เซียนบู๊ ทะลวงชั้นฟ้า นิยาย บท 1983

ซูตงหรี่ตาลงเล็กน้อย ไม่มองบาดแผลตัวเองสักนิด เธอจ้องตาเย่หนานเทียนเขม็ง

เธอดูออกว่าเย่หนานเทียนไม่ได้โกหก กระบี่รู้อนาคตที่ว่าก็ไม่ได้ล้อเธอเล่นด้วย

“คิดไม่ถึงเลยว่าในใต้หล้ามีคนแบบนี้ด้วย!”

ซูตงพูดเสียงเบา

ประโยคที่เธอพูดคือเสียงในใจของคนมากมาย

เย่หนานเทียนยิ้ม แสงสว่างขึ้นบนกระบี่อีกครั้ง ชี้มาที่หว่างคิ้วของซูตง

กระทืบเท้ากลางอากาศอย่างแรง เสียงแตกร้าวชัดเจนดังขึ้นมาจากใต้เท้าเขา

ตัวเหมือนภูตผี กระบี่เหมือนมังกรเลื้อย

แสงกระบี่เป็นเงาเลือนราง แสงสว่างไสวสะกดจิตคน

ทุกคนเบิกตาโตมองวิชากระบี่ของเย่หนานเทียน

อันที่จริงการโจมตีของเขาจะเฉียบคมขนาดไหน ไม่ได้ดึงดูดสายตาผู้ชมสักเท่าไร

แต่เขาสามารถหลบหลีกแบบรู้ล่วงหน้าได้ยังไง นี่คือเรื่องที่ทุกคนอยากรู้

แสงกระบี่มาถึงหน้าซูตง

ตอนนี้สีหน้าซูตงเริ่มนิ่ง

เธอมองกระบี่ใกล้เข้ามา แล้วกลายเป็นแสงสีดำขลับทันที

กดฝ่ามือลงกลางอากาศเวิ้งว้างเบาๆ ทันใดนั้นพลังแห่งวิถีรวมตัวเป็นระลอกคลื่น ต้านทานกระบวนท่าของเย่หนานเทียนเอาไว้

สายตาเย่หนานเทียนเปลี่ยนไปเล็กน้อย กระบวนท่านี้ทำให้เขาคิดไม่ถึง

ประกายที่วูบไหวนัยน์ตา อยู่ในสายตาของซูตงทั้งหมด

ซูตงค่อยๆ พูดว่า “ดูเหมือนมีกระบวนท่าที่นายไม่สามารถคาดเดาได้เหมือนกันสินะ!”

เย่หนานเทียนสีหน้าเคร่งขรึม ใบหน้าซูตงมีรอยยิ้มบางๆ

ด้านล่าง ลู่ฝานเห็นการกระทำของซูตงแล้วส่ายหน้า “เย่หนานเทียนจะซวยแล้ว ซูตงหาวิธีรับมือการคาดเดาล่วงหน้าได้แล้ว!”

เฟิงเสี่ยวชี่พูดอย่างประหลาดใจว่า “ความสามารถในการคาดเดาล่วงหน้า สามารถรับมือได้ด้วยเหรอ”

ลู่ฝานพยักหน้าพูดว่า “ได้สิ ฉันจำได้ว่าตอนอยู่เขาวิถีบู๊ที่ประเทศอู่อาน เซียนบู๊กระบี่คลั่งเคยบอกฉันเกี่ยวกับวิชาที่สามารถมองทะลุความคิดคนอื่น วิชาแบบนี้พูดตรงๆ ก็คือสังเกตความเปลี่ยนแปลงของจิตใจอีกฝ่าย อิทธิพลและการเปลี่ยนแปลงของพลังฟ้าดิน หรือจะเรียกว่าเป็นความปั่นป่วนที่เกิดจากความผันผวนของวิญญาณอีกฝ่ายก็ได้ ความรู้สึกของยอดฝีมือไวมาก สามารถมองทะลุได้ คิดว่าความสามารถในการคาดเดาล่วงหน้าคงไม่ต่างกัน อย่างมากก็แค่เปลี่ยนจากสังเกตความผันผวนของวิญญาณ เป็นสังเกตความผันผวนของฟ้าดินเท่านั้น”

ลู่ฝานพูดการคาดเดาของตัวเองออกมา

ถ้าเย่หนานเทียนได้ยินการคาดเดาของเขา ต้องมีสีหน้ารู้แจ้งกระจ่างแน่นอน

เพราะเย่หนานเทียนก็ไม่รู้เหมือนกันว่าความสามารถในการคาดเดาล่วงหน้าของตัวเองคืออะไรกันแน่

เขารู้เพียงว่าเมื่ออีกฝ่ายจะทำอะไร หรือใช้วิชาอะไร ในหัวเขาจะส่งสัญญาณเตือนโดยอัตโนมัติ

ถึงขนาดที่บางครั้งจะมีภาพผุดขึ้นมาในหัวเขาอย่างประหลาด

แน่นอนว่าก่อนหน้านั้นเขาต้องเห็นอะไรบางอย่างก่อน

บางทีอาจเป็นเหมือนที่ลู่ฝานพูด เขาต้องสังเกตความผันผวนของวิญญาณอีกฝ่ายก่อน หรือไม่ก็ความผันผวนของฟ้าดิน

แต่ตอนนี้ซูตงปิดกั้นความผันผวนพวกนี้ไว้หมดเลย

แรงกระเพื่อมของพลังแห่งวิถีบนตัวซูตง ปกคลุมตัวซูตงเอาไว้ทั้งหมด ในสายตาเย่หนานเทียน ซูตงเหมือนเงาเลือนราง

เมื่อเป็นเช่นนี้ เขาไม่สามารถคาดเดาได้ล่วงหน้าแล้ว

“มองทะลุฟ้าดิน สังเกตการเปลี่ยนแปลงของเขา ล่วงรู้ความรู้สึกเขา ดวงตาเทพโดยกำเนิด!”

เทพบู๊หุ้นตุ้นมองเย่หนานเทียนแล้วหัวเราะออกมา

เทพเงินแปดทิศก็พูดว่า “คนที่เกิดมาก็ใช้ชีวิตอยู่ในวิถีแห่งสวรรค์ ตาเฒ่าอริยบุคคลแห่งจักรวาล นายเจอศิษย์ที่ดีแล้ว!”

อริยบุคคลแห่งจักรวาลยกยิ้มมุมปาก

เป็นเพราะร่างกายของลู่ฝานแข็งแกร่ง ขืนเป็นคนทั่วไปล่ะก็

แหวนที่เหมือนเปลวไฟแผดเผาแบบนี้ คงละลายนิ้วของคนทั่วไปได้เลย

ลู่ฝานใช้มือกดลงบนแหวน ในเวลาเดียวกันก็จ้องน้ำสีดำบนตัวซูตงด้วย

พลังนี้ต้องเป็นสิ่งที่เทพบู๊เสินเซียวทิ้งไว้แน่นอน

ในฐานะที่ลู่ฝานเป็นผู้ฝึกชี่ครึ่งหนึ่ง มองเพียงแวบเดียวก็รู้ว่าน้ำสีดำนั่นไม่ใช่พลังธรรมดา

เป็นยาที่กลายเป็นน้ำยาชัดๆ!

ด้านในมีกลิ่นคาวเลือดด้วย ลู่ฝานพึมพำว่า “ยาฟื้นคืนชีพเลือดกระดูก!”

เฟิงเสี่ยวชี่ได้ยินเสียงลู่ฝาน เขาพูดอย่างประหลาดใจว่า “ยาอะไรนะ นายพูดอะไร”

ลู่ฝานไม่ได้ตอบ เพราะยาแบบนี้อธิบายยากจริงๆ

นี่คือยาของผู้ฝึกชั่วร้าย ลู่ฝานอยู่กับผู้ฝึกชั่วร้ายนานขนาดนี้ เขาก็เพิ่งรู้จักเหมือนกัน

ยาชนิดนี้กลั่นจากเลือดของผู้แข็งแกร่ง กลั่นพลังในเลือดของผู้แข็งแกร่งออกมาเป็นยา

ระดับความแข็งแกร่งของยา ขึ้นอยู่กับความมากน้อยของพลังที่อยู่ในเลือด

นั่นหมายความว่าสายน้ำสีดำที่วนเวียนอยู่บนตัวซูตง พูดตามตรงก็คือพลังของเทพบู๊เสินเซียว!

จากนั้นท่ามกลางสายตาทุกคน ซูตงค่อยๆ อ้าปาก สายน้ำสีดำแยกออกมาหนึ่งหยด เข้ามาในปากซูตง

กลืนลงไปในท้อง จู่ๆ สีหน้าซูตงดูทรมานเล็กน้อย

ทันใดนั้นพลังบนตัวเธอพุ่งสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว ตอนนี้พลังของเธอเพิ่มขึ้นหนึ่งเท่า!

เย่หนานเทียนโดนพลังบนตัวซูตงกระแทกจนปลิว กระบี่ในมือมีเสียงแตกหักดังออกมา

โฮก!