เซียนบู๊ ทะลวงชั้นฟ้า นิยาย บท 1872

สรุปบท บทที่ 1872 สามอริยบุคคล (2): เซียนบู๊ ทะลวงชั้นฟ้า

ตอน บทที่ 1872 สามอริยบุคคล (2) จาก เซียนบู๊ ทะลวงชั้นฟ้า – ความลับ ความรัก และการเปลี่ยนแปลง

บทที่ 1872 สามอริยบุคคล (2) คือตอนที่เปี่ยมด้วยอารมณ์และสาระในนิยายใช้ชีวิต เซียนบู๊ ทะลวงชั้นฟ้า ที่เขียนโดย โอหยางวิ่น เรื่องราวดำเนินสู่จุดสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยใจตัวละคร การตัดสินใจที่ส่งผลต่ออนาคต หรือความลับที่ซ่อนมานาน เรียกได้ว่าเป็นตอนที่นักอ่านรอคอย

ฝนสีทองเต็มฟ้า ทำให้ผู้คนนับไม่ถ้วนส่งเสียงโห่ร้องด้วยความดีใจ กระทั่งท่ามกลางฝูงชนเริ่มแย่งทองแท่งกันอย่างบ้าคลั่ง

ทหารรักษาการณ์เมืองที่คอยดูแลความสงบรอบด้านเริ่มแยกย้ายกันออกไปลงมือกับฝูงชน ขณะนั้นจึงเริ่มเห็นถึงข้อดีของคนตัวใหญ่

เพราะตัวใหญ่ เสื้อผ้าใหญ่ กระเป๋าเสื้อจึงใหญ่ พื้นที่ใส่ทองย่อมเยอะขึ้นด้วย

ลู่ฝานมองฉากนั้นอย่างตื่นตะลึง ใต้หล้านี้ใครบ้างกล้าพูดว่าไม่เคยฝันกลางวันให้ท้องฟ้ามีทองโปรยปราย

แต่วันนี้ ฝันกลางวันกลายเป็นความจริงแล้ว

คนที่มาถึงประเทศฉิงเทียนได้ ย่อมไม่อาจมีผู้อ่อนแอที่สามารถถูกทองทุบตายได้

ดังนั้นลู่ฝานจึงได้ยินคนนับไม่ถ้วนร้องตะโกน

“โปรยทองแท่งลงมาอีกเยอะ ๆ หน่อย!”

แสงสว่างร่วงลงสู่พื้น เรือนร่างมอมแมมค่อย ๆ เดินออกมาจากตรงกลาง

นี่คือชายวัยกลางคนที่ดูเหมือนยาจกผู้หนึ่ง เสื้อคลุมสกปรก เส้นผมแผ่สยาย หน้าดำเท้าเปลือยเปล่า

ทั่วทั้งหน้าเต็มไปด้วยหนวดหร็อมแหร็ม ที่เอวมีพัดเหล็ก

ลู่ฝานมองคนผู้นั้นอย่างตื่นตะลึง ถามเบา ๆ : “นี่ก็คือเทพเงินแปดทิศ?”

หนานกงสิงที่อยู่ข้าง ๆ ตอบว่า: “ฉันอยากบอกนายเหลือเกินว่าไม่ใช่ แต่เขาใช่ ไม่มีทางเลือกอื่น!”

สีหน้าของลู่ฝานพลันเต็มไปด้วยความสับสน

ความรู้สึกของเขาตอนนี้ คล้ายกับรอหญิงงามหยาดเยิ้มผู้หนึ่งปรากฏตัว สุดท้ายที่โผล่ออกมาถึงกับเป็นผู้ชายอกสามศอก

เทพเงินแปดทิศกางแขนออกพลางพูดเสียงดัง: “ฮ่าฮ่า การแข่งขันนานาประเทศมาถึงอีกแล้ว คนโฉดชั่วทั้งหลายแห่งใต้หล้า พวกนายพร้อมสำหรับการเข่นฆ่าหรือยัง? พร้อมสำหรับการช่วงชิงชีวิตหรือไม่? มา บอกฉันเสียงดัง ๆ หน่อย!”

น้ำลายกระเด็น เทพเงินแปดทิศโบกมือไม่หยุด คล้ายกับลิงชิมแปนซีเต้น

ฝูงชนด้านล่าง นับว่าไว้หน้าเขามาก ร้องตะโกนเสียงดังขึ้นมาจริง ๆ

เทพเงินแปดทิศสะบัดมือหนหนึ่ง ครั้งนี้กลับเป็นอัญมณีกอบใหญ่ ทุกเม็ดล้วนเป็นวงรีบ้างใหญ่บ้างเล็ก

การเคลื่อนไหวของเขา ทำให้อริยบุคคลแห่งจักรวาล เทพบู๊หุ้นตุ้นต่างทนมองไม่ได้

ทั้งสองคนต่างใช้สายตาหยามหยันมองไปยังเทพเงินแปดทิศ โดยเฉพาะอริยบุคคลแห่งจักรวาล เขาดูคล้ายไม่ชินกับการแสดงของเทพเงินแปดทิศ

มองอย่างเหยียดหยันไปยังเทพเงินแปดทิศแวบหนึ่ง อริยบุคคลแห่งจักรวาลพ่นสี่คำออกมา: “ตัวตลกเต้น”

เทพบู๊หุ้นตุ้นซึ่งอยู่ข้าง ๆ ยิ้มพลางต่อบทสนทนา: “ยังเป็นตัวตลกที่มีเงินด้วยนะ”

เทพเงินแปดทิศหูกระดิก เห็นได้ชัดว่าคำวิจารณ์ของพวกอริยบุคคลแห่งจักรวาล ลอยมาเข้าหูเขาอย่างชัดเจน

ทว่าเขาไม่ได้พูดอะไร เพียงหันกลับไปแสยะยิ้มให้อริยบุคคลแห่งจักรวาลและเทพบู๊หุ้นตุ้นเล็กน้อย

ต่อมา เทพเงินแปดทิศพูดเสียงดัง: “ฉันขอประกาศว่า ครั้งนี้ การแข่งนานาประเทศ ผู้แข็งแกร่งร้อยลำดับแรก จะได้รับการ์ดผลึกมังกรดำของสำนักเงินปาฟางหนึ่งแผ่น ลำดับที่หนึ่งยิ่งต้องเพิ่มรางวัล การ์ดผลึกใต้หล้าปาฟางหนึ่งแผ่น รวมทั้งอาวุธวิเศษหุ้นตุ้น!”

พูดยังไม่ทันจบ คนนับไม่ถ้วนก็ส่งเสียงตื่นตะลึงอื้ออึง!

หนานกงสิงพลันตื่นเต้นจนทั่วทั้งร่างสั่นระริก ลู่ฝานค่อนข้างไม่ค่อยเข้าใจ หันไปถามหนานกงสิงว่า: “อาวุธวิเศษหุ้นตุ้นคืออะไร?”

เสียงของหนานกงสิงเปลี่ยนเป็นแหบพร่า สายตาสว่างไสว: “ก็คืออาวุธวิเศษที่หลวมรวมเข้ากับพลังหุ้นตุ้น นายเคยได้ยินเรื่องพลังหุ้นตุ้นไหม?”

ร่างของลู่ฝานสั่นน้อย ๆ เขาต้องเคยได้ยินเรื่องพลังหุ้นตุ้นอย่างแน่นอน

สมควรตายนัก จักรพรรดิอู่ที่ยึดติดอยู่ในร่างกายของเขา ยังรอให้เขาใช้พลังหุ้นตุ้นปราบปราม

เรื่องความล้ำค่าของพลังหุ้นตุ้น ลู่ฝานตอนนี้เข้าใจอย่างแจ่มแจ้งแล้ว แน่นอนว่าเหนือกว่ายาเทวดา ยาเซียน!

อาวุธวิเศษหุ้นตุ้น รางวัลนี้นับว่าอลังการมาก

เป็นปกติที่หากได้ยิน จะต้องตื่นเต้นกรีดร้องขึ้นมา

กวาดสายตามองไป มีคนตั้งเท่าไหร่ พริบตานั้นดวงตาแดงก่ำ

พูดจบ เทพเงินแปดทิศเหมือนอยากให้พวกอริยบุคคลแห่งจักรวาลได้เห็น ขณะเดียวกันก็ยื่นมือออกไป

ไม่มีอะไรชัดเจนไปกว่านี้อีกแล้ว ไม่จำเป็นต้องพูดอีก

“ฉันล้วนวางรางวัลแล้ว พวกคุณล่ะ?”

อริยบุคคลแห่งจักรวาล เทพบู๊หุ้นตุ้นสีหน้าพลันจมลึก

ด้านข้าง หลิงเหยาสายตาสว่างไสวพูดว่า: “ขอเพียงลู่ฝานเข้าร่วม สิ่งของเหล่านี้ล้วนจะต้องเป็นของเขา”

หานเฟิงได้ยินชื่อของลู่ฝาน ชะงักไปนิดหนึ่ง จากนั้นพูดว่า: “ไม่ผิด หากศิษย์น้องลู่ฝานชนะ งั้นก็ไม่ต่างกับฉันชนะ ฉันแค่ขอยืมหนังสือคัมภีร์บู๊นั่นอ่านสักรอบก็พอแล้ว ฮ่าฮ่า”

ด้านหลังของพวกเขา หานหยวนหนิง หลินหย่าต่างรอยยิ้มเกลื่อนหน้า

หวูเฉินนั่งตัวตรงอยู่ในที่ชุมนุม เพียงมองสามอริยบุคคลแวบหนึ่ง แล้วจึงย้ายสายตาไปทางอื่น

ที่นั่น ลู่ฝานซึ่งมีรอยยิ้มเต็มหน้านั่งอยู่ในที่นั่งของเชื้อพระวงศ์

หวูเฉินพยักหน้า พึมพำ: “อริยบุคคลแห่งจักรวาล เทพบู๊หุ้นตุ้น เทพเงินแปดทิศ พวกคุณตอนนั้นทำลายวิทยายุทธของฉัน ดูท่าคงต้องชดใช้แล้ว ทำดีได้ดีทำชั่วได้ชั่ว กงเกวียนกำเกวียน สิ่งของเหล่านี้ ก็มอบให้ลูกศิษย์ของฉันทั้งหมดเถอะ นับว่าลูกศิษย์ของฉันรับของชดเชยแทนฉันแล้วกัน”

หวูเฉินพลางพูด พลางยกจอกสุราขึ้น รินเข้าปากตัวเอง

หรี่นัยน์ตา หวูเฉินมองประเมินลู่ฝานที่อยู่ไกล ๆ อย่างละเอียด

เขาสามารถมองเห็นถึงรอยยิ้มเกลื่อนหน้าของลู่ฝานอย่างชัดเจน รวมถึงพลังอันล้ำลึกที่แพร่กระจายออกมาจากร่าง

ในสายตาของหวูเฉิน คล้ายกับแสงสว่างเส้นหนึ่ง เกิดจากปราณชี่ในร่างของลู่ฝานหลอมรวมกัน

เขาจำได้ว่าตอนที่ลู่ฝานจากไป แสงสว่างนี้ยังน้อยนิด ทั้งยังอ่อนเบา คล้ายกับต้นกล้าเล็ก ๆ เปราะบางมาก

แต่ตอนนี้ ต้นกล้านั้นมีลำต้นสูงใหญ่ แผ่กิ่งก้าน ทิ่มขึ้นท้องฟ้า

ขณะนั้นลู่ฝานคล้ายกับสัมผัสถึงอะไรบางอย่าง พลันหันมาทางหวูเฉิน

พริบตานั้น อาจารย์และศิษย์สบตากัน ลู่ฝานมองเห็นแสงสว่างที่อยู่ในร่างของหวูเฉิน

เป็นแสงอันน้อยนิดใกล้ดับสลาย รวมอยู่ด้วยกัน ทั้งยังมีรอยร้าวอันชัดเจน นี่ก็คือปราณชี่ของหวูเฉิน

ทั้งสองคนยิ้มขึ้นพร้อมกัน มือของลู่ฝานคว้าจอกเหล้าหน้าโต๊ะตัวเอง

ยกจอกสุราขึ้น ลู่ฝานคำนับอาจารย์หวูเฉิน พูดเบา ๆ: “อาจารย์ ศิษย์จะไม่ทำให้คุณผิดหวัง ตลอดกาล”

หวูเฉินก็ยกจอกเหล้าขึ้น พูดเบา ๆ: “อาจารย์เต็มใจเฝ้ามองนาย ชื่อเสียงก้องใต้หล้า!”

ทั้งสองคนแหงนหน้าดื่มจนหมด

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เซียนบู๊ ทะลวงชั้นฟ้า