เข้าสู่ระบบผ่าน

เซียนบู๊ ทะลวงชั้นฟ้า นิยาย บท 1841

“อาจารย์อา จะดึงฉันออกไปทำไมละ”

เฟิงเสี่ยวชี่ถูกไอ้อ้วนตงลากตัวออกมาจนไกล เขาจึงจะเอ่ยถามขึ้นมา

ไอ้อ้วนตงปล่อยมือออกจากปกคอเสื้อของเฟิงเสี่ยวชี่ ตบมือพลางตอบอีกฝ่าย “มือเปื้อนเลือดข้างหนึ่ง นายจะต้องไปเปลี่ยนชุดแล้ว ฉันขอบอกนายว่า ก่อนที่การแข่งขันนานาประเทศจะเริ่มขึ้น ฉันไม่อนุญาติให้นายไปคลุกคลีกับลู่ฝานให้มากนัก! เข้าใจไหม?”

เฟิงเสี่ยวชี่ขมวดคิ้วถาม “แค่เขาคนเดียวเหรอ?”

ไอ้อ้วนตงพยักหน้า “ใช่ ก็แค่เขาคนเดียว”

เฟิงเสี่ยวชี่ถอนหายใจ ก่อนจะเอ่ยตอบ“เข้าใจแล้ว เป็นเรื่องความขัดแย้งระหว่างสำนักเสินหวงกับสำนักจิ่วเซียวอีกแล้ว อาจารย์อา ท่านก็มีความสัมพันธ์ที่ดีกับหวูเฉินที่เป็นอาจารย์ของเขาไม่ใช่เหรอ ทำไมพอมารุ่นฉัน ถึงจำเป็นต้องเอาให้ตายกันไปข้างหนึ่งด้วย”

ไอ้อ้วนตงตบเข้าที่ท้ายทอยของเฟิงเสี่ยวชี่และพูด “อะไรคือเอาให้ตายกันไปข้างหนึ่ง ฉันเคยพูดกับนายว่าจะต้องเอาให้ตายกันไปข้างหนึ่งแล้วหรือไง? ฉันก็แค่จะให้นายแข่งขันกับเขาเท่านั้น และนายต้องชนะ”

เฟิงเสี่ยวชี่มองกระบี่ฟางชุ่นของตัวเองในมืออย่างพินิจพิเคราะห์พลางเอ่ย “วางใจเถอะ อาจารย์อา ฉันมีความมั่นใจ!”

ไอ้อ้วนตงถมึงตาใส่เฟิงเสี่ยวชี่ “แต่ตอนนี้ฉันไม่เชื่อมั่นในฝีมือนายแล้ว เมื่อกี้นายไม่เห็นความสามารถของลู่ฝานหรือไงกัน? ฝ่ามือเดียวสกัดกั้นดาบได้ หมัดเดียวมีอานุภาพทำลายล้างสูง พลังของการบำเพ็ญเพียรของเขา ไม่ได้ด้อยไปกว่านายเลย อาจจะแข็งแกร่งกว่านายด้วยซ้ำ”

เฟิงเสี่ยวชี่เอ่ย “เป็นไปไม่ได้หรอกมั้ง ฉันแค่ยังไม่ได้ใช้ความสามารถทั้งหมดออกมาเลย ไม่งั้นฉันเองก็ทำได้เหมือนกัน และฉันยังมีอาวุธที่มีประสิทธิภาพมากที่สุดที่อาจารย์อาสอนฉันอยู่ทั้งที”

ไอ้อ้วนตงสั่นหัว “ถ้าง่ายแบบนั้นได้ก็ดีสิ นายคิดว่านายมี อาวุธที่มีประสิทธิภาพมากที่สุดแต่เพียงผู้เดียวหรือไง ฉันดูลู่ฝานเป็นคนอมภูมิ มีวิชาเต๋าอยู่ในตัว แม้แต่ฉันก็ดูไม่ออกว่า เขาคืบหน้าไปขนาดไหนกันแน่ ก็ไม่แน่ว่า เขาก็มีวิถีอยู่ในมืออีก แล้วไอ้จอมหลงทางนั่นด้วย ก็ไม่ธรรมดา ”

เฟิงเสี่ยวชี่พูด “แข็งแกร่งมาก วิชาดาบมือเดียว มีพลังมากทีเดียว”

ไอ้อ้วนตงพูด “เขาก็ยังไม่ได้แสดงความสามารถออกมาทั้งหมด ยังคงมีท่าไม้ตายอยู่กับตัวอีกแน่ ๆ การแข่งนานาประเทศครั้งนี้ มีแต่เสือซุ่มมังกรซ่อนจริง ๆ !”

เฟิงเสี่ยวชี่ยิ้มน้อย ๆ พลางหยิบถุงใส่เหล้าเล็ก ๆ ขึ้นมาจิบอึกหนึ่ง “กลัวอะไร ทหารมาใช้ขุนพลต้านรับ น้ำมาก็ใช่ดินต้าน ฉันอยากจะเห็นว่า วีรบุรุษใต้หล้าเหล่านั้นเป็นอย่างไรบ้าง!”

อีกฝั่งหนึ่ง ฮ่วนเย่ว์ยังคงรู้สึกตกใจ

“ลู่ฝาน นายพูดจริงพูดเล่นเนี่ย ไอ้อ้วนเมื่อตะกี้นั่นเป็นอริยบุคคลเหรอ? เขาคือเทพอะไร! มีสมญานามหรือไม่!”

ลู่ฝ่านเดินไปพลางพูดไปพลาง “ท่านเทพอักษรไง!”

พอได้ยินชื่อนี้ ฮ่วนเย่ว์ก็ตัวสั่นขึ้นมา

“พระเจ้า ท่านเทพอักษร! เขาเป็นถึงท่านเทพอักษรหรือนี่!”

ฮ่วนเย่ว์หันตัวกลับหมายจะวิ่งไปทางไอ้อ้วนตงที่เดินจากไป

ลู่ฝานดึงเธอไว้ “จะทำอะไร? ไม่กลับประเทศอู่อานแล้วหรือไง?”

ฮ่วนเย่ว์ตะโกนเสียงดัง “ฉันจะขอฝากตัวเป็นศิษย์ ต่อให้แย่ยังไงก็ต้องไปขอลายเซ็นต์มาให้ได้ ท่านเทพอักษรผู้มีชื่อเสียงโด่งดังเชียวนะ! แม้แต่ลูกศิษย์ของสำนักเราก็ยังคุ้นเคยกับชื่อนี้ ปล่อยมือเถอะ นายดึงเสื้อฉันจนจะฉีกขาดแล้วนะ!”

ลู่ฝานเพิ่งจะเห็นว่าเขาดึงเสื้อของฮวนเย่ว์จนเผยไหล่ออกมาให้เห็น

ลู่ฝานรีบปล่อยมือ และพูด “เขาไม่รับลูกศิษย์ ไปแล้วก็ไม่มีประโยชน์อะไร ทุกคนไปไกลกันหมดแล้ว”

ฮ่วนเย่ว์จัดเสื้อผ้าตัวเองให้เรียบร้อย ทำตาค้อนประหลับประเหลือกใส่ลู่ฝาน “ก็ใครให้นายไม่บอกก่อนเล่า ฉันไม่สนหรอก นายติดค้างฉันเรื่องลายเซ็นต์ ถึงเวลานั้นช่วยขอให้ฉันที แล้วเอากลับประเทศอู่อานให้ฉันด้วย”

ลู่ฝานพยักหน้ารัว และเอ่ย “ได้ ๆ ๆ คุณหนูของฉัน รีบไปเถอะ อย่าหลงทางเหมือนจอมหลงทางคนนั้นละ!”

พูดจบ ลู่ฝานก็ได้ยินเสียงดังขึ้นมาจากในป่า

“ใครพูดว่าฉันเป็นจอมหลงทางอีกแล้ว ฉันจะฆ่านาย!”

จากนั้น ลู่ฝานก็มองเห็นกลุ่มเมฆฝุ่นกำลังลอยห่างออกไป

ลู่ฝานพูดพึมพำ “เจ้านี่มาถึงประเทศฉิงเทียนได้ยังไงกัน ปาฏิหาริย์ชัด ๆ ”

เดินทางต่อไปข้างหน้า ผ่านไปอีกวันสองวัน ในที่สุดลู่ฝานกับฮ่วนเย่ว์ก็เดินทางมาถึงหน้าประตูสี่โลก

เห็นผู้คนเดินออกมาอย่างต่อเนื่องจากในประตูสี่โลกที่ตั้งสูงตระหง่าน

ลู่ฝานเดินแหวกฝูงชนมาถึงข้างกายฮ่วนเย่ว์ “เกิดอะไรขึ้น กลับไม่ได้เหรอ?”

ฮ่วนเย่ว์ตะโกนเสียงดัง “ใช่ ก็ไม่รู้ว่าค่ายกลนี่มันใช้ได้ทิศทางเดียว หรือว่าจงใจไม่ให้คนออกไปได้”

ทันใดนั้นเอง ชายหนุ่มที่อยู่ด้านข้างก็พูดพลางหัวเราะ “สาวน้อย มาแล้วก็ตั้งใจเข้าร่วมการแข่งขันเถอะ จะรีบกลับไปทำไมกันเล่า”

ฮ่วนเย่ว์ตะโกนตอบ “นายจะไปรู้อะไรล่ะ”

ชายหนุ่มคนนั้นแสดงสีหน้าขุ่นเคือง “สาวน้อย อย่าได้พูดอะไรไม่เข้าหูแบบนี้!”

ลู่ฝานชำเลืองมองอีกฝ่ายแวบหนึ่ง จนชายหนุ่มคนนั้นตกใจกลัวในทันทีทันใด ได้แต่เก็บความขุ่นเคืองและเดินหดหัวออกไป

ฮ่วนเย่ว์พยายามเอาตัวกระแทกเข้ากับเมฆหมอกอย่างต่อเนื่อง แต่ก็เข้าไม่ได้

ฮ่วนเย่ว์กัดริมฝีปาก และเอ่ย “ยุ่งล่ะสิ กลับไม่ได้ จะต้องเกิดเรื่องใหญ่ขึ้นแน่ ๆ ”

ลู่ฝานเอามือลูบเมฆหมอกที่เกาะตัวเป็นก้อนแข็ง และพูดว่า “ไม่มีเรื่องใหญ่ขึ้นได้หรอก ในเมื่อกลับไม่ได้ก็ไม่ต้องกลับสิ”

ฮ่วนเย่ว์เอ่ย “หากฉันกลับไปไม่ได้ ก็จะต้องถูกจับได้แน่ ๆ คณะจะจับฉัน ราชสำนักของประเทศฉิงเทียนก็จะจับฉัน ขอแค่อยู่ในประเทศฉิงเทียน ฉันจะต้องถูกจับได้อย่างแน่นอน”

ลู่ฝานเอ่ย “นั่นไม่จำเป็น ไปกับฉันเถอะ รับรองแคล้วคลาดปลอดภัย เพราะยังไงการสังหารคนก็มีส่วนของฉันอยู่ด้วย”

ฮ่วนเย่ว์ขบคิดอยู่นานกว่าจะถอนหายใจออกมา “ก็คงได้แต่เป็นเช่นนั้นแล้วล่ะ ลู่ฝาน นายมั่นใจว่าจะไม่เกิดเรื่องขึ้นจริง ๆ นะ?”

ลู่ฝานหัวเราะเรียบ “มั่นใจแน่นอน วางใจเถอะ”

ครั้นพูดเช่นนี้ ลู่ฝานก็พึมพำกับตัวเอง “ทำไมถึงกลับไปไม่ได้นะ?”

เขาเงยหน้ามองเมฆหมอกเหล่านี้ และมองประตูสี่โลกที่สูงตระหง่านราวกับภูเขา

ลู่ฝานพลันรู้สึกสังหรณ์ใจไม่ดีขึ้นมาในใจ!

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เซียนบู๊ ทะลวงชั้นฟ้า