เซียนบู๊ ทะลวงชั้นฟ้า นิยาย บท 1938

โทนเสียงและน้ำเสียงนี้ รวมถึงเสียงแหบพร่าแบบนี้ ทำให้คนนึกถึงหุ่นเชิด

ลู่ฝานเคยเจอหุ่นเชิดมาเยอะ โดยส่วนใหญ่หน้าตาเป็นแบบนี้ทั้งนั้น

อีกทั้งคำว่า สู้ ฆ่า ตาย ที่ซิงกุยพูด

เป็นมนตร์สามคำของหุ่นเชิดผู้ฝึกชั่วร้าย เป็นคำสั่งสามอย่างที่ใช้ควบคุมหุ่นเชิด

สีหน้าลู่ฝานเปลี่ยนไปเล็กน้อย อย่าบอกนะว่าคนที่ยืนอยู่หน้าเขาคือหุ่นเชิด

ทำไมหุ่นเชิดถึงเข้าร่วมการแข่งนานาประเทศได้ล่ะ

อย่าบอกนะว่าพวกคนที่ตรวจเช็ค เป็นคนโง่ทั้งนั้น

ลู่ฝานไม่เข้าใจจริงๆ ตอนนี้ประมุขประเทศฉิงเทียนประกาศเริ่มการประลองแล้ว

เสาแสง 12 อัน รวมตัวเป็นตำหนักแสง 12 แห่งบนเกาะลอยฟ้า เงาสว่างไสวสะท้อนอยู่บนท้องฟ้า

ท้องฟ้าสีครามสดใสมีแสงดาวปรากฏออกมาทันที

ตำหนัก 12 แห่ง ตรงกับดาวฤกษ์ 12 ดวงบนท้องฟ้า

พลังรอบตัวเริ่มพลุ่งพล่าน เงาของลู่ฝานและคนอื่นปรากฏบนม่านแสงในประเทศฉิงเทียน

คนที่ตะโกนชื่อเงามืด เรียกได้ว่าเป็นหลักหมื่น

ลู่ฝานดึงกระบี่หนักไร้คมออกมา เอากระบี่ขวางไว้ข้างหน้าซิงกุย

ซิงกุยค่อยๆ เอาอาวุธตัวเองออกมาเช่นกัน

มันเป็นกระบี่หิน ด้านบนเต็มไปด้วยรอยร้าวเล็กๆ กับตะไคร่

แสดงว่ากระบี่เล่มนี้ผ่านกาลเวลามาอย่างยาวนานแล้ว ปล่อยแสงออกมาเบาๆ ความรู้สึกเก่าแก่โถมเข้ามาใส่หน้า

ซิงกุยไม่ได้ปล่อยพลังปราณออกมา ยืนนิ่งอยู่ที่เดิมแบบนั้น เหมือนรอการโจมตีของลู่ฝาน

ลู่ฝานขมวดคิ้วมองซิงกุย มีประกายแวบขึ้นนัยน์ตา

ปล่อยพลังวิญญาณออกมา ลู่ฝานขี้เกียจซ่อนไว้แล้วเหมือนกัน

ถ้าเป็นหุ่นเชิดจริง กระบวนท่านี้น่าจะทำให้อีกฝ่ายสูญเสียความสามารถในการต่อสู้ทันที

เพราะวิญญาณของหุ่นเชิดอ่อนแอมาก

แต่เมื่อพลังวิญญาณของลู่ฝานโจมตีโดนอีกฝ่าย

ลู่ฝานรู้สึกทันทีว่าพลังวิญญาณของตัวเองถูกพลังพิเศษต้านทานไว้หนึ่งชั้น

เหมือนพลังออกมาจากชุดคลุมของอีกฝ่าย ต้านทานการโจมตีวิญญาณของเขาได้อยู่หมัด

ตั้งแต่ลู่ฝานเรียนวิชาชิงวิญญาณมา นี่เป็นครั้งแรกที่เขาใช้พลังวิญญาณแล้วโดนคนอื่นต้านทานได้อย่างสบายๆ

ความเย็นชานัยน์ตาซิงกุยเพิ่มขึ้น การโจมตีวิญญาณที่ล้มเหลวของลู่ฝาน เหมือนจะทำให้เขาโกรธแล้ว!

ก้าวเท้าไปด้านหน้าอย่างแรง ซิงกุยมาถึงด้านหน้าลู่ฝานเร็วเหมือนสายฟ้าแลบ

ด้านหลังเขายังมีรอยอากาศเวิ้งว้างฉีกขาดเป็นสีดำ

กระบี่หินพุ่งไปที่หัวลู่ฝาน ลู่ฝานรีบยกแขนขึ้นทันที

กระบี่หนักไร้คมพุ่งเข้าไปหา

เคร้ง!

เสียงดังชัดเจน ลู่ฝานรู้สึกว่าพลังแข็งแกร่งกดตัวซีกหนึ่งของเขาลงไปบนพื้นดิน

กระบี่หนักไร้คมเริ่มสั่นอย่างแรง

แรงสั่นสะเทือนกระเพื่อมออกไป ทั้งเกาะลอยฟ้าเริ่มร้าว ส่งเสียงดังกรอบแกรบออกมา

ลู่ฝานกัดฟันกรอด แค่กระบี่เดียว เขารู้สึกว่าง่ามมือระหว่างนิ้วโป้งกับนิ้วชี้ฉีกออก

กระบี่ของซิงกุยไม่มีพลังปราณเลยสักนิด มันคือพลังร่างกายล้วนๆ!

ลู่ฝานได้เห็นเป็นครั้งแรกว่าพลังของร่างกายมนุษย์ทำได้ถึงขั้นนี้

เหมือนมีพลังพลุ่งพล่านของสรรพสัตว์ซ่อนอยู่ในตัวซิงกุย

กระบวนท่าแบบนี้ ถ้าโจมตีใส่นักบู๊แดนปราณฟ้าทั่วไป การโจมตีนี้สามารถตัดสินแพ้ชนะได้เลย!

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เซียนบู๊ ทะลวงชั้นฟ้า