เซียนบู๊ ทะลวงชั้นฟ้า นิยาย บท 1937

ประมุขประเทศฉิงเทียนเหวี่ยงมือ เสียงกลองดังขึ้นพร้อมกัน

เหมือนเสียงมาจากขอบฟ้า ทรงพลังยิ่งใหญ่ ทำให้คนฮึกเหิม

“ผู้แข็งแกร่งขึ้นมา!”

เมื่อเสียงตะโกนดังขึ้น ผู้แข็งแกร่งทั้ง 24 คน เหาะขึ้นไปบนเกาะลอยฟ้า

ลู่ฝานพูดกับสิบสามที่ขับรถม้าว่า “คุ้มครองพวกเขาให้ดี!”

สิบสามพยักหน้าจริงจัง ลู่ฝานเหาะขึ้นไปด้านบน

ทั้ง 24 คนยืนอยู่บนเกาะลอยฟ้า มองไปรอบๆ รับเสียงเชียร์จากคนด้านล่าง

คนที่มาถึงขั้นนี้ได้ ต่างผ่านศึกมานักต่อนัก เป็นผู้แข็งแกร่งในบรรดาผู้แข็งแกร่ง

เครียด ว้าวุ่น ร้อนใจ อารมณ์เหล่านี้ไม่มีทางเกิดขึ้นกับพวกเขา

ผู้แข็งแกร่งทุกคนมีวิธีปรับสภาพจิตใจและร่างกายของตัวเอง เมื่อมองดูมีแต่คนที่มีความมั่นใจเต็มเปี่ยมและทรงพลัง

สุดท้ายทุกคนหยุดสายตาลงที่ประมุขประเทศฉิงเทียน นัยน์ตาดูเฝ้ารอคอย

ประมุขประเทศฉิงเทียนลุกขึ้นยืน อ้าแขนสองข้างแล้วพูดว่า “ผู้แข็งแกร่งอายุน้อยทั้งหลาย อันดับแรกขอแสดงความยินดีที่พวกนายมาถึงจุดนี้ได้ ตั้งแต่นี้ไป พวกนายต้องลุยเป็นครั้งสุดท้าย เพื่อเกียรติสูงสุดของใต้หล้า คู่ต่อสู้ที่ยืนอยู่ตรงหน้าพวกนาย อาจเป็นศัตรูตัวฉกาจของพวกนายไปตลอดชีวิต ดังนั้นแสดงความสามารถของพวกนายออกมาให้ดีที่สุด ก้าวไปสู่ชัยชนะ เริ่มการจับฉลาก!”

สิ้นเสียงประมุขประเทศฉิงเทียน เมฆดำปรากฏบนท้องฟ้าอย่างรวดเร็ว ทั้งโลกมืดลงทันที

จากนั้นเกาะลอยฟ้าทั้ง 13 ชิ้นเริ่มส่องแสงสว่างสะดุดตา

ลำแสงเล็กๆ นับไม่ถ้วนเริ่มส่องออกมาจากเกาะลอยฟ้าที่พวกประมุขประเทศฉิงเทียนยืนอยู่

ลำแสงเหล่านี้ส่องเกาะลอยฟ้าที่เหลือจนสว่างจ้า

หลังจากนั้นบนเกาะลอยฟ้ามีชื่อผู้แข็งแกร่งทั้ง 24 คนปรากฏออกมา

ลู่ฝานเห็นด้านล่างเท้าตัวเองมีคำว่า เงามืด ปรากฏออกมา

ใบหน้ามีรอยยิ้ม การจับฉลากน่าสนใจขึ้นเรื่อยๆ จริงๆ

ชื่อมีแสงสว่างจ้า รวมตัวเป็นวงกลมขนาดใหญ่กลางอากาศ

ประมุขประเทศฉิงเทียนพูดเสียงกังวาน “ผู้แข็งแกร่งทุกท่าน โยนชื่อพวกนายเข้าไปสิ พลังของนายจะทำให้วงกลมเคลื่อนไหว จากนั้นเลือกคู่ต่อสู้ของตัวเองออกมา!”

ลู่ฝานพยักหน้าเข้าใจ จากความสามารถผู้ฝึกชี่ของเขา พอเข้าใจหลักการของค่ายกลนี้

ค่ายกลนี้คล้ายกับค่ายกลผสานพลัง

เอาพลังของทุกคนมารวมกันก่อน จากนั้นทำเรื่องน่าอัศจรรย์จากระดับความแข็งแกร่งของพลังเหล่านี้

สิ่งสำคัญที่สุดภายในนี้คือรวมพลังของทุกคนเข้าด้วยกัน

เพราะพลังของทุกคนไม่เหมือนกัน ดังนั้นหลังจากใส่พลังเข้าไป ไม่มีใครรู้ว่าหลังจากพลังรวมกันแล้ว พลานุภาพของค่ายกลผสานพลังจะเป็นยังไง

อย่าว่าแต่เปลี่ยนคนแล้วประสิทธิภาพจะไม่เหมือนกัน แม้แต่คนคนเดียวกัน ถ้าวันนี้ใส่พลังเข้าไปในค่ายกลผสานพลังน้อยไปเพียงนิดเดียว ก็ทำให้พลานุภาพของค่ายกลผสานพลังเปลี่ยนไปแล้ว

ถ้าเปลี่ยนเป็นจับฉลาก หมายความว่าพลังที่ปล่อยออกมาทุกส่วน สามารถเปลี่ยนแปลงคู่ต่อสู้ของตัวเองได้

แต่ตัวเองก็ไม่รู้ว่าคนอื่นจะปล่อยพลังออกมายังไงเหมือนกัน สรุปว่าการจับฉลากนี้ยุติธรรม

ลู่ฝานปล่อยปราณชี่ออกมาบนตัว ชื่อด้านล่างเท้ากลายเป็นแสงสว่างไสว พุ่งเข้าไปในวงกลม

เหมือนแสง 24 แสงพุ่งเข้าไปพร้อมกัน จากนั้นวงกลมเริ่มหมุน เห็นด้วยตาเปล่าว่าชื่อทุกคนเริ่มรวมกัน

ประมุขทุกคน รวมถึงสามอริยบุคคล พากันจ้องวงกลม

คนในใต้หล้าจับจ้องวงกลมอันนี้ ไม่มีทางเล่นตุกติกได้แน่นอน

วงกลมหยุดหมุนทันที

ชุดคลุมสีดำมอมแมมปกคลุมตัว ตัวไม่ได้สูงใหญ่เท่าไรนัก ซ่อนพลานุภาพบนตัว จะดูอะไรออกล่ะ

หานเฟิงพูดว่า “ศิษย์พี่ใหญ่แน่ใจเหรอว่าคุ้นตา พี่รู้จักเขาเหรอ”

ศิษย์พี่ใหญ่พยักหน้าพูดว่า “ฉันรู้จัก เซนส์บางอย่างบอกว่าฉันรู้จักคนนี้แน่ๆ”

ศิษย์พี่หานเฟิงและคนอื่นมองศิษย์พี่ใหญ่ด้วยใบหน้าสงสัย ศิษย์พี่ฉู่สิงพูดว่า “ศิษย์พี่ใหญ่ เซนส์เหรอ พี่แน่ใจเหรอ”

ศิษย์พี่ใหญ่ตบพุงแล้วพูดว่า “ทำไม ผู้ชายมีเซนส์ไม่ได้เหรอ”

อันที่จริงตอนนี้ลู่ฝานที่อยู่บนเกาะลอยฟ้าก็รู้สึกเหมือนศิษย์พี่ใหญ่

เขาก็รู้สึกว่าน่าจะรู้จักซิงกุย เซนส์นี้ชัดเจนมากเหมือนสัญชาตญาณเลย

“ซิงกุย......”

ลู่ฝานพึมพำชื่อนี้ออกมาเบาๆ เหมือนชื่อนี้ดึงความทรงจำเดิมของเขากลับมาได้

เหาะออกไป ยอดฝีมือทั้ง 24 คน เหาะไปทางเกาะลอยฟ้าที่มีชื่อตัวเองสลักอยู่

ซิงกุยลอยลงมาข้างหน้าลู่ฝานช้าๆ ลู่ฝานเพ่งมอง ภายใต้ชุดคลุมยาวสีดำขลับ เขาเห็นแค่ดวงตาเย็นชาของซิงกุย

ต้องมีค่ายกลป้องกันการตรวจสอบบนชุดของคนคนนี้แน่นอน ลู่ฝานหัวเราะเบาๆ แล้วพูดว่า “ฉันรู้จักนายหรือเปล่า”

ซิงกุยเงยหน้ามองลู่ฝาน

นัยน์ตาฉายประกายที่ลู่ฝานดูไม่ออก มันสับสนและซับซ้อนมาก

ซิงกุยค่อยๆ พูดด้วยเสียงที่แหบพร่ามาก “สู้ ฆ่า ตาย!”

แววตาลู่ฝานมีความประหลาดใจทันที