เซียนบู๊ ทะลวงชั้นฟ้า นิยาย บท 1912

สองชั่วโมงต่อมา

เมืองฉิงเทียน ทางใต้ของเมือง ในจวนที่สวยงามเป็นสง่า

ประมุขประเทศตันเซิ่งฟื้นตัวจากการฝึกฝนช้าๆ

“ฟู่ว!”

ค่อยๆ หายใจออกมาทางปากช้าๆ ประมุขประเทศตันเซิ่งก้มหน้ามองร่างกายของตัวเอง

จากที่ตัวเล็ก น่ารัก ผิวขาวราวกับหิมะ ผิวพรรณที่มีเลือดฝาด ตอนนี้ด้านในมีควันสีดำเคลื่อนไหวอยู่

เหมือนแผลเปื่อยในกระดูกที่ปัดไม่ออก

“เฟิงเทียน!”

ประมุขประเทศตันเซิ่งกัดฟันพูดชื่อนี้ออกมา

ใบหน้าที่ดูเหมือนกับเด็กแปดขวบ ตอนนี้เต็มไปด้วยความเกลียดแค้น

แก้มที่ไร้ที่ติของเขา ตอนนี้ก็มีรอยแผลที่น่าหวาดกลัวเพิ่มขึ้นหนึ่งรอย นี่ก็คือรอยที่เฟิงเทียนฝากไว้ให้เขา

เมื่อคิดถึงภาพในวันนั้นที่เฟิงเทียนพากลุ่มผู้ฝึกชั่วร้ายบุกมาถึงที่

จนถึงตอนนี้ประมุขประเทศตันเซิ่งยังคงหวาดผวาอยู่

และก็เป็นเพราะแบบนี้ เขาไม่กล้าพักกับคนของประเทศอื่นๆ อีกเลย

กลับแอบสร้างคฤหาสน์ของตัวเองภายในเมืองฉิงเทียนและหลบซ่อนตัว

เขาไม่รู้ว่าภายในประเทศฉิงเทียนเกิดอะไรขึ้นกันแน่

แต่เนื่องจากในผู้ฝึกชั่วร้ายมีผู้แข็งแกร่งมากมายขนาดนั้น แสดงว่าที่นี่จะต้องมีเรื่องใหญ่เกิดขึ้นแน่นอน

นี่ก็เป็นเหตุผลที่ประมุขประเทศตันเซิ่งไม่ยอมจากที่นี่ไป

ประมุขประเทศตันเซิ่งโบกมือเปิดประตูหินขนาดใหญ่ยักษ์ จากนั้นค่อยๆ เดินออกมา

ชั่วพริบตาเดียว ประมุขประเทศตันเซิ่งก็เห็นเจ้าบ้านของห้าตระกูลมหาอำนาจยืนรออยู่ที่นอกประตู

เจ้าบ้านเหล่านี้มีแผลตามร่างกาย บาดแผลเน่าเปื่อย จนถึงตอนนี้ยังมีน้ำหนองไหลออกมา ควันสีดำลอยขึ้น เห็นได้ว่ามีเพียงผู้ฝึกชั่วร้ายที่แข็งแกร่งเท่านั้นถึงจะทิ้งรอยแผลนี้ให้กับพวกเขาได้

ประมุขประเทศตันเซิ่งมองดูเจ้าบ้านของห้าตระกูลมหาอำนาจแล้วขมวดคิ้วพูดขึ้น “เกิดเรื่องอะไรขึ้น? พวกนายยืนอยู่ตรงนี้ทำไม?”

เจ้าบ้านห้าตระกูลสีหน้าลำบากใจ ชั่วครู่เจ้าบ้านตระกูลหั่วเดินออกมาช้าๆ จากนั้นพูดเสียงดัง “รายงานฝ่าบาท เกิดเรื่องขึ้นแล้ว!”

เจ้าบ้านตระกูลหั่วโบกมือให้ชายสองคนที่ยืนอยู่ด้านข้างเดินเข้ามา

ทั้งสองคนยกศพร่างหนึ่งมาตรงหน้าประมุขประเทศตันเซิ่ง

ประมุขประเทศตันเซิ่งเดินเข้าไปมองศพอย่างละเอียดในทันที ในดวงตาเกิดความขุ่นเคืองในทันที เขาชี้ศพแล้วพูดขึ้น “นี่มันผู้อาวุโสห้าของตระกูลหั่วของพวกนายไม่ใช่เหรอ? เขาตายได้อย่างไร? ตายในมือของใคร? ใช่ผู้ฝึกชั่วร้ายหรือไม่?”

เจ้าบ้านตระกูลหั่วเดินเข้ามาด้วยใบหน้าเศร้าโศกแล้วพูดขึ้น “ฝ่าบาท เขาไม่ได้ตายในมือของผู้ฝึกชั่วร้าย แต่ตายในมือของลู่ฝาน คืนนี้ฉันให้เขาไปจับตัวลู่ฝานมาหรือไม่ก็ฆ่ามันซะ ผลปรากฏว่าเขาถูกมันโยนศพกลับมา ขณะเดียวกัน ลู่ฝานได้สั่งคนให้นำคำพูดมาบอกกับฝ่าบาท”

ประมุขประเทศตันเซิ่งโกรธจนระงับอารมณ์ไม่อยู่ เขากัดฟันจนเสียงดังแล้วพูดขึ้น “คำพูดอะไร?”

เจ้าบ้านตระกูลหั่วพูดขึ้น “เงามืดเจ้าสำนักที่15ทักทายคุณ!”

“เลวทราม!”

ประมุขประเทศตันเซิ่งตะโกนอย่างโมโห เสียงดังสะเทือนจนกำแพงรอบด้านแตกเป็นรอยร้าว

เจ้าบ้านตระกูลหั่วเงยหน้าพูดเสียงดัง “ฝ่าบาท จะให้สั่งคนไปสับลู่ฝานเป็นชิ้นๆ ในตอนนี้หรือไม่ ฉันได้สั่งให้ทุกคนเตรียมพร้อมแล้ว”

เจ้าบ้านสี่ตระกูลคนอื่นๆ ก็พากันพูดขึ้น “ฝ่าบาท ฉันก็เตรียมพร้อมเสร็จสิ้น”

ประมุขประเทศตันเซิ่งพูดเสียงดุดัน “พวกแกโง่เหรอ? ถูกเปิดเผยแล้ว ยังอยากไปจับมันอีก ไม่เข้าใจความหมายประโยคนี้ของมันเหรอ? ตอนนี้เขาคือคนของผู้ฝึกชั่วร้ายแล้ว อีกทั้งยังนำศพมาโยนถึงที่ประตู ก็เพื่ออยากบอกพวกเราว่า พวกมันยังจะมาคิดบัญชีกับพวกเรา พวกแกลืมบาทแผลบนตัวแล้วเหรอว่ามันมาได้อย่างไร?”

เจ้าบ้านหลายคนพากันตกตะลึง จากนั้นใบหน้าแฝงไปด้วยความเคร่งขรึม

ประมุขประเทศตันเซิ่งโมโหจนตัวสั่นและกัดฟันพูดขึ้น “ไป ที่แห่งนี้อยู่ต่อไม่ได้แล้ว พวกนายก็ห้ามสั่งคนไปหาเรื่องลู่ฝานอีก ในเมื่อแม้แต่อริยปราญญ์ยังไม่สามารถจัดการเขาได้ แสดงว่าเขา...”

พูดถึงตรงนี้ ประมุขประเทศตันเซิ่งสูดหายใจเข้าลึกๆ จากนั้นก็พูดต่อ “แสดงว่าเขาตั้งตัวขึ้นมาจนประสบความสำเร็จระดับหนึ่งแล้ว!”

เจ้าบ้านห้าตระกูลมหาอำนาจพยักหน้ารับ

ในเมื่อประมุขประเทศตันเซิ่งพูดประโยคนี้ออกมา แสดงว่าจะแตะต้องลู่ฝานคนนั้นไม่ได้อีกแล้วจริงๆ

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เซียนบู๊ ทะลวงชั้นฟ้า