เซียนบู๊ ทะลวงชั้นฟ้า นิยาย บท 1980

สรุปบท บทที่ 1980 กระบี่รู้อนาคต (1): เซียนบู๊ ทะลวงชั้นฟ้า

สรุปเนื้อหา บทที่ 1980 กระบี่รู้อนาคต (1) – เซียนบู๊ ทะลวงชั้นฟ้า โดย โอหยางวิ่น

บท บทที่ 1980 กระบี่รู้อนาคต (1) ของ เซียนบู๊ ทะลวงชั้นฟ้า ในหมวดนิยายใช้ชีวิต เป็นตอนที่โดดเด่นด้วยการพัฒนาเนื้อเรื่อง และเปิดเผยแก่นแท้ของตัวละคร เขียนโดย โอหยางวิ่น อย่างมีศิลป์และชั้นเชิง ใครที่อ่านถึงตรงนี้แล้ว รับรองว่าต้องติดตามตอนต่อไปทันที

ค่ำคืนนี้มีการเคลื่อนไหวทุกทิศทาง

จดหมายกับมุกที่ลู่ฝานส่งไป ดุจแสงแห่งเปลวเพลิง จุดไฟเมืองทั้งเมือง อีกทั้งยังเริ่มแผดเผาอย่างรุนแรงด้วย

ในคืนเดียวกัน เทพเงินแปดทิศมาหาอริยบุคคลแห่งจักรวาลและเทพบู๊หุ้นตุ้น หลังจากทั้งสามคนคุยกันหนึ่งชั่วโมง พวกเขาเรียกประมุขของเก้าประเทศที่ทรงพลัง รวมถึงหัวหน้าอำนาจใหญ่อื่นๆ มา

พวกเขาเข้ามาในห้องหินเหล็กปิดตายและมีค่ายกลเต็มไปหมด

ไม่มีใครรู้ว่าพวกเขาคุยอะไรกัน และไม่มีใครรู้ผลของการปรึกษาหารือของพวกเขา

สรุปว่าเมื่อฟ้าค่อยๆ สว่าง

กำลังคนทั้งหมดของเก้าประเทศที่ทรงพลังเริ่มถอยกลับ

คุณชายที่กำลังใช้ชีวิตสำมะเลเทเมาอยู่ข้างนอก โดนประเทศตัวเองเรียกกลับ

พวกทายาทตระกูลสูงส่งที่กำลังสนุกอยู่ที่บ่อนพนัน ต่างได้รับคำสั่งจากประมุขประเทศตัวเอง

อีกทั้งยังมีคำสั่งตายด้วย!

แม้แต่พวกศิษย์ชั้นยอดที่กำลังเหงื่อออกหาความสุขอยู่ ก็โดนคนดึงลงจากเตียง

เพียงไม่นาน ดูเหมือนเมืองฉิงเทียนมีบรรยากาศที่แตกต่างออกไป

อีกทั้งสถานการณ์พวกนี้ ถึงหูผู้อาวุโสซู่มั่นและคุณชายเฟิงเทียน

คุณชายเฟิงเทียนยิ้มบางๆ ให้เรื่องนี้

พูดเบาๆ ออกมาเพียงสองคำ

“เงามืด!”

......

เช้าวันต่อมา ตะวันโด่งฟ้า สายลมอ่อนโยน

เมืองฉิงเทียนยังมีเกาะลอยฟ้าอยู่บนฟ้าเหมือนเดิม แค่วันนี้เกาะลอยฟ้าเกิดการเปลี่ยนแปลงอีกแล้ว

วังเกาะลอยฟ้ากลายเป็นเวทีประลองที่ไม่มีสิ่งก่อสร้างอะไรเลย

หินใสปูเต็มพื้น เต่ามังกรหมอบอยู่ตรงกลาง ดูธรรมดามาก

พวกประมุขประเทศฉิงเทียนคงรู้ว่าถึงเวทีประลองหรูหราแค่ไหน หลังผ่านการประลองวันนี้ไป ก็กลายเป็นซากปรักหักพังอยู่ดี

ดังนั้นจึงไม่จำเป็นต้องทำเวทีประลองให้ดีเกินไป

ถึงขนาดที่วันนี้ไม่มีค่ายกลป้องกันปรากฏออกมาด้วย

เพราะเป็นอะไรที่เยอะเกินความจำเป็น สำหรับคนที่ประลองวันนี้

ภายใต้แสงอาทิตย์ที่ส่องลงมา เวทีประลองสะท้อนแสงระยิบระยับ

ทั้งท้องฟ้าถูกแบ่งเป็นม่านแสงสี่ส่วน

เงาของลู่ฝาน ซูตง เย่หนานเทียนและเฟิงเสี่ยวชี่ ลอยอยู่ตรงขอบฟ้าเหมือนเทพสี่องค์

กลุ่มคนรวมตัวกันด้านล่างอย่างรวดเร็ว

วันนี้เป็นการสู้รอบสี่คนของการแข่งนานาประเทศ

คำว่าทุกคนต่างรอคอย คงไม่สามารถบรรยายการประลองรอบนี้ได้

เห็นสีหน้าบ้าคลั่งของกลุ่มคนด้านล่าง รวมถึงท่าทางเสียสติตอนพวกเขาตะโกนชื่อผู้เข้าแข่งขันทั้งสี่คน ดูออกเลยว่าพวกเขารอคอยการประลองครั้งนี้ขนาดไหน

จู่ๆ มีลำแสงกะพริบบนท้องฟ้า

แสงส่องไปทางท้องฟ้าด้านซ้ายของเกาะลอยฟ้า

สิ่งที่ปรากฏออกมาตามแสงคือสามอริยบุคคล จากนั้นคนที่ตามพวกเขามาติดๆ คือประมุขประเทศต่างๆ

สายลมเบาๆ กลางท้องฟ้ารวมตัวเป็นเก้าอี้ให้พวกเขานั่งจนครบทุกคน

ประมุขประเทศฉิงเทียนมองผู้คนที่เยอะจนสุดลูกหูลูกตา หัวเราะเบาๆ แล้วพูดว่า “วันนี้จะเป็นการต่อสู้ที่ยากจะลืมทั้งสองรอบ อริยบุคคลทั้งสามคิดว่าใครจะชนะ”

สามอริยบุคคลปรายตามองประมุขประเทศฉิงเทียน เทพเงินแปดทิศพูดว่า “ใครชนะก็ได้ทั้งนั้น สี่คนที่เหลือเป็นยอดอัจฉริยะ เป็นนักรบผู้ห้าวหาญ ฝ่าบาทควรประกาศเริ่มได้แล้ว!”

ประมุขประเทศฉิงเทียนปรบมือหัวเราะ “ใช่!”

ประมุขประเทศฉิงเทียนลุกขึ้นเดินไปด้านหน้า

น้องอวี๋ปรบมือเชียร์อยู่ข้างๆ เย่หนานเทียน มองเย่หนานเทียนด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความตื่นเต้น

เย่หนานเทียนขยิบตาให้น้องอวี๋เบาๆ จากนั้นก้าวไปด้านหน้า

เท้าเหยียบลงบนกาแล็กซี ด้านหลังเย่หนานเทียนก็มีผ้าคลุมสีเงินปรากฏออกมาเช่นกัน

ทันใดนั้นแสงสีดำและขาวร่วงลงมาพร้อมกัน

แยกกลุ่มคนที่ขวางทางเสาแสงออกทันที เหลือเพียงทางสีขาวและสีดำ

ทางสีดำขลับเหมือนยามค่ำคืน เสาแสงส่องลงบนตัวซูตง

วันนี้ไม่รู้ทำไม ซูตงสวมชุดนักบู๊สีดำทั้งตัว รวบผมขึ้น ใบหน้าซีด ตัวอยู่ภายใต้เสาแสงสีดำ ดูลึกลับเหมือนเทพแห่งราตรีอันมืดมิด นัยน์ตาคู่นั้นเต็มไปด้วยความอาฆาตมากมาย

ทางสีขาว แวววาวละมุนเหมือนหยก เสาแสงร่วงลงบนรถม้าคันหนึ่ง ตอนนี้ลู่ฝานค่อยๆ เดินออกมาจากรถม้า

กลุ่มคนตะโกนเชียร์เสียงดังทันที

เสียงนี้ดังกว่าเสียงเชียร์ของเย่หนานเทียนและเฟิงเสี่ยวชี่

ใบหน้าลู่ฝานมีรอยยิ้มบางๆ โบกมือเบาๆ ให้คนรอบๆ

สาวๆ ในกลุ่มคนถึงกับเป็นลมเป็นแถบ ลู่ฝานมองเพียงแวบเดียวและละสายตาออกมา เขาเห็นเรื่องแบบนี้จนชินแล้ว!

เส้นทางแสงยาวไปจนถึงขอบฟ้า ทั้งสี่คนเดินอย่างรวดเร็วมาถึงบนเกาะลอยฟ้า

สิบคนรอบที่แล้ว ตอนนี้เหลือเพียงสี่คนเท่านั้น

ทั้งสี่คนยืนแยกตามมุมทิศเหนือ ใต้ ออก ตกบนเกาะลอยฟ้า

เต่ามังกรสีทองด้านหน้าเงยหน้าขึ้น

สายตาทุกคนจับจ้องไปที่กระบี่สีทองบนหลังเต่ามังกร

หมุน ลดความเร็ว หยุด!

วินาทีที่กระบี่สีทองหยุดลง ทุกคนส่งเสียงเชียร์ออกมา

ในเวลาเดียวกัน ประมุขประเทศฉิงเทียนพูดเสียงสูงว่า “ซูตงสู้กับเย่หนานเทียน เริ่มการต่อสู้รอบแรก!”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เซียนบู๊ ทะลวงชั้นฟ้า