เซียนบู๊ ทะลวงชั้นฟ้า นิยาย บท 1930

สรุปบท บทที่ 1930 ปิดประตูฆ่า (1): เซียนบู๊ ทะลวงชั้นฟ้า

บทที่ 1930 ปิดประตูฆ่า (1) – ตอนที่ต้องอ่านของ เซียนบู๊ ทะลวงชั้นฟ้า

ตอนนี้ของ เซียนบู๊ ทะลวงชั้นฟ้า โดย โอหยางวิ่น ถือเป็นช่วงเวลาสำคัญของนิยายใช้ชีวิตทั้งเรื่อง ด้วยบทสนทนาทรงพลัง ความสัมพันธ์ของตัวละครที่พัฒนา และเหตุการณ์ที่เปลี่ยนโทนเรื่องอย่างสิ้นเชิง บทที่ 1930 ปิดประตูฆ่า (1) จะทำให้คุณอยากอ่านต่อทันที

ภายในวังเต็มไปด้วยประกายไฟ

ไม่ไกลจากตำหนักหมิงฉี่ เสียงระเบิดดังขึ้น

จากนั้นเงาคนพุ่งขึ้นฟ้า พลังปราณพลุ่งพล่าน

“ในเมื่อมาแล้ว อย่าหวังว่าจะหนีได้!”

เสียงเย็นชาของซูตงดังก้องท้องฟ้ายามค่ำคืน ทำให้คนจำนวนไม่น้อยตกใจทันที!

“หนี รีบหนี!”

เงาดำตะโกนเสียงดัง

แผนลอบฆ่าซูตงของพวกเขาในคืนนี้ล้มเหลวอย่างสมบูรณ์

พวกเขาคิดไม่ถึงว่าซูตงจัดฉากรอพวกเขาอยู่

กว่าพวกเขาจะหาที่อยู่ของซูตงเจอ พอกำลังจะลงมือ กลับมีผู้ฝึกชั่วร้ายพละกำลังแข็งแกร่งพุ่งมาจากทั่วทุกทิศ!

ใช่ ผู้ฝึกชั่วร้าย!

เซียนบู๊ประเทศเฟิงหยู่พวกนี้ ตกใจจนอกสั่นขวัญแขวน

ใครจะไปรู้ว่าในวังประเทศฉิงเทียนเป็นที่รวมตัวของผู้ฝึกชั่วร้าย

ตอนนี้พวกเขาใช้วิชากายออกมาเต็มกำลังเพื่อเตรียมหนี

ความเร็วของเซียนบู๊ เรียกว่าเร็วจนน่าทึ่ง ถ้าซูตงไม่ปรากฏตัวออกมาตอนนี้ และเปิดค่ายกลผูกมัดที่เตรียมไว้นานแล้ว ตอนนี้พวกเขาคงหนีออกจากวังแล้ว!

แต่ถึงเป็นเช่นนี้ เซียนบู๊พวกนี้ก็ยังกลายเป็นลำแสงหนีไปทั่ว

เมื่อเห็นว่ากำลังจะหนีได้แล้ว!

ธิดาเทพแห่งความมืดเห็นภาพนี้ แววตาเปลี่ยนไปเล็กน้อย แต่กลับเผยรอยยิ้มออกมา

“ไม่เบื่อแล้ว!”

ตัวของธิดาเทพแห่งความมืดหายไปจากที่เดิมทันที

ภายในตำหนักหมิงฉี่ พวกผู้ฝึกชั่วร้ายแยกตัวไปยืนทุกมุมในตำหนักหมิงฉี่

สภาพแบบนี้ แมลงวันแค่ตัวเดียวก็เข้ามาไม่ได้

แม้ธิดาเทพแห่งความมืดไปแล้ว แต่หนานกงสิงยังคงรู้สึกเจ็บปวดที่เขายังไม่กล้าทำอะไรเหมือนเดิม

ขณะนั้นหนานกงสิงรู้สึกว่าแสงค่ายกลที่คอยสนับสนุนเขาอยู่กะพริบหนึ่งครั้ง

เงาของหนานกงสิงหายไปจากในค่ายกลทันที

ตอนปรากฏตัวอีกครั้ง หนานกงสิงพบว่าค่ายกลนี้กลายเป็นสีแดงโลหิต

และตอนนี้เหลียงเกิ่งกำลังเล่นกระบี่ยาวในมือ ข้างๆ มีผู้ฝึกชั่วร้าย 10 กว่าคน มองหนานกงสิงด้วยรอยยิ้มชั่วร้ายบนใบหน้า

“นายเปลี่ยนแปลงค่ายกล!”

หนานกงสิงโมโหจนควบคุมอารมณ์ไม่อยู่ เขากัดฟันพูดออกมา

เหลียงเกิ่งหัวเราะ “ใช่แล้ว นายก็โง่เกิน ในเมื่อฉันดูแลควบคุมที่นี่มานาน ทำไมจะเปลี่ยนแปลงอะไรเลยไม่ได้ล่ะ นายคิดว่าฉันเป็นองครักษ์ประเทศฉิงเทียนจริงเหรอ เหอะๆ ฉันจะบอกให้นะว่าอุโมงค์และทางลับทั้งหมดในวัง ฉันทำการเปลี่ยนแปลงหมดแล้ว เพื่อป้องกันเศษเดนตระกูลหนานกงอย่างนายกลับมาสร้างปัญหา คิดไม่ถึงว่ารองหัวหน้าสำนักที่ 15 อย่างนายเป็นเศษเดนของตระกูลหนานกง ถ้าฉันรายงานเรื่องนี้ให้เบื้องบนรู้ สำนักที่ 15 ของพวกนายต้องพังพินาศ ดูเหมือนหัวหน้าสำนักพวกนายก็ผิดปกติเหมือนกันนิ หัวหน้าสำนักเงามืด หึ เขาเป็นใครมาจากไหนไม่ทราบ”

หนานกงสิงพยายามดิ้น แต่ค่ายกลสีแดงโลหิตเหมือนใยแมงมุมติดหนึบกับตัวเขา รัดเขาเอาไว้แน่น

ไม่ใช่แค่ใช้พลังปราณไม่ได้ แม้แต่ยืนหนานกงสิงยังทำไม่ได้เลย

หนานกงสิงพูดเสียงกังวานว่า “เหลียงเกิ่ง อย่าลืมสิ ชีวิตนายยังอยู่ในกำมือฉัน นายกินพิษรุนแรงเข้าไป!”

เหลียงเกิ่งหัวเราะ “ใช่ ฉันประมาทจนโดนนายจับ นายบังคับให้ฉันกินยาพิษ คิดจะควบคุมฉันด้วยวิธีนี้เหรอ วิธีแบบนี้ถือเป็นวิธีระดับต่ำมากในบรรดาผู้ฝึกชั่วร้าย ฉันรังเกียจสุดๆ ฉันไม่รู้ว่าพิษของนายคืออะไร แต่ฉันเชื่อว่านายหนีไม่พ้นเงื้อมมือฉัน พิษของฉันก็คงไม่กำเริบ รอฉันส่งตัวนายให้เบื้องบน จากความสามารถของพวกผู้อาวุโส ช่วยแก้พิษให้ฉันคงไม่ใช่เรื่องยาก นายตายแน่ กากเดนตระกูลหนานกง!”

เหลียงเกิ่งหัวเราะจนตัวโยน

เมื่อเห็นกระบี่นี้ เขาเดาได้แล้วว่าเป็นใคร

เป็นไปตามคาด เงาของลู่ฝานปรากฏในสายตา หนานกงสิงส่ายหน้ายิ้มแหย “นายตามด้วยสินะ!”

ลู่ฝานพูดว่า “จะปล่อยให้นายเสี่ยงอันตรายคนเดียวได้ยังไงล่ะ ดูเหมือนตอนนี้ถูกแล้วที่ฉันตามมา นายรู้ไหมว่ามีคนซ่อนอยู่ในอุโมงค์นี้เยอะแค่ไหน ฉันฆ่าไปเป็นกลุ่มแล้วเนี่ย!”

ลู่ฝานพูดแบบสบายๆ ทว่าหนานกงสิงกลับยิ้มแหย

เหลียงเกิ่งจำลู่ฝานได้ กระอักเลือดจากปากไม่หยุด พูดอ้อนวอนว่า “หัวหน้าสำนักเงามืด นายปล่อยฉันเถอะ ฉันยอมมอบทุกอย่างให้นาย รวมถึงชีวิตและความจงรักภักดี!”

ลู่ฝานสะบัดมือใส่เหลียงเกิ่งแล้วพูดอย่างเฉยเมยว่า “แค่ชีวิตก็พอแล้ว!”

สีหน้าของเหลียงเกิ่งชะงักไปทันที ออร่าปีศาจบนตัวเขาเพิ่งสว่างขึ้นมาก็นิ่งไปทันที บนคอมีรอยเล็กๆ จากนั้นหัวกระเด็นลงมาบนพื้น

เมื่อสะบัดมือ กระบี่หนักไร้คมกลับมาอยู่ในมืออีกครั้ง

ลู่ฝานมองหนานกงสิงที่โดนค่ายกลมัดจนแน่น “ต้องช่วยไหม นายสืบอะไรเจอหรือยัง”

หนานกงสิงพูดว่า “ยังไม่ได้เห็นอะไรเลย ให้ตายเถอะ ในตำหนักหมิงฉี่มีผู้ฝึกชั่วร้ายเยอะมาก แต่ละคนพละกำลังแดนปราณฟ้าชั้นสุดยอดทั้งนั้น แต่พวกเราเข้าไปไม่ได้แล้ว ค่ายกลนี้โดนเปลี่ยนแปลงแล้ว กลัวว่าจะใช้การไม่ได้แล้วล่ะ นายดึงฉันออกไปสิ!”

ลู่ฝานเลิกคิ้วขึ้นพูดว่า “แค่แดนปราณฟ้าชั้นสุดยอดเองเหรอ”

หนานกงสิงพูดว่า “ใช่ แต่มีประมาณ 10-20 คน เดิมทีมีธิดาเทพแห่งความมืดเฝ้าอยู่ที่นั่นด้วย แต่เหมือนเธอโดนใครบางคนล่อออกไปแล้ว”

ลู่ฝานพยักหน้าพูดว่า “เข้าใจแล้ว นายอย่าขยับ ฉันจะซ่อมค่ายกลแป๊บนึง!”

เมื่อหนานกงสิงได้ยิน เขาพูดอย่างอึ้งๆ ว่า “นายซ่อมค่ายกลเป็นด้วยเหรอ”

ลู่ฝานหัวเราะ “ฉันฝีมืองั้นๆ แต่มันทำเป็น!”

เมื่อลู่ฝานพูด เงาเจดีย์เสวียนเก้ามังกรปรากฏบนมือซ้ายลู่ฝาน

เสียงหัวเราะดังเป็นระยะ เจดีย์เสวียนเก้ามังกรพูดว่า “เจ้านายผู้ยิ่งใหญ่ เรื่องนี้ให้เป็นหน้าที่ฉันเอง!”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เซียนบู๊ ทะลวงชั้นฟ้า