เซียนบู๊ ทะลวงชั้นฟ้า นิยาย บท 1477

สรุปบท บทที่ 1477: เซียนบู๊ ทะลวงชั้นฟ้า

บทที่ 1477 – ตอนที่ต้องอ่านของ เซียนบู๊ ทะลวงชั้นฟ้า

ตอนนี้ของ เซียนบู๊ ทะลวงชั้นฟ้า โดย โอหยางวิ่น ถือเป็นช่วงเวลาสำคัญของนิยายใช้ชีวิตทั้งเรื่อง ด้วยบทสนทนาทรงพลัง ความสัมพันธ์ของตัวละครที่พัฒนา และเหตุการณ์ที่เปลี่ยนโทนเรื่องอย่างสิ้นเชิง บทที่ 1477 จะทำให้คุณอยากอ่านต่อทันที

เหาะลอยไปเรื่อยๆ พริบตาเดียวผ่านไปสามวันแล้ว

เวลาสามวันบอกว่านานก็ไม่นาน บอกว่าสั้นก็ไม่สั้น แม้ไม่พอให้ลู่ฝานสอบถามเรื่องในประเทศตันเซิ่งได้ชัดเจน แต่เพียงพอให้ลู่ฝานรู้เรื่องของพวกคนที่อยู่ด้านหน้านี่แล้ว

อย่างแรกเลย คนพวกนี้คือหนึ่งในห้าตระกูลใหญ่ของประเทศตันเซิ่ง ผู้ดูแลนอกตระกูลหั่ว แม้ไม่รู้ว่าห้าตระกูลใหญ่หมายถึงอะไร แต่จากคำพูดของผู้ฝึกชี่พวกนี้ตัดสินได้ว่าตระกูลหั่วมีอิทธิพลไม่ธรรมดาในประเทศตันเซิ่ง

รองลงมาหัวหน้าผู้ดูแลที่จับพวกเขามาคนนี้ ชื่อว่าหั่วเทียนหรุ่ย ผู้ฝึกชี่คนอื่นเรียกเธอว่าพี่ใหญ่

หั่วเทียนหรุ่ยเป็นคนเย็นชาแต่จิตใจดี วิทยายุทธอยู่ระดับปรมาจารย์บำเพ็ญชี่ขั้นสูงสุด

เธอเป็นคนมีหลักการมาก อีกทั้งยังเป็นคนรู้เหตุรู้ผล ฟังความคิดคนอื่น เหมือนทั้งตระกูลหั่วและทั้งประเทศตันเซิ่ง เธอเป็นผู้ฝึกชี่จำนวนน้อยที่ไม่เลือกปฏิบัติกับนักบู๊

ตอนลู่ฝานได้ยินเรื่องนี้จากปากคนอื่น เขาตกใจมาก เป็นครั้งแรกที่เขารู้ว่าที่แท้ในประเทศตันเซิ่ง นักบู๊เป็นคนที่ถูกเลือกปฏิบัติ

ในเวลาเดียวกันลู่ฝานก็รู้สึกโชคดี นับว่าโชคชะตาของพวกเขาไม่เลว ได้เจอหั่วเทียนหรุ่ยพอดี จากที่ผู้ฝึกชี่คนอื่นพูด ถ้าเจอหัวหน้าผู้ดูแลคนอื่น คงเข้ามาฆ่าโดยไม่ฟังพวกเขาพูดแน่ๆ

เพราะสำหรับพวกเขา การฆ่านักบู๊ไม่ใช่เรื่องสำคัญอะไร

“พี่ใหญ่ดูสิ เราใกล้ถึงประตูมังกรฟ้าแล้ว”

ผู้ฝึกชี่คนหนึ่งตะโกนเสียงดัง

ลู่ฝานกับหลิงเหยาที่แอบฝึกฝนอยู่เงยหน้ามองพร้อมกัน ภาพแปลกประหลาดปรากฏในสายตาทันที

นั่นเป็นเมืองที่อยู่ในอุโมงค์ข้ามมิติ คิดไม่ถึงว่าจะก่อตัวขึ้นจากพลังฟ้าดิน

พลังฟ้าดินสะดุดตา ก่อตัวเป็นรูปร่างกำแพงเมืองและคูเมือง

กำแพงเมือง หอคอย ค่ายกลอักษรยันต์ มีครบทุกอย่าง ยิ่งใหญ่ทรงพลัง งดงามตระการตา

มองจากไกลๆ นี่ใช่พลังฟ้าดินที่ไหนกันล่ะ นี่มันเมืองฟ้าดินที่ยิ่งใหญ่ชัดๆ

เปลี่ยนแปลงหลากหลายสีสัน นอกประตูเมืองมีมังกรฟ้าขนาดใหญ่ตั้งตระหง่านอยู่

มังกรสูงมาก ดวงตาสองข้างเป็นประกายสว่างไสว เกล็ดเหมือนประตูเมือง

ด้านหลังมีปีกสองข้าง บรรยายได้เพียงคำว่าใหญ่โตมหึมา

ถึงอยู่ห่างขนาดนี้ ยังรู้สึกถึงความน่ากลัวที่แผ่ออกมาจากตัวมังกรฟ้า

“นี่คือประเทศตันเซิ่งสินะ!”

ลู่ฝานเอ่ยชมออกมา

แค่เมืองใหญ่ที่ก่อตัวจากพลังฟ้าดิน ก็เพียงพอทำให้ประเทศอื่นรู้สึกต่ำต้อยแล้ว

พลังฟ้าดินเหมือนหมอก อุโมงค์ข้ามมิติอะไรพวกนั้น เมื่อเทียบกับเมืองใหญ่ตรงหน้า ยังห่างชั้นกันมากโข

นี่คือสิ่งที่ซ่อนไว้ในประเทศใหญ่สินะ ระดับความยิ่งใหญ่ของพลังฟ้าดิน แสดงถึงความแข็งแกร่งของประเทศ

ภายใต้การหล่อเลี้ยงจากพลังฟ้าดินอันยิ่งใหญ่เช่นนี้ ประเทศนี้สามารถให้กำเนิดนักบู๊ออกมามากมายเท่าไร ลู่ฝานจินตนาการไม่ออกเลย

หลิงเหยาก็เบิกตาโตมองภาพอันยิ่งใหญ่งดงามนี้

หั่วเทียนหรุ่ยบังคับเรือสีทองมาข้างพวกลู่ฝาน แล้วพูดว่า “เป็นไง ประเทศตันเซิ่งของเรายิ่งใหญ่งดงามไหม!”

ใบหน้าหั่วเทียนหรุ่ยเต็มไปด้วยความภูมิใจ ลู่ฝานพยักหน้าพูดว่า “ได้เปิดหูเปิดตาจริงๆ คิดไม่ถึงว่าพลังฟ้าดินก่อตัวเป็นคูเมืองและกำแพงเมืองได้ด้วย!”

หั่วเทียนหรุ่ยหัวเราะร่าแล้วพูดว่า “พลังฟ้าดินในอุโมงค์ข้ามมิติก็คือพลังฟ้าดินเหมือนกัน แค่เป็นพลังฟ้าดินบริสุทธิ์ที่สุดที่กลั่นออกมาจากพลังฟ้าดินทั้งหมดเท่านั้น แค่วิทยายุทธแข็งแกร่งพอ ก็สามารถเอามันมาก่อตัวเป็นสิ่งต่างๆ เหมือนพลังฟ้าดินทั่วไป แดนอุโมงค์ข้ามมิติของประเทศตันเซิ่งเป็นสิ่งที่เทียนจุนสองท่านของประเทศตันเซิ่งก่อตัวขึ้นมาเมื่อหมื่นปีก่อน ผ่านการเสริมความแข็งแกร่งจากผู้แข็งแกร่งเป็นหมื่นเป็นพัน และการเปลี่ยนแปลงเป็นหมื่นปี จึงกลายสภาพเป็นอย่างทุกวันนี้ กำแพงเมืองและคูเมืองแบ่งออกเป็นมังกรฟ้า เสือขาว หงส์แดง และเต่างูดำ ทั้งหมดสี่ประตู คุ้มครองโดยสัตว์เทพทั้งสี่ ถ้ามีคนบุกเข้ามา ไม่ว่าพวกเขาจะผ่านเขตแดนของเมืองได้หรือเปล่า อย่างแรกต้องโดนสัตว์เทพทั้งสี่ทำลายก่อน เห็นมังกรฟ้านั่นไหม วิทยายุทธทัดเทียมกับอริยปราชญ์ขั้นสูงสุดเลยนะ!”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เซียนบู๊ ทะลวงชั้นฟ้า