันแล้ว เขายังมีความคิดที่จะขายสูตรโอสถถึงสองสูตรอีกหรือ?
“คุณได้มาจากที่ไหน?” หวังอวี้รีบเอ่ยถาม
คงไม่ได้ขโมยมาใช่ไหม? หรือเป็นไส้ศึกในสำนักโบราณ?
“ไม่ต้องห่วงครับ ทั้งสองสูตรผมได้มาระหว่างฝึกฝนอยู่ในดินแดนภูผามหานทีโดยบังเอิญ” ซูเย่กล่าว “และผมเองก็ทราบดี ว่าสูตรโอสถมันมีค่ามากเพียงใด ถึงได้แต่งตัวแบบนี้มา”
“เป็นเช่นนั้นเอง” หวังอวี้หยักหน้า
ทว่าเขายังรู้สึกสงสัยอยู่ ความกังวลยังไม่จางหายไปจากสายตาเขา
“บอกฉันได้ไหมว่าที่คุณจะขายเป็นสูตรโอสถอะไร?” หวังอวี้ถาม
“อย่างแรก โอสถเรียกปราณ” ซูเย่ตอบกลับ
“หือ?” หวังอวี้ตาค้าง
โอสถเรียกปราณ?
เขายังจำได้อย่างชัดเจน ว่าเคยมีคนมาที่หอหวังเป่าและขายโอสถเรียกปราณ 200 เม็ดในครั้งเดียว รับเงินไป 15 ล้าน
ไม่คิดเลยว่า วันนี้จะมีคนมาขายสูตรโอสถเรียกปราณ
มองดูหัวจรดเท้าแล้ว รู้สึกว่าไม่น่าจะใช่คนเดียวกัน
“แล้วอีกอย่างล่ะ?” หวังอวี้รีบถาม
“โอสถเบิกทาง!” ซูเย่ตอบ
“โอสถเรียกปราณจะช่วยให้ผู้ฝึกยุทธ์ขั้นหนึ่งเลื่อนไปยังขั้นสอง ส่วนโอสถเบิกทางเป็นเหมือนโอสถเรียกปราณระดับสูง มันสามารถช่วยให้ผู้ฝึกยุทธ์ขั้นสองเลื่อนไปยังขั้นสามได้”
“ว่าอย่างไรนะ?” หวังอวี้ตกตะลึงเมื่อได้ยินเช่นนั้น จ้องมองซูเย่ด้วยตาที่เบิกกว้าง
ขั้นสามถือเป็นรากฐานของผู้ฝึกยุทธ์
รัฐบาลกำหนดไว้ว่าผู้ที่เข้าไปยังดินแดนภูผามหานทีได้จะต้องเป็นผู้ฝึกยุทธ์ขั้นสาม
ยิ่งไปกว่านั้น ความแข็งแกร่งของผู้ฝึกยุทธ์จะเริ่มก้าวกระโดดที่จุดนี้
สิ่งที่เป็นปัญหาของผู้ฝึกยุทธ์ขั้นสองคือกระบวนการเลื่อนขั้นไปยังขั้นสาม ผู้คนมากมายหยุดนิ่งอยู่ที่ขั้นสอง ใช้ชีวิตโดยไร้ความหวังที่จะไปขั้นสาม แต่ในขณะนี้กลับมีผู้ที่ครอบครองสูตรโอสถสำหรับเลื่อนขั้นสองไปยังขั้นสามอยู่เบื้องหน้าเขา?
“แน่ใจเหรอ?” หวังอวี้เอ่ยถามด้วยใบหน้าที่ยังตะลึงอยู่
“ครับ!” ซูเย่พยักหน้ายืนยัน จากนั้นนำโอสถทั้งสองออกมา
“นี่เป็นโอสถเรียกปราณ” ซูเย่วางมันลงบนโต๊ะ
หวังอวี้ตรวจสอบอย่างละเอียด พบว่าโอสถเรียกปราณนี้เหมือนกับคราวก่อนทุกประการ และดูเหมือนว่าจะคุณภาพสูงกว่าด้วย
เขายิ่งรู้สึกสงสัยในตัวตนของบุคคลตรงหน้ามากขึ้นไปอีก
“ส่วนนี่ เป็นโอสถเบิกทาง” ซูเย่วางลงบนโต๊ะอีกครั้ง
หวังอวี้รีบนำมาตรวจสอบ แน่นอนว่า เขารู้สึกได้ถึงพลังปราณที่เข้มข้นกว่าโอสถเรียกปราณ
“โอสถทั้งสองหลอมขึ้นมาจากสูตรที่คุณว่าอย่างนั้นหรือ?” หวังอวี้ถามด้วยความสงสัย
“ใช่ครับ” ซูเย่พยักหน้า
“ถึงแม้ว่ามันจะอยู่ตรงหน้าฉัน แต่ยังไม่แน่นอนว่าฤทธิ์ของโอสถจะทรงพลังอย่างที่คุณเล่าหรือเปล่า ดังนั้นฉันยังเจรจาเรื่องการซื้อขายไม่ได้” หวังอวี้ยิ้มเจื่อน “หากสามารถพิสูจน์ผลลัพธ์ของมันได้ ก็น่าจะดี”
“เชิญครับ” ซูเย่กล่าวพร้อมผายมือ
“หือ?” หวังอวี้ผงะไป
ยอมตกลงอย่างง่ายดายเลยเหรอ?
“รอสักครู่” หวังอวี้ลุกยืนขึ้น ออกไปโทรศัพท์
ไม่กี่นาทีต่อมา ก็ได้มีสองผู้ฝึกยุทธ์หนุ่มปรากฏตัว และรับโอสถไป
“โปรดดื่มชาก่อน” หลังจากนำโอสถไปแล้ว หวังอวี้จึงเลื่อนชุดชงชามาเพื่อชงให้กับซูเย่
“ผมไม่ดื่มชา” ซูเย่ส่ายหัว
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เซียนอมตะ 2,500 ปี [我只有两千五百岁]