“วิถีลิขิตฟ้า!”
ลู่ฝานพึมพำออกมา
ก่อนหน้านี้เขายังไม่แน่ใจ แต่ตอนนี้เห็นการแสดงออกอันน่าอัศจรรย์ของซูตง รวมถึงแหวนจิ่วเซียวที่จะปลิวออกจากนิ้วเขาแล้ว รวมถึงพลังในตัวที่แอบโดนกระตุ้นเล็กน้อย
สิ่งแรกที่ลู่ฝานคิดได้คือ วิถีลิขิตฟ้าของเทพบู๊เสินเซียว
ในตำนานบอกว่าเทพบู๊เสินเซียวครอบครองเต๋าอันยิ่งใหญ่ลิขิตฟ้าในมือ
หมัดเดียวสามารถตัดสินเป็นตายได้
พลังเต๋าอันยิ่งใหญ่แบบนี้ ไม่สามารถบรรยายด้วยหลักการทั่วไป
จึงดูล่องหน ไม่เห็นร่องรอยอะไรแบบนี้ อีกทั้งยังแข็งแกร่งมาก ไม่รู้ซูตงจะใช้พลานุภาพออกมาได้แค่ไหน
เห็นได้ชัดว่าโฉวล่วนไม่รู้ว่าซูตงมีพลังแบบนี้ เขาโดนซัดจนเสื้อผ้าเละเทะไปหมด
ใบหน้าหล่อเปื้อนเลือดเต็มไปหมด จ้องเขม็งมาที่ซูตง
เทียบกับคนทั่วไป ร่างกายของมนุษย์เผ่ามังกรแข็งแกร่งพอสมควร
พวกเขาร่างกายแข็งแกร่งตั้งแต่เกิด แม้โดนซูตงใช้วิถีลิขิตฟ้าโจมตีขนาดนี้ คิดไม่ถึงเลยว่าแค่บาดเจ็บเล็กน้อยเท่านั้น
ทั้งสองหยุดลงแล้ว มองหน้าอีกฝ่าย ความอาฆาตพลุ่งพล่าน
ตอนนี้ซูตงเหมือนเปลี่ยนไปเป็นคนละคน
ผมสะบัดปลิวตามลม ใบหน้าเย็นชา นัยน์ตาไม่มีชีวิตชีวาเลยสักนิด
ตาขาวที่เดิมทีเหลืออยู่นิดหน่อย ตอนนี้กลายเป็นสีดำหมดแล้ว
สภาพแบบนี้ทำให้ลู่ฝานนึกถึงธิดาเทพแห่งความมืด
เหมือนออร่าของทั้งสองคนเหมือนกันเล็กน้อย
แต่ออร่าความมืดมิดบนตัวธิดาเทพแห่งความมืดรุนแรงกว่า ส่วนซูตงเต็มไปด้วยความอาฆาต
โฉวล่วนถือกระบี่ไว้ด้านหน้าแล้วพูดเสียงกังวานว่า “ถ้าฉันเดาไม่ผิด นี่คงเป็นพลังของเต๋าอันยิ่งใหญ่สินะ คิดไม่ถึงเลยว่าจะมีคนที่ยังไม่ได้เข้าสู่ระดับสูงสุด สามารถครอบครองเต๋าอันยิ่งใหญ่ได้ ช่างน่าอิจฉาจริงๆ!”
ซูตงตอบกลับด้วยเสียงเย็นชา “นายไม่มีวันรู้หรอกว่าเพื่อพลังนี้ ฉันต้องยอมทุ่มขนาดไหน!”
โฉวล่วนได้ยินคำพูดของซูตง เขากลับหัวเราะร่าแล้วพูดว่า “ยอมทุ่มเหรอ เธอมาพูดเรื่องนี้กับฉันเนี่ยนะ บนโลกนี้มีอะไรได้มาฟรีๆ บ้างล่ะ เธอรู้ไหมว่าวิทยายุทธของฉันต้องทุ่มมากมายขนาดไหน เพื่อความแข็งแกร่ง แลกด้วยชีวิตแล้วยังไงล่ะ เธอรู้ไหมว่าคนมากมายอยากเป็นผู้แข็งแกร่งแบบเธอ ถึงขั้นที่ยอมแลกด้วยชีวิต คนที่หนักกว่านั้นคือยอมเข้าสู่วิถีปีศาจโดยไม่สนใจอะไรทั้งนั้น”
กระบี่ของโฉวล่วนชี้หน้าซูตง เสียงสูงขึ้นทันที เขาแผดเสียงออกมาว่า “พูดแบบนี้ออกมาได้ แสดงว่าคนอย่างเธอไม่มีจิตใจของผู้แข็งแกร่ง เธอมันแค่คนกระจอกน่าสงสารที่บังเอิญผงาดขึ้นมาได้ พลังของเธอไม่มีวันทำให้เธอมีเกียรติ มีเพียงแต่จะนำความพังพินาศมาให้เธอ!”
คำพูดของโฉวล่วนเหมือนกระบี่แหลมคมแทงทะลุหัวใจซูตง
ซูตงสีหน้าเปลี่ยนไปทันที ใบหน้าบิดเบี้ยว แม้แต่ประกายนัยน์ตาก็วูบไหวด้วย
เฟิงเสี่ยวชี่เห็นภาพนี้แล้วส่ายหน้าพูดว่า “คิดไม่ถึงเลยว่าจะโดนคำพูดโฉวล่วนทำให้จิตใจว้าวุ่น สภาพจิตใจซูตงใช้ไม่ได้เลย เฮ้อ......สหายเงามืดสั่นอะไร ปวดฉี่เหรอ” เฟิงเสี่ยวชี่หันมามองลู่ฝานที่กำลังกดแหวนจิ่วเซียวเอาไว้สุดชีวิต
ลู่ฝานตัดสินใจใช้พลังแห่งโลกปกคลุมบนแหวนจิ่วเซียว จึงสามารถสยบมันได้!
ลู่ฝานถลึงตาใส่เฟิงเสี่ยวชี่ไปหนึ่งที แล้วเงยหน้ามองซูตง “สภาพจิตใจใช้ไม่ได้ ไม่ได้หมายความว่าพลังใช้ไม่ได้นะ โฉวล่วนกำลังเล่นกับไฟ เขาอาจไม่รู้ว่าเขากำลังบีบให้ซูตงแสดงพลังแบบไหนออกมา!”
ความกังวลของลู่ฝานมีเหตุผล
การต่อสู้ของยอดฝีมือ ใช้คำพูดทำลายจิตใจ มีมาตั้งแต่สมัยโบราณแล้ว
วิธีนี้ใช้ได้ผลมาก เมื่อทำลายจิตใจของอีกฝ่ายได้ ก็เท่ากับสลายความฮึกเหิมของอีกฝ่าย ต่อไปการต่อสู้ก็จะง่ายขึ้นมาก
แต่สิ่งนี้จำกัดไว้เพียงยอดฝีมือทั้งสองคนต้องมีจิตใจเต๋า ถ้ายอดฝีมือสู้กับผู้อ่อนแอ วิธีนี้ไม่ค่อยมีค่าเท่าไร บางครั้งอาจทำให้อีกฝ่ายโกรธและทำให้การต่อสู้ยากขึ้นอีก
เหมือนผู้ใหญ่สองคนทะเลาะกัน ยังไงก็ต้องคุยด้วยเหตุผลก่อน ใครมีเหตุผลหรือจะพูดว่าใครพูดมีเหตุผลกว่ากัน แน่นอนว่าคนนั้นต้องมีพลานุภาพกว่า
แต่ถ้าผู้ใหญ่ทะเลาะกับเด็กไม่รู้ความ คงไม่ต้องพูดกันด้วยเหตุผลหรอก สู้ด้วยหมัดจริงๆ ไปเลยดีกว่า
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เซียนบู๊ ทะลวงชั้นฟ้า
ปู่เชี่ยไรเรียกหลานตัวเองว่านาย นิยายย้อนยุคมึงแปลซะ ทันสมัยเลย ไอ้เวร...
ช่องทางซื้ออ่านก็ไม่มี...
2276จบค้างเลยมาต่อเร็วๆนะ...
รออ่าน2277...
เสียดายมาก อ่านมาถึงหน้า 2276 มา2รอบแล้ว กำลังสนุกเลย ช่วยแปลตาอให้หน่อยนะครับ...
ถ้าไม่แปลต่อเรื่องต่อไปก็คงเหมือนเรื่องนี้หรือเปล่าครับไม่จบสักเรื่อง...
เปลี่ยนชื่อเว็บไซต์อีกครั้งเป็นครั้งที่3นับแต่ได้เข้ามาอ่าน สัญญานของการไปต่อ...
พยายามชำระเงินจากทั่ให้บนprofile จำนวน$4.99 แต่ไม่สำเร็จ ทดลองจ่ายเงินซื้อสินค้าออนไลน์ก็ผ่าน ซึ่งแสดงว่าcardไม่มีปัญหา บอกได้ไหมว่ามีปัญหาที่ไหน หรือว่ายังไม่ได้แปลเพิ่ม จึงยังไม่ต้องจ่าย มีข้อสงสัยมากมาย ชี้แจงสักหน่อยได้ไหม...
รอจนหมดหวัง...
อ่านถึง2276ครบ2รอบแล้วครับ ไม่แปลต่อแล้วเหรอ...