ตอน บทที่ 1926 ต้องแบบนี้สิ! จาก เซียนบู๊ ทะลวงชั้นฟ้า – ความลับ ความรัก และการเปลี่ยนแปลง
บทที่ 1926 ต้องแบบนี้สิ! คือตอนที่เปี่ยมด้วยอารมณ์และสาระในนิยายใช้ชีวิต เซียนบู๊ ทะลวงชั้นฟ้า ที่เขียนโดย โอหยางวิ่น เรื่องราวดำเนินสู่จุดสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยใจตัวละคร การตัดสินใจที่ส่งผลต่ออนาคต หรือความลับที่ซ่อนมานาน เรียกได้ว่าเป็นตอนที่นักอ่านรอคอย
หานเฟิงทรุดลงบนพื้น แสงสีเขียวกระจายไปทั่วเหมือนหมอกควัน
ภาวะบ้าคลั่งหายไปแล้ว หานเฟิงหน้าซีดเผือด ร่างกายอ่อนแรงเหมือนเพิ่งโดนดึงขึ้นมาจากน้ำ
หลิ่วจื่อมองหานเฟิงด้วยแววตาสับสน เขตวิถีของเธอค่อยๆ หุบลง ไม่ได้ฉวยโอกาสนี้กำจัดหานเฟิงทิ้ง
หานเฟิงยกมือขึ้นพูดว่า “ถ้าไม่ได้เห็นว่าเธอเป็นผู้หญิง วันนี้ฉันคงจัดการเธอไปแล้ว แม้ฉันไม่ได้มีหลักการเหมือนศิษย์พี่ฉู่สิง แต่ไม่ชอบทำร้ายผู้หญิงเหมือนกัน แผลบนคอเธอถือเป็นการแก้แค้นที่เมื่อกี้เธอตบหน้าฉันตั้งหลายครั้ง เธอชนะแล้ว ฉันยอมแพ้ ให้ตายเถอะ รอฉันได้เป็นอริยปราชญ์เมื่อไร ฉันจะมาประลองกับเธออีกครั้ง!”
หานเฟิงก่นด่า แต่คนด้านล่างไม่มีใครหัวเราะเยาะเขาเลย
อย่างน้อยผู้หญิงจำนวนไม่น้อยก็มองหานเฟิงด้วยสายตาอ่อนโยนขึ้น
หลิ่วจื่อเก็บแววตาสับสนของตัวเอง แล้วแทนที่ด้วยสายตาเย็นชาเหมือนเดิม
หลิ่วจื่อพูดกับหานเฟิงอย่างเย็นชาว่า “ยอมแพ้ก็ดีแล้ว ถ้าเมื่อกี้นายไม่ยอมปล่อยมือ นายจะตายอย่างน่าเวทนา!”
หานเฟิงฉีกยิ้มพูดว่า “เธอโม้ไปเถอะ แม้ฉันไม่แน่ใจว่าจะฆ่าเธอได้ แต่กัดเนื้อเธอมาสักชิ้น ไม่ใช่เรื่องยากนะ”
หลิ่วจื่อพูดว่า “ฉันไม่เคยล้อเล่น”
เมื่อพูดเช่นนี้ จู่ๆ อักษรยันต์เล็กๆ สว่างขึ้นบนตัวหลิ่วจื่อ
อักษรยันต์พวกนี้ออกมาจากในตัวเธอ พลังลึกลับแผ่ซ่านออกมา
“เผ่ายันต์เหรอ”
ลู่ฝานพูดด้วยความตกใจ
คนมีความสามารถที่อยู่ในกลุ่มคนก็อุทานออกมาด้วยความตกใจเช่นกัน
“เธอคือทายาทของเผ่ายันต์เหรอ”
“น่าจะใช่ แต่เผ่ายันต์ล่มสลายไปนานแล้วไม่ใช่เหรอ”
“ไม่รู้เหมือนกัน ตอนนั้นประเทศติ่งหยู่เป็นที่หลบภัยสุดท้ายของเผ่ายันต์ หลิ่วจื่อเป็นคนประเทศติงอวี้ ไม่แน่บนตัวอาจมีสายเลือดเผ่ายันต์ก็ได้”
“มีโอกาสเป็นไปได้ แต่เธอต้องไม่ใช่เลือดบริสุทธิ์แน่นอน ดูเหมือนอักษรยันต์บนตัวเธอไม่ได้แข็งแกร่งเหมือนเผ่ายันต์ในตำนาน!”
“คนเลือดผสมพอมีอยู่ในประเทศติงอวี้”
......
ทุกคนพูดคุยกัน
หลิ่วจื่อเก็บอักษรยันต์บนตัว
หานเฟิงเหม่อไปแล้ว ไม่ว่ายังไงพลังของอักษรยันต์เหล่านี้ก็น่าจะต้านทานการกัดกินของเขาได้
หานเฟิงอ้าปากหวอ พูดอะไรไม่ออก
หลิ่วจื่อเลิกคิ้วขึ้นมองเขา “นายช่วยชีวิตตัวเองแล้วล่ะ หานเฟิงแห่งประเทศอู่อาน!”
หานเฟิงกลืนน้ำลาย หานเฟิงยอมแล้วจริงๆ
ถ้าเขาชนะก็แปลกแล้ว ผู้แข็งแกร่งที่มาจากเก้าประเทศที่ทรงพลังไม่ธรรมดาจริงๆ
หลิ่วจื่อมองหานเฟิงทิ้งท้ายแล้วเหาะออกไป
หานเฟิงลอยลงมาบนพื้น มาข้างพวกศิษย์พี่ใหญ่
ศิษย์พี่ฉู่สิงส่ายหน้ามองหานเฟิง “โดนตบถึงอกถึงใจไหม”
หานเฟิงชูนิ้วกลางให้ศิษย์พี่ฉู่สิงสองนิ้ว
ศิษย์พี่ใหญ่ตบไหล่หานเฟิง “แพ้เป็นเรื่องปกติ พละกำลังของนายทำได้ถึงขั้นนี้ถือว่าดีมากแล้ว”
หานเฟิงพูดว่า “ศิษย์พี่ใหญ่พูดจาน่าเชื่อถือจริงๆ ขอบคุณศิษย์พี่ใหญ่ที่สนับสนุนมาตลอด”
ศิษย์พี่ใหญ่หัวเราะร่า ยื่นมือไปหาฉู่สิงกับฉู่เทียน “เอาเงินมาๆ ฉันบอกแล้วว่าศิษย์น้องหานเฟิงแพ้แน่นอน เอาเงินมาไวๆ เลย”
หานเฟิงอ้าปากหวอ มองศิษย์พี่ใหญ่หัวเราะคิกคัก เอาเงินมาจากมือศิษย์พี่ฉู่สิงกับศิษย์พี่ฉู่เทียน ตกใจจนเป็นใบ้พูดอะไรไม่ออก
ศิษย์พี่ฉู่เทียนพูดกับหานเฟิงว่า “ตอนนี้คงรู้แล้วสินะว่าทำไมศิษย์พี่ใหญ่ถึงเชียร์นาย!”
อีกด้านหนึ่ง ฉินซางต้าตี้ชี้เงาหานเฟิงแล้วพูดว่า “จำไว้ หลังจากกลับมาให้แต่งตั้งหานเฟิงเป็นขุนนางกระบี่หยก มอบพื้นที่ห้าเขตให้เป็นรางวัล”
องค์ชายรองฉินฝานคำนับแล้วขานรับ ไท่จื่อฉินอวิ่นขมวดคิ้วเบาๆ “เสด็จพ่อ แต่งตั้งให้เป็นขุนนางเลยเหรอ”
ฉิงซางต้าตี้พูดว่า “ใช่ แต่งตั้งเป็นขุนนางเลย แล้วก็แต่งตั้งหานหยวนหนิงเป็นขุนนางกระบี่โลหิตด้วย สองคนนี้อนาคตไกล อีกทั้งยังมีความสัมพันธ์อันดีกับคนนั้น......พวกนายก็รู้ว่าใคร”
ฉินซางต้าตี้พูดแล้วหันไปมองทางลู่ฝาน
หลินหย่า ฉินฝานและคนอื่นพยักหน้าเข้าใจ ขณะนั้นฉินฝานถามว่า “แล้วไม่แต่งตั้งหลิงเหยาเหรอ”
ฉินซางต้าตี้ส่ายหน้าหัวเราะเบาๆ “อยากแต่งตั้งอยู่นะ แต่แต่งตั้งไม่ได้ คนที่สามอริยบุคคลออกปากชวน ฉันต้องดีๆ ว่าจะดึงเธอมาเป็นพวกยังไง”
ทุกคนไม่เห็นด้วย การแสดงออกของหลิงเหยา ไม่ใช่แค่ทำให้คนอื่นตกตะลึง แม้แต่พวกเขายังตกตะลึงมาก
ใครจะรู้ว่าคนที่อ่อนโยนมาตลอดอย่างหลิงเหยา จะมีพรสวรรค์ไม่ธรรมดาแบบนี้
ซูตงไม่ได้ปล่อยพลังออกมาบนตัว แค่ใช้สายตาจ้องชวีซานเท่านั้น
เลือดค่อยๆ ไหลออกมาจากทวารทั้งเจ็ดของชวีซาน
ตัวเขาสั่นอย่างแรง
ซูตงเดินมาตรงหน้าเขาแล้วยื่นมือเข้าไปหาเขา
ซูตงพูดอย่างราบเรียบว่า “ดิ้นไปก็มีแต่ทรมาน ความตายคือสุขที่สุด ปล่อยวางทุกอย่าง นายจะหลุดพ้นแล้ว!”
ชวีซานกัดฟัน ร้องโหยหวนอย่างน่าเวทนา
“นังปีศาจ ฉันไม่มีทางยอมเธอแบบนี้หรอก!”
ชวีซานตวาดออกมาอย่างโมโห ตัวเขาเริ่มขยายใหญ่ขึ้น
แต่ขณะนั้นซูตงยื่นมือซ้ายออกมา
แสงหนึ่งปล่อยออกมาจากมือซูตง
ทุกคนแทบมองไม่เห็นว่าพลังนี้สีอะไร พริบตาเดียวแสงพุ่งเข้าไปในตัวชวีซานแล้ว
สีหน้าอริยบุคคลทั้งสามคนเปลี่ยนไปทันที แววตาที่มองซูตงเต็มไปด้วยความตะลึง
ผู้อาวุโสซู่มั่นที่นั่งข้างคุณชายเฟิงเทียนอุทานออกมาว่า “เป็นไปไม่ได้!”
คุณชายเฟิงเทียนยิ้มบางๆ “ไม่มีอะไรเป็นไปไม่ได้ ซู่มั่น เธอเวอร์อีกแล้ว”
ใบหน้าผู้อาวุโสซู่มั่นบิดเบี้ยว กำหมัดแน่น
ผู้อาวุโสซู่มั่นพูดช้าๆ ว่า “นายเอาพลังนี้ให้ซูตงเหรอ นายจะทำให้เธอตายนะ”
คุณชายเฟิงเทียนพูดอย่างเฉยเมยว่า “ฉันรู้ ฉันต้องการให้เธอตายไง ตายอย่างมีคุณค่าหน่อยไม่ดีเหรอ ทำไม เธอปวดใจเหรอ”
คุณชายเฟิงเทียนพูดพลางมองไปทางผู้อาวุโสซู่มั่น นัยน์ตาเต็มไปด้วยประกายล้ำลึก
ผู้อาวุโสซู่มั่นกัดฟันกรอด โมโหจนพูดอะไรไม่ออก
คุณชายเฟิงเทียนแทะเมล็ดแตงโมแล้วถามว่า “ฉันถามอีกรอบ เธอปวดใจใช่ไหม”
ประกายนัยน์ตาผู้อาวุโสซู่มั่นหายไป คลายมือที่กำออก พูดอย่างราบเรียบว่า “เปล่า”
คุณชายเฟิงเทียนพยักหน้าด้วยรอยยิ้ม “ต้องแบบนี้สิ”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เซียนบู๊ ทะลวงชั้นฟ้า
อ่านถึง 2276 แล้ว อยากอ่านต่อช่วยแนะนำหน่อยครับ ว่าอ่านต่อได้ทางช่องทางไหน...
รอนานมากครับเมื่อไรจะแปลต่อครับ...
มีใครรู้วิธีอ่านต่อมั้ยครับ ผมอ่านถึง2276เป็นรอบที่3แล้ว ก็ยังไม่มีต่อเลย จะหาอ่านต่อได้างช่องทางไหนบ้างครับ...
เจ้าของนิยายเนี่ยมันวิปริตหรือเปล่าวะเขียนๆอยู่แล้วก็จบแบบงงหลายเรื่องแล้ว...
ปู่เชี่ยไรเรียกหลานตัวเองว่านาย นิยายย้อนยุคมึงแปลซะ ทันสมัยเลย ไอ้เวร...
ช่องทางซื้ออ่านก็ไม่มี...
2276จบค้างเลยมาต่อเร็วๆนะ...
รออ่าน2277...
เสียดายมาก อ่านมาถึงหน้า 2276 มา2รอบแล้ว กำลังสนุกเลย ช่วยแปลตาอให้หน่อยนะครับ...
ถ้าไม่แปลต่อเรื่องต่อไปก็คงเหมือนเรื่องนี้หรือเปล่าครับไม่จบสักเรื่อง...