ลู่ฝานเดินเข้าไปหาสุ่ยหมิงคงช้าๆ แล้วพูดอย่างเฉยเมยว่า “สุ่ยหมิงคง จะสู้แบบตาต่อตา ฟันต่อฟัน นายไม่มีทางสู้ฉันได้หรอก”
สุ่ยหมิงคงพยายามลุกขึ้นมา แต่ตอนนี้ลู่ฝานมาถึงตรงหน้าเขาแล้ว
สุ่ยหมิงคงง้างมือซัดหมัดออกไปอีก
ลู่ฝานเหวี่ยงมือโดยไม่มอง
หมัดของสุ่ยหมิงคงโดนฝ่ามือลู่ฝานปัดออกทันที หินรวมพลังในมือโดนตบจนกลิ้งอยู่บนพื้น
สุ่ยหมิงคงมองลู่ฝานอย่างตกตะลึง “นายเป็นใครกันแน่”
ลู่ฝานยิ้มแล้วพูดว่า “คนที่นายสู้ไม่ได้!”
พูดจบ ลู่ฝานง้างหมัดขึ้นมา
สุ่ยหมิงคงพูดอย่างตกใจว่า “อย่าต่อยหน้า!”
ยังไม่ทันพูดจบ หมัดของลู่ฝานต่อยลงแบบแก้มสุ่ยหมิงคง
สุ่ยหมิงคงสลบไปทันที
เงียบสงัด ผู้ฝึกชี่ทั้งหมดที่อยู่รอบๆ พูดอะไรไม่ออก
ผลของการประลองเหมือนละครตลก
ผู้ฝึกชี่ทั้งหมดในประเทศตันเซิ่งมองภาพนี้แบบอึ้งๆ ถ้าการแสดงออกของสุ่ยหมิงคงทำให้พวกเขาตกใจตะโกนโวยวาย ไม่สามารถเข้าใจได้ งั้นการแสดงออกของลู่ฝาน ยิ่งทำให้พวกเขาไม่รู้จะพูดอะไรดี
เงียบอยู่นาน ในที่สุดมีคนพูดว่า “อย่าบอกนะว่าลู่ฝานก็ฝึกเคล็ดวิชาบู๊เหมือนกัน”
“ทำไมเดี๋ยวนี้ผู้ฝึกชี่เก่งๆ ต้องเรียนเคล็ดวิชาบู๊ด้วยล่ะ”
“อย่าบอกนะว่านี่คือจุดเก่งของพวกเขา”
“พระเจ้า ฉันความคิดคร่ำครึใช่ไหม ใช่ว่าเคล็ดวิชาบู๊จะใช้ประโยชน์ไม่ได้!”
…..
เสียงพูดคุยดังสนั่นไปทั่วทุกที่ของประเทศตันเซิ่ง
สิ่งที่ลู่ฝานกับสุ่ยหมิงคงไม่รู้คือการต่อสู้ของพวกเขาในวันนี้ ทำให้เกิดการพูดคุยอย่างดุเดือดในประเทศตันเซิ่ง อีกทั้งยังทำให้ผู้ฝึกชี่จำนวนมากเริ่มเล็งเห็นความสำคัญของเคล็ดวิชาบู๊
แปะ! แปะ! แปะ!
หน้าตำหนักใหญ่ที่เขตวิถีในเมฆ ประมุขประเทศตันเซิ่งลุกขึ้นจากเก้าอี้ตัวใหญ่พร้อมแสงสว่างจ้า เขาปรบมือเบาๆ
“ยินดีด้วยๆ ฉันขอประกาศว่าการแข่งขันห้าปีของห้าตระกูลใหญ่ครั้งนี้ ผู้ชนะคือลู่ฝาน!”
เสียงของประมุขประเทศตันเซิ่งดังสนั่นไปทั่วเขตวิถีในเมฆ
ผู้ฝึกชี่ทั้งหมดหลุดออกจากภวังค์ เริ่มส่งเสียงเชียร์กระโดดโลดเต้น
หั่วหลงจู้กับหั่วหลงชิ่งปรบมือเบาๆ ไม่ว่ายังไง ลู่ฝานก็ได้รับชัยชนะในนามตัวแทนของตระกูลหั่ว
หั่วหลงจู้พูดเบาๆ ว่า “แม้ฉันไม่ชอบไอ้หมอนี่ แต่เขาเก่งจริงๆ”
หั่วตันซูพูดขึ้นข้างๆ “ความแข็งแกร่งของลู่ฝาน เหนือกว่าที่พวกเราจินตนาการไว้จริงๆ ผู้อาวุโสสาม ครั้งนี้ตระกูลต้องมอบรางวัลให้เขาอย่างงามเลยนะ”
ผู้อาวุโสสามพูดอย่างเฉยเมย “นั่นมันแน่อยู่แล้ว ลู่ฝาน ทำไมนายยอดเยี่ยมขนาดนี้”
ลู่ฝานคำนับให้ประมุขประเทศตันเซิ่งเล็กน้อย
ทันใดนั้น ลู่ฝานได้ยินประมุขประเทศตันเซิ่งส่งเสียงกระแสจิตมาข้างหูเขา
“เซียนบำเพ็ญชี่ขั้นต้นเอาชนะเซียนบำเพ็ญชี่ชั้นสุดยอด ความสามารถของนายไม่ได้เรียกว่าธรรมดา ลู่ฝาน นายลองคิดฝากตัวเป็นศิษย์ฉันไหม”
ลู่ฝานเงยหน้าขึ้นมองประมุขประเทศตันเซิ่ง แล้วพูดอย่างราบเรียบว่า “ขอโทษด้วย ฉันมีอาจารย์แล้ว ถ้าฝ่าบาทคิดว่าฉันเป็นคนมีความสามารถให้อบรมเลี้ยงดูได้จริง ๆ ให้ฉันไปร่วมการแข่งนานาประเทศจะดีกว่าไหมล่ะ”
ประมุขประเทศตันเซิ่งยิ้มแล้วส่งเสียงกระแสจิต “นายอยากออกจากประเทศตันเซิ่งขนาดนั้นเชียว เหอะๆ ฉันจะบอกให้นะ เป็นไปไม่ได้หรอก”
รอยยิ้มบนใบหน้าลู่ฝานไม่หายไป ยังคงนิ่งเหมือนเดิม
อีกด้านหนึ่ง ในหอสวรรค์วิญญาณศักดิ์สิทธิ์ ผู้อาวุโสชุดดำหัวเราะเบาๆ ไม่หยุด สะบัดมือปัดห้าธาตุสรวงสวรรค์ตรงหน้า
“ลู่ฝาน ฉันพูดสิ่งที่ควรพูดไปหมดแล้ว ที่เหลือขึ้นอยู่กับตัวนายเองแล้วล่ะ!”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เซียนบู๊ ทะลวงชั้นฟ้า