เซียนบู๊ ทะลวงชั้นฟ้า นิยาย บท 1933

สรุปบท บทที่ 1933 แผนการอันบ้าคลั่ง (2): เซียนบู๊ ทะลวงชั้นฟ้า

สรุปตอน บทที่ 1933 แผนการอันบ้าคลั่ง (2) – จากเรื่อง เซียนบู๊ ทะลวงชั้นฟ้า โดย โอหยางวิ่น

ตอน บทที่ 1933 แผนการอันบ้าคลั่ง (2) ของนิยายใช้ชีวิตเรื่องดัง เซียนบู๊ ทะลวงชั้นฟ้า โดยนักเขียน โอหยางวิ่น เต็มไปด้วยจุดเปลี่ยนสำคัญในเรื่องราว ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยปม ตัวละครตัดสินใจครั้งสำคัญ หรือฉากที่ชวนให้ลุ้นระทึก เหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้อ่านที่ติดตามเนื้อหาอย่างต่อเนื่อง

เห็นหนวดปลาหมึกสีดำขนาดใหญ่ในม่านแสงอย่างชัดเจน ฝังอยู่ใต้ดินเมืองฉิงเทียน มีแสงสีดำเคลื่อนไหวอยู่

ดินรอบๆ กำลังโดนหนวดหมึกพวกนี้กลืนกินช้าๆ ไม่ว่าจะเป็นหินเหล็กหรือสายน้ำ

ล้วนเป็นอาหารของสัตว์อสูรอากาศธาตุ แต่ดูเหมือนหนวดพวกนี้ยังไม่ตื่น เหมือนกำลังหลับสนิท

ลู่ฝานเคยเห็นสัตว์อสูรอากาศธาตุหนึ่งครั้ง จำได้ว่าตอนผู้อาวุโสซู่มั่นพาเขาไปทดสอบชิงกระบี่รอบแรก เขาเจอกับหนวดสัตว์อสูรอากาศธาตุพวกนี้

แต่หนวดสัตว์อสูรอากาศธาตุที่เจอครั้งนั้นไม่ได้ใหญ่เหมือนตอนนี้

หรือจะบอกว่าสิ่งที่เขาเห็นตอนนั้นเป็นแค่ส่วนหนึ่งของสัตว์อสูรอากาศธาตุก็ได้

หรืออาจจะไม่ถึงส่วนหนึ่งก็ได้ อาจเป็นแค่ขนที่สัตว์อสูรอากาศธาตุยื่นออกมาเล็กน้อย

หนวดของสัตว์อสูรอากาศธาตุกระจายทั่วเมืองฉิงเทียน

ไม่สิ ต้องไม่ใช่แค่เมืองฉิงเทียนแน่ๆ เพราะตอนนี้ลู่ฝานเห็นแค่หนวดสีดำ ไม่เห็นของอย่างอื่นเลย

ลู่ฝานดูม่านแสงที่เกี่ยวกับใต้ดินเมืองฉิงเทียนหลายร้อยอัน ไม่เห็นเลยว่าตัวของสัตว์อสูรอากาศธาตุอยู่ตรงไหน

ลู่ฝานไม่เชื่อหรอกว่าสัตว์อสูรอากาศธาตุมีแค่หนวดยื่นยาวออกมา

ในเมื่อถูกเรียกว่าสัตว์อสูร ยังไงก็ต้องมีตัวแน่นอน

อาจมีรูปร่างเหมือนหมึก หรืออาจมีรูปร่างเหมือนงูยักษ์แปดหัวก็ได้

แต่ไม่ว่ายังไงต้องมีตัวแน่นอน

ลู่ฝานหันมาถามหนานกงสิงว่า “นายเห็นตัวของสัตว์อสูรอากาศธาตุหรือยัง”

ตอนนี้หนานกงสิงอึ้งไปแล้ว ตอนเขาเห็นสัตว์อสูรอากาศธาตุกระจายเข้ามาในประเทศฉิงเทียน เขารู้สึกช็อกไปทั้งตัว

เมื่อได้ยินเสียงตะโกนของลู่ฝาน หนานกงสิงตั้งสติได้ “ไม่เห็น ฉันไม่เห็นตัวของสัตว์อสูรอากาศธาตุ ฉันเห็นแค่หนวดขนาดใหญ่ทะลุผ่านคูเมืองต่างๆ”

หนานกงสิงพูดพลางเหาะไปทั่ว ชี้ม่านแสงคูเมืองอื่นๆ ในประเทศฉิงเทียน “ดูสิ เขาสี่โลกก็มี เมืองเหยียนหรงก็มี เมืองเฮยเถี่ยก็มี ใต้ทะเลว่านหลิงทางตะวันออกของประเทศฉิงเทียนก็มี เขาเจวี๋ยเทียนทางตะวันตกก็มีเหมือนกัน ทั้งประเทศฉิงเทียนโดนสัตว์อสูรอากาศธาตุทะลุผ่านหมดแล้ว!”

หนานกงสิงยิ่งพูดยิ่งสะเทือนใจ ใบหน้าซีดเผือด ฝ่ามือเริ่มสั่นเทา

หนวดสีดำขนาดใหญ่เหมือนโซ่ขนาดใหญ่ทะลุผ่านทั้งประเทศฉิงเทียน

ลู่ฝานค่อยๆ ขมวดคิ้ว สุดท้ายเขาพูดอะไรไม่ออกสักคำ

คูเมืองและม่านแสงเยอะขนาดนี้ คิดไม่ถึงว่าจะไม่เห็นตัวของสัตว์อสูรอากาศธาตุ

นี่แสดงว่าถ้าสัตว์อสูรอากาศธาตุไม่มีตัว ก็อาจจะตัวใหญ่เกินจนม่านแสงเหล่านี้ไม่สามารถสะท้อนภาพมันออกมาได้อย่างชัดเจน

ตอนนี้ลู่ฝานเชื่อว่าเป็นอย่างหลัง

“สัตว์อสูรอากาศธาตุกลืนกินสรรพสิ่ง ทำลายทุกอย่าง ไม่มีใครหลบได้ ไม่มีใครต้านทานได้!”

ลู่ฝานพึมพำออกมา

ตอนนี้เขาเข้าใจความหมายที่หลีซี เจ้าสำนักหอฝึกสัตว์พูดว่า จบสิ้นแล้ว หมายถึงอะไร

สัตว์อสูรอากาศธาตุมหึมาขนาดนี้ ถ้ามันตื่นขึ้นมา ถึงเป็นสามอริยบุคคลก็ทำได้แค่หนีเอาตัวรอด!

ลู่ฝานคิดถึงความเป็นไปได้อันน่ากลัวได้อย่างหนึ่ง เขาพูดเสียงเบาว่า “ใช้การแข่งนานาประเทศเป็นเหยื่อล่อ ให้ผู้แข็งแกร่งทั้งใต้หล้ามารวมกันที่ประเทศฉิงเทียน จากนั้นปิดตายทางออก ทำเป็นทางตัน แล้วค่อยให้สัตว์อสูรอากาศธาตุกลืนกินทุกอย่าง ผู้แข็งแกร่งทั้งใต้หล้าตายหมดเพราะเหตุการณ์นี้ ผู้ฝึกชั่วร้ายไม่ต้องลงแรงเยอะ ชิงทั้งใต้หล้ามา! แผนดีมาก! กลยุทธ์ดีมาก! โหดเหี้ยมมาก!”

ลู่ฝานกำหมัดแน่น

ตอนนี้เขารู้แล้วว่าพวกผู้ฝึกชั่วร้ายทำอะไรกันแน่

ทำไมถึงส่งคนมาในประเทศฉิงเทียนอย่างบ้าคลั่ง เพราะพวกเขากำลังให้อาหารสัตว์อสูรอากาศธาตุ คนที่ส่งมาจากเขตปีศาจ กลายเป็นอาหารเลี้ยงดูสัตว์อสูรอากาศธาตุจนหมด

ทำไมพวกผู้ฝึกชั่วร้ายต้องยึดวังประเทศฉิงเทียน เหตุผลคงเป็นเพราะตำหนักหมิงฉี่

แม้ตอนนี้เขาออกไปบอกทุกคน เผยแผนการทั้งหมดของผู้ฝึกชั่วร้าย ก็คงไม่ได้ช่วยอะไรเลย ผู้ฝึกชั่วร้ายก็แค่ปลุกสัตว์อสูรอากาศธาตุขึ้นมาก่อน การเข่นฆ่าบังเกิดขึ้น

พวกเขาเจอช้าเกินไป ตอนนี้ใครจะต้านทานสัตว์อสูรอากาศธาตุได้!

หนานกงสิงพูดด้วยเสียงสั่นเครือ “สหายลู่ฝาน เราต้องบอกเรื่องนี้กับหอฝึกสัตว์ บอกสามอริยบุคคล บอกผู้แข็งแกร่งทั้งใต้หล้า มีแค่พวกเขาที่มีวิธีหยุดสัตว์อสูรอากาศธาตุตัวนี้ หอฝึกสัตว์ก่อตั้งขึ้นมาเพราะสัตว์อสูร ต้องมีวิธียับยั้งสัตว์อสูรอากาศธาตุตัวนี้แน่ๆ สามอริยบุคคลก็ต้องมีวิธีเอาชนะสัตว์อสูรตัวนี้ เราต้องบอกพวกเขา ฉันทนดูประเทศฉิงเทียนโดนสัตว์อสูรอากาศธาตุทำลายไม่ได้ ฉันไม่อยากเห็นประเทศตัวเองกลายเป็นหลุมดำ!”

ลู่ฝานลืมตาขึ้น ไม่รู้จะพูดยังไงดี

เขาอยากบอกความจริงหนานกงสิงมาก ถ้าผู้ฝึกชั่วร้ายไม่มั่นใจว่าสามอริยบุคคลไม่สามารถต้านทานความแข็งแกร่งของสัตว์อสูรอากาศธาตุได้ พวกเขาไม่มีทางคิดแผนนี้ออกมา

ส่วนหอฝึกสัตว์ ลู่ฝานไม่ได้คาดหวังอะไรอยู่แล้ว

คนฉลาดอย่างหลีซียังพูดว่าจบสิ้นแล้ว ลู่ฝานแน่ใจว่าถึงพวกเขารู้ว่ามีสัตว์อสูรอากาศธาตุ ก็ไม่สามารถทำอะไรได้อยู่ดี

พละกำลังแข็งแกร่งในระดับหนึ่ง ทักษะไหนก็ไม่สามารถเอามาชดเชยได้

สิ่งเดียวที่สามอริยบุคคลทำได้ นั่นก็คือหนี!

เมื่อคิดถึงตรงนี้ จู่ๆ ลู่ฝานหัวเราะออกมาอีกแล้ว

ในที่สุดแล้วเขาก็เข้าใจแล้วว่าภารกิจของตัวเองหมายถึงอะไร

เป็นสายลับอยู่ข้างกายสามอริยบุคคล โจมตีครั้งสุดท้ายในช่วงสำคัญ

พวกผู้ฝึกชั่วร้ายก็ไม่ค่อยมั่นใจว่าสัตว์อสูรอากาศธาตุจะฆ่าสามอริยบุคคลตาย ดังนั้นพวกเขาจึงต้องการสายลับ รอให้สัตว์อสูรอากาศธาตุทำให้สามอริยบุคคลบาดเจ็บสาหัส สายลับอย่างเขาจะได้ตัดสินทุกอย่างทันที

ฆ่าได้แค่คนเดียวก็ถือว่าเป็นชัยชนะอันยิ่งใหญ่แล้ว!

ดังนั้นพวกเขาจึงให้การแข่งนานาประเทศดำเนินต่อไป ดังนั้นพวกเขาจึงมอบภารกิจแบบนี้

ลู่ฝานพูดช้าๆ ว่า “สหายหนานกง ความได้เปรียบหายไปแล้วล่ะ!”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เซียนบู๊ ทะลวงชั้นฟ้า