เซียนบู๊ ทะลวงชั้นฟ้า นิยาย บท 1890

สรุปบท บทที่ 1890 ตำราสวรรค์สามเล่ม: เซียนบู๊ ทะลวงชั้นฟ้า

ตอน บทที่ 1890 ตำราสวรรค์สามเล่ม จาก เซียนบู๊ ทะลวงชั้นฟ้า – ความลับ ความรัก และการเปลี่ยนแปลง

บทที่ 1890 ตำราสวรรค์สามเล่ม คือตอนที่เปี่ยมด้วยอารมณ์และสาระในนิยายใช้ชีวิต เซียนบู๊ ทะลวงชั้นฟ้า ที่เขียนโดย โอหยางวิ่น เรื่องราวดำเนินสู่จุดสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยใจตัวละคร การตัดสินใจที่ส่งผลต่ออนาคต หรือความลับที่ซ่อนมานาน เรียกได้ว่าเป็นตอนที่นักอ่านรอคอย

ยามพลบค่ำ ลู่ฝานนั่งบนหลังเจ้าดำเหาะกลับมาที่วัง มองอาทิตย์ค่อยๆ ลับขอบฟ้า

กลุ่มคนในเมืองยังเอะอะโวยวาย การต่อสู้มีขึ้นอย่างต่อเนื่อง เสียงตะโกนดังไม่หยุด จินตนาการได้เลยว่าความคึกคักพร้อมกับการแข่งขันอย่างต่อเนื่องแบบนี้ จะทำให้ดุเดือดขึ้นเรื่อยๆ

ยามค่ำคืนใกล้มาถึง สำหรับพวกเขาเป็นเพียงส่วนหนึ่งของความรื่นเริง

เจ้าดำค่อยๆ ลงจากฟ้า

ลงมาที่หน้าวัง เห็นได้ชัดว่าองครักษ์จำลู่ฝานได้

ไม่มีใครเข้ามาซักถามลู่ฝาน ปล่อยให้ลู่ฝานเดินอย่างสง่าผ่าเผยเข้าไปในวัง

แต่เดินได้ไม่กี่ก้าว ลู่ฝานได้ยินเสียงสัตว์ปีกบินลงมาบนพื้นดังขึ้นด้านหลัง รวมถึงเสียงล้อรถม้าเคลื่อนตัวด้วย

ลู่ฝานหันไปมองด้านหลัง จู่ๆ เขาชะงักฝีเท้าลง

อู่คงหลิงเดินออกมาจากรถม้า

ใส่ผ้าปิดหน้า ดวงตามีรอยยิ้ม ฝีเท้ายังเบาและเร็วด้วย

ลู่ฝานยืนอยู่ที่เดิม รอเธอเดินเข้ามาในวัง

จู่ๆ อู่คงหลิงเห็นลู่ฝานเช่นกัน

ฝีเท้าชะงักเล็กน้อย รอยยิ้มนัยน์ตาอู่คงหลิงหายไปไม่น้อย จากนั้นเธอรีบเดินเข้าไปหาลู่ฝาน

“หัวหน้าสำนักรอฉันเหรอ”

เสียงอู่คงหลิงราบเรียบ แต่ลู่ฝานเห็นความประหลาดนัยน์ตาเธอ

ลู่ฝานยิ้มบางๆ แล้วพูดว่า “เปล่า ฉันเพิ่งกลับมาเหมือนกัน บังเอิญจริงๆ เธอไปทำอะไรมาเหรอ”

อู่คงหลิงพูดว่า “แค่เรื่องหยุมหยิม หัวหน้าสำนักไม่สนใจหรอก”

พูดพลาง อู่คงหลิงกอดแขนลู่ฝาน ดึงเขาเดินไปด้านหน้าอย่างสนิทสนมมาก

ลู่ฝานเงียบครู่หนึ่งแล้วพูดว่า “ไม่ วันนี้ฉันสนใจมาก บอกฉันมาเถอะว่าเธอไปทำอะไร”

อู่คงหลิงชะงักฝีเท้าลงทันที ปล่อยแขนแล้วมองหน้าลู่ฝานแบบอึ้งๆ

แววตาลู่ฝานเฉยเมยและล้ำลึก เขาก็จ้องตาอู่คงหลิงเหมือนกัน

จู่ๆ อู่คงหลิงพูดว่า “นายให้คนสะกดรอยตามฉัน!”

ลู่ฝานไม่ได้เถียง เขามองอู่คงหลิงแล้วพูดว่า “เธอไม่มีเรื่องอะไรบอกฉันจริงเหรอ”

เสียงอู่คงหลิงแปรเปลี่ยนเป็นเฉยชา “นายรู้แล้วจะถามฉันทำไม”

ลู่ฝานส่ายหน้า “ฉันไม่รู้อะไรทั้งนั้น ตอนนี้เธอบอกฉันมาสิว่าฉันควรรู้อะไร”

อู่คงหลิงขบริมฝีปาก เหมือนน้ำตาคลอเบ้า

แต่ต่อมาเธอสะกดกลั้นอารมณ์ทั้งหมด เสยผมแล้วเงยหน้าขึ้น “ฉันไปหาผู้อาวุโสซู่มั่น คุยกับเธอนิดหน่อย แล้วก็ขอคนมาเล็กน้อย”

ลู่ฝานพูดว่า “เธอต้องการ ผู้อาวุโสจะให้เธอเหรอ”

อู่คงหลิงพูดว่า “ใช่ ผู้อาวุโสซู่มั่นให้ฉัน เหมือนเธอชื่นชมฉันมาก ฉันว่าอยู่กับเธอก็ไม่เลวเหมือนกัน อ้อ ผู้อาวุโสซู่มั่นบอกให้ฉันคืนป้ายนี้ให้นาย เธอบอกว่านายทำได้ดี เรื่องลงโทษค่อยว่ากันหลังภารกิจ”

อู่คงหลิงพูดพลางเอาป้ายหัวหน้าสำนักออกมายัดใส่มือลู่ฝาน

ลู่ฝานมองป้ายในมือแล้วยกยิ้มมุมปาก พยักหน้าพูดว่า “เข้าใจแล้ว”

พูดจบ ลู่ฝานเอาสองมือไพล่หลังแล้วเดินไปข้างหน้า ไม่ถามอะไรอีกแล้ว

อู่คงหลิงมองด้านหลังลู่ฝาน จู่ๆ เธอกัดฟันพูดว่า “หัวหน้าสำนัก ฉันไม่ได้ทำเรื่องผิดต่อนาย ฉันไม่มีทางทำร้ายนาย แต่ฉันต้องทำความฝันให้สำเร็จ ฉันต้องพยายามเต็มที่เพื่อความก้าวหน้าขึ้นเรื่อยๆ ฉันจะเป็นหัวหน้าสำนักผู้ฝึกชั่วร้าย ด้วยเหตุนี้ฉันยอมเสี่ยงทุกอย่าง ถ้าฉันทำอะไรผิด นายฆ่าฉันได้เลย”

ลู่ฝานพูดโดยไม่หันมามอง “เข้าใจแล้ว”

อู่คงหลิงน้ำตาคลอเบ้าอีกครั้ง เธอพูดเสียงดังว่า “นายไม่เกลี้ยกล่อมฉันเลยเหรอ”

ลู่ฝานชะงักฝีเท้าแล้วถอนหายใจ หันมาพูดว่า “แต่ละคนมีความปรารถนาต่างกัน บังคับกันไม่ได้ ฉันรู้แค่ว่าเธอไม่ใช่คนเสียสติ เธอยังมีจิตสำนึก”

อู่คงหลิงพูดว่า “แต่ฉันไม่ใช่พวกเดียวกับนาย ฉันใฝ่หาความมืดเหมือนจางเยว่หาน”

ลู่ฝานหัวเราะ ส่ายหน้าพูดว่า “ไม่ เธอไม่ได้ใฝ่หาความมืด เธอใฝ่หาพละกำลัง ไม่ว่าเธอเป็นใคร ถ้าจิตใจดีจะมีแสงสว่างบนตัว ถ้าจิตใจสกปรก จะอยู่ท่ามกลางความมืดมิด ทุกอย่างอยู่ที่เธอเลือกเอง”

พูดจบ ลู่ฝานเดินออกไป

อู่คงหลิงยืนเงียบอยู่ที่เดิม

เจดีย์เสวียนเก้ามังกรในตัวลู่ฝานหัวเราะ “เจ้านายผู้ยิ่งใหญ่ ประโยคที่เจ้านายพูดให้กลิ่นอายของวิถีจริงๆ ดูเหมือนเจ้านายคือผู้แข็งแกร่งที่จิตใจอยู่ท่ามกลางวิถี ฉันเลื่อมใสมากจริงๆ ถ้าเจอสิ่งศักดิ์สิทธิ์......”

ลู่ฝานหัวเราะ “แกจะบอกว่าฉันแสร้งทำเก่งใช่ไหม”

เจดีย์เสวียนเก้ามังกรหัวเราะคิกคัก “เจ้านายมองแวบเดียวก็รู้แล้ว เจ้านายผู้ยิ่งใหญ่”

ลู่ฝานหัวเราะเหอะๆ “หุบปาก!”

จวนองค์ชายใหญ่ เสียงตะโกนดังสะเทือนเลือนลั่น

เมื่อลู่ฝานเดินมาถึงหน้าประตู เห็นแสงสว่างขึ้นในจวนไม่หยุด เหมือนเกิดการต่อสู้ด้านใน

ลู่ฝานรับกระดาษมาอย่างงุนงง จู่ๆ เขารับรู้ถึงพลังแสนคุ้นเคยบนกระดาษ

ปราณชี่!

นี่คือจดหมายที่อาจารย์เขียนให้เขา

ลู่ฝานรีบใส่ปราณชี่เข้าไปในกระดาษ

ต่อมา ตัวอักษรค่อยๆ ปรากฏขึ้นบนกระดาษ

ไม่เสียแรงที่อาจารย์หวูเฉินเป็นคนมีความสามารถในบรรดาผู้ฝึกชี่ ทักษะมีประโยชน์แบบนี้ ทำให้ลู่ฝานได้เปิดหูเปิดตาจริงๆ

เมื่อเพ่งมอง ข้อความท่อนแรกที่ปรากฏในสายตาทำให้ลู่ฝานยิ้มกว้าง

“ลู่ฝานลูกศิษย์ฉัน ตอนนายเห็นจดหมายฉบับนี้ แสดงว่านายได้เจอสิบสามแล้ว นายอาจประหลาดใจว่าทำไมสิบสามดูวิทยายุทธแข็งแกร่งขึ้นเยอะ ฉันจะบอกว่าช่วงที่นายไม่อยู่ ฉันอบรมสั่งสอนสิบสามทุกวัน แน่นอนว่านายคงรู้วิธีอบรมสั่งสอนของผู้ฝึกชี่ ดังนั้นนายไม่ต้องกลัวว่าสิบสามจะไปเป็นตัวถ่วงของนาย เขาจะเป็นผู้ช่วยที่แข็งแกร่งของนาย”

ลู่ฝานเงยหน้ามองสิบสามด้วยรอยยิ้ม “ฉันเข้าใจแล้ว อาจารย์กลั่นนายในเตาใช่ไหมล่ะ”

สิบสามพยักหน้าหงึกๆ เปลือกตายังกระตุกอยู่

ลู่ฝานตบไหล่สิบสามแล้วพูดว่า “ฉันก็เคยโดนกลั่นเหมือนกัน ตอนฉันเพิ่งเริ่มฝึกฝนน่ะ ยินดีด้วย นายเป็นพวกเดียวกับฉันแล้ว”

ลู่ฝานก้มหน้าอ่านต่อ

“ฉันรู้ว่าตอนนี้นายไม่สะดวกพบฉัน นายทำแบบนี้ถูกต้องแล้ว อริยบุคคลทั้งใต้หล้ากำลังตามหานาย ต้องการพลังบนตัวนาย ตอนนี้อริยบุคคลประเทศฉิงเทียนรวมตัวกัน เหตุการณ์ปั่นป่วนไปหมด เหมือนนายอยู่ท่ามกลางความวุ่นวาย คนเป็นอาจารย์อย่างฉันก็ไม่รู้จะช่วยนายยังไง แต่ฉันบอกนายได้ว่าซู่มั่นเป็นคนที่เชื่อใจได้ ถ้านายมีปัญหาให้ไปหาเธอ แต่ห้ามพูดถึงเทพบู๊เสินเซียวต่อหน้าเธอเด็ดขาด”

ลู่ฝานเลิกคิ้วขึ้น เหมือนความสัมพันธ์ของอาจารย์กับผู้อาวุโสซู่มั่นไม่ได้แย่อย่างที่คิด คิดไม่ถึงว่าอาจารย์เขาคิดว่าสามารถเชื่อใจผู้อาวุโสซู่มั่นได้

เมื่ออ่านลงมาเรื่อยๆ ลายมือของหวูเฉินหยาบขึ้น

“อีกอย่างสามอริยบุคคลในใต้หล้า นายอย่าเชื่อใจใครสักคน สามคนนี้เสแสร้งมาก พวกเขาทุเรศกว่าผู้ฝึกชั่วร้าย ถ้านายเจอสามคนนี้ให้รีบหนีซะ ไม่ต้องลังเลเลย สุดท้ายฉันให้สิบสามเอาของให้นายด้วย ที่ไม่ได้ให้ของพวกนี้กับนายก่อนหน้านี้ เพราะพละกำลังของนายยังไม่เพียงพอ เอาไปก็เปล่าประโยชน์ แต่ตอนนี้เหมือนนายเริ่มมีความรู้เรื่องเขตวิถีแล้ว ถึงเวลาให้นายแล้ว ของพวกนี้แข็งแกร่งมาก แต่ก็น่ากลัวมากเช่นกัน ใช้อย่างระมัดระวัง”

ลู่ฝานเงยหน้ามองสิบสาม “ของอะไรเหรอ”

สิบสามมองซ้ายมองขวา เมื่อแน่ใจว่าไม่มีใครจับตามองพวกเขา สิบสามเอาหนังสือวางลงบนมือลู่ฝาน

หนังสือบางมาก หนาประมาณ 1 นิ้วเท่านั้น

หน้าปกไม่มีตัวอักษร ดูเก่ามาก

ลู่ฝานเปิดหนังสือ เมื่อเพ่งมอง ด้านบนเขียนไว้ว่า “สำนักจิ่วเซียว หนังสือซ่อนพลังชี่ของตำราสวรรค์สามเล่ม!”

ลู่ฝานสูดหายใจเฮือก ฝ่ามือสั่นขึ้นมาเบาๆ

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เซียนบู๊ ทะลวงชั้นฟ้า