เซียนบู๊ ทะลวงชั้นฟ้า นิยาย บท 2014

สรุปบท บทที่ 2014 เทพปีศาจจุติ(1): เซียนบู๊ ทะลวงชั้นฟ้า

สรุปตอน บทที่ 2014 เทพปีศาจจุติ(1) – จากเรื่อง เซียนบู๊ ทะลวงชั้นฟ้า โดย โอหยางวิ่น

ตอน บทที่ 2014 เทพปีศาจจุติ(1) ของนิยายใช้ชีวิตเรื่องดัง เซียนบู๊ ทะลวงชั้นฟ้า โดยนักเขียน โอหยางวิ่น เต็มไปด้วยจุดเปลี่ยนสำคัญในเรื่องราว ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยปม ตัวละครตัดสินใจครั้งสำคัญ หรือฉากที่ชวนให้ลุ้นระทึก เหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้อ่านที่ติดตามเนื้อหาอย่างต่อเนื่อง

ฝูงชนเห็นศีรษะของเทพบู๊หุ้นตุ้นอยู่บนพื้น รู้สึกคล้ายภูเขาใหญ่ทับหน้าอก ทับจนพวกเขาหายใจไม่ออก

เจ้าสำนักหลีซีสีหน้าไม่น่ามองอย่างยิ่ง เขาคำนวณพันครั้งหมื่นครั้งก็คิดไม่ถึง สามอริยบุคคลถึงกับพ่ายแพ้เร็วอย่างนี้ ทั้งยังพ่ายแพ้อย่างสิ้นเชิง

นี่เพิ่งผ่านไปนานแค่ไหนกัน เทพบู๊หุ้นตุ้นหนึ่งในสามอริยบุคคลถึงกับต้องทิ้งชีวิตของตัวเอง

ผู้ซึ่งเข้าสู่แดนสูงส่งและลึกลับเหนือคนธรรมดา มือกุมพลังหุ้นตุ้น กลายเป็นบุคคลสำคัญของโลก ถึงกับตายอย่างง่ายดายปานนี้ ทำให้ผู้อื่นยากจะจินตนาการจริง ๆ

เจ้าสำนักหลีซีกำหมัดแน่น หากปล่อยไว้อย่างนี้ต่อไป ไม่ต้องให้เขาคำนวณ พวกเขาทั้งหมดคงได้ตายลงด้วยน้ำมือเฟิงเทียน

เพียงสามอริยบุคคลถูกฆ่าตายหมด พวกเขาผู้แข็งแกร่งจากนานาประเทศ ก็จะถูกสังหารหมู่เรียบ

ใต้หล้ายังมีใครสามารถเป็นคู่ต่อกรกับผู้ฝึกชั่วร้าย และยังมีใครสามารถทัดทานฝีเท้าของเฟิงเทียน

ทั้งหมดเป็นไปได้ว่าจะเหมือนอย่างที่เฟิงเทียนพูด เขากลายเป็นประมุขแห่งใต้หล้า

จากนี้เป็นต้นไปประชาชนเดือดร้อนทุกหย่อมหญ้า คืนสู่คุกตลอดกาล

“ใกล้แล้ว เจ้าสำนัก เริ่มได้แล้ว!”

ผู้อาวุโสซู่มั่นมองด้านล่างที่หนวดยืดขยายไปด้านนอกไม่ขาด พูดเบา ๆ

เฟิงเทียนหันมองผู้อาวุโสซู่มั่นแวบหนึ่ง “คุณใจกว้างกว่าที่ฉันจินตนาการไว้มากนัก ซ้ำยังมีพลังมาก ซู่มั่น ความเข้าใจผิดระหว่างพวกเรา สามารถปล่อยวางได้ เรื่องลู่ฝาน ฉันก็จะไม่พูดแล้ว คุณยังคงเป็นผู้นำผู้อาวุโส ช่วยฉันดูแลใต้หล้าเป็นยังไง?”

ผู้อาวุโสซู่มั่นตอบ “ถ้าคุณครอบครองใต้หล้าได้จริง ๆ งั้นฉันย่อมยินดี”

เฟิงเทียนยิ้มพลางยื่นมือออกไป นิ้วมือปัดผ่านแก้มของซู่มั่นเบา ๆ ดูคล้ายมีความอบอุ่นหลายส่วนไหลเวียนระหว่างทั้งสองคน

“วางใจเถอะ ใต้หล้าเป็นของฉันแล้ว เพียงรอฉัน ก้าวสุดท้ายเท่านั้น เริ่มเถอะ! ฉันจะทำให้คนที่ช่วยเหลือคนโง่เหล่านี้ก่อนตายได้เห็นสักหน่อย ฉันจะกลายเป็นประมุขแห่งใต้หล้าได้ยังไง พวกเขาจะได้ชมการอวยยศขึ้นเป็นเทพของฉัน จากนั้นสวามิภักดิ์ใต้ฝ่าเท้าฉัน จูบเท้าฉัน!”

เฟิงเทียนกางแขนออก ออร่าปีศาจไร้ขอบเขตพุ่งออกจากร่างของเขา ลงสู่พื้นดินที่ลึกที่สุด

ผู้อาวุโสซู่มั่นถอยไปหนึ่งก้าว สายตากวาดผ่านอากาศที่ส่ายไหว แล้วจึงหยุดลงที่ร่างของลู่ฝาน สายตาค่อนข้างสับสน

ขณะนั้น ลู่ฝานใช้มือตบกระบี่ปีศาจที่ได้รับเมื่อครู่นี้จนแตกเป็นชิ้น

มือหยิบชิ้นส่วนที่แตกชิ้นหนึ่ง ลู่ฝานยัดเข้าไปในเสื้อของฮ่วนเย่ว์ พร้อมทั้งส่งให้เจ้าสำนักหลีซี

หลีซีสัมผัสได้ถึงออร่าปีศาจจากชิ้นส่วนนั้นทันที

กำลังจะถาม ลู่ฝานก็พูดเบา ๆ “ถือมันไว้ ปกป้องชีวิตได้!”

หลีซีมองลู่ฝานแวบหนึ่ง เลือกที่จะเชื่อลู่ฝาน วางชิ้นส่วนติดไว้กับตัว

ลู่ฝานยังมอบให้ฉินซางต้าตี้ รวมถึงผู้นำประเทศทุกท่านก็ได้รับชิ้นส่วนเหล่านั้น

เมื่อเขามอบชิ้นส่วนให้เทพเงินแปดทิศ เทพเงินแปดทิศกลับเพียงมองเขาด้วยสายตาเย็นเยียบ ไม่ได้คิดจะรับชิ้นส่วนนั้นไว้แม้แต่น้อย

อริยบุคคลแห่งจักรวาลก็เช่นกัน ขณะนั้นพวกเขายังอยู่ตรงหน้าลู่ฝาน ท่าทีหยิ่งยโสอย่างยิ่ง

ลู่ฝานมีโทสะในใจ แต่กลับไม่ได้พูดอะไร เพราะไม่ว่ายังไง ตอนนี้พวกเขายังคงยืนอยู่ข้างเดียวกัน

ในระยะไกล ออร่าปีศาจที่เฟิงเทียนปลดปล่อยออกมายิ่งนานยิ่งมาก

พื้นดินใต้ฝ่าเท้า เริ่มพลิกไหวอย่างบ้าคลั่ง

ฝุ่นดินปลิวตลบ แผ่นดินไหว

ขณะนี้ หนวดรอบด้านก็กำแหงขึ้นสิบเท่า หนวดทุกอันเสมือนสิ่งก่อสร้างในประเทศฉิงเทียนที่ทั้งสูงใหญ่และเหยียดตรง พุ่งตัวออกมา

โดยเฉพาะตรงตำแหน่งที่เฟิงเทียนลอยอยู่ หนวดยิ่งมากจนทำให้ผู้คนตื่นตะลึง

เหล่าหนวดไม่เพียงแต่กลืนกินทุกสิ่ง ขณะนี้พวกมันยังทิ่มแทงเข้าไปในมิติ พลังฟ้าดินนับไม่ถ้วน ถึงกับถูกหนวดดูดกลืนอย่างรวดเร็ว

เห็นได้ด้วยตาเปล่า ลำแสงห้าสีแห่งฟ้าดินพุ่งพล่านมุ่งไปยังแหล่งที่หนวดชุมนุมกัน

คนอื่นที่อยู่ตรงนั้นล้วนสีหน้าซีดขาว สัตว์อสูรอากาศธาตุยิ่งอยู่นานยิ่งแข็งแกร่ง แค่สัตว์อสูรตัวเดียว ชั่วพริบตาก็ได้ครอบครองทุกอย่างเสมือนมนุษย์คนหนึ่ง มีศักยภาพในการกลืนกินและหลอมรวมพลังแห่งฟ้าดิน ดังนั้นไม่ว่าสัตว์อสูรอากาศธาตุตัวนี้เป็นยังไง ก็สามารถเปลี่ยนเป็นแข็งแกร่งไร้เทียมทาน

ลู่ฝานยังคงดูเบาความน่ากลัวจากแผนการของเหล่าผู้ฝึกชั่วร้ายไปบ้าง

ในเวลานี้เอง ลู่ฝานถึงได้เพิ่งเข้าใจ ทำไมเหล่าผู้ฝึกชั่วร้ายถึงไม่ปิดล้อมอากาศเวิ้งว้างในประเทศฉิงเทียน เพราะต่อให้ผู้อื่นหนีก็ไม่มีทางหนีพ้น สาเหตุที่น่ากลัวมีเพียงอย่างเดียว นั่นคือเป็นเพราะเจตนาของเหล่าผู้ฝึกชั่วร้าย

ปิดล้อมสามเปิดทางหนึ่ง เหลือความหวังในการหนีรอดให้ผู้อื่น ทำอย่างนั้นย่อมสามารถทำลายความคิดที่จะต่อสู้กับผู้ฝึกชั่วร้ายจนหมดสิ้น

นอกอากาศเวิ้งว้าง ยังมีกองทัพใหญ่สุดสายตา รอฆ่าคนที่คิดหนี

ลู่ฝานจ้องหน้าเฟิงเทียนเขม็ง เขาไม่ยินดีที่จะเห็นรอยยิ้มกระหยิ่มยิ้มย่องอย่างนั้นของเฟิงเทียน

เป็นไปได้ว่าในสายตาของเฟิงเทียน เขาก็แค่แมลงตัวหนึ่งเท่านั้น

แต่ในยามนี้ ยิ่งต้องทำให้คนที่คิดว่าตัวเองแข็งแกร่งเหล่านั้นได้ดู ต่อให้เป็นแมลง ก็จะกัดคุณสักคำก่อนตายด้วยความกล้าหาญ

“พูดได้ดี คนที่อยู่ตรงนี้ ยิ่งนานยิ่งไม่เหลือความสง่างามของผู้แข็งแกร่งแล้ว”

แสงเงาร่วงลงพื้น ร่างของไอ้อ้วนตงปรากฏขึ้นข้างกายลู่ฝาน เฟิงเสี่ยวชี่ตามออกมาจากท่ามกลางฝูงชน

ตามด้วย เย่หนานเทียน หวงฝู่อู่ จั่วหยุนตงก็ออกมาเช่นกัน ยืนอยู่หลังลู่ฝาน

จั่วหยุนตงยื่นนิ้วกลางออกมา พูดกับเฟิงเทียน “มารดาเอ็งเถอะ กูไม่คิดหนีแล้ว อย่างมากก็แค่ตายสักครั้ง!”

หวงฝู่อู่พูดเบา ๆ “ใช่หรือไม่ว่าหนีตอนนี้ก็ไม่ทันแล้ว?”

ลู่ฝานพยักหน้าน้อย ๆ ให้หวงฝู่อู่

ฉับพลัน สีหน้าหวงฝู่อู่เปลี่ยนไป จากนั้นยืดอกขึ้น “งั้นฉันยังต้องกลัวนายไปทำไม หนีไม่ได้ก็สู้สุดชีวิตกับนายแล้วกัน ผู้ฝึกชั่วร้ายสารเลว!”

เฟิงเทียนยิ้มพลางมองพวกลู่ฝาน ชี้ไปยังลู่ฝาน“นายยังคิดจะเป็นวีรบุรุษ ลู่ฝาน นายอย่าทำให้ฉันขำตายหน่อยเลย!”

ลู่ฝานแสยะยิ้ม พูดเสียงดัง “บางทีอาจสำเร็จจริง ๆ ก็เป็นได้!”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เซียนบู๊ ทะลวงชั้นฟ้า