เซียนบู๊ ทะลวงชั้นฟ้า นิยาย บท 2049

แทบทุกคนต่างล้วนได้เห็นฉากนี้แล้ว  ประมุขประเทศตันเซิ่ง  เจ้าสำนักหลีซี  ตลอดจนเหล่าบรรดายอดฝีมือ  ทั้งหมดรีบเร่งวิ่งออกมาแล้วอย่างรวดเร็ว

หลายวันมานี้ทุกคนต่างอารมณ์ตึงเครียดตลอดมา  ส่งผลเมื่อได้เห็นท้องฟ้าเป็นสีดำเต็มไปหมด  ก็มีคนหันหลังกลับเตรียมหลบหนีทันใด  และตะโกนขึ้นอย่างตื่นตระหนกว่า  “ผู้ฝึกชั่วร้ายบุกเข้ามาแล้ว!”

“จงหุบปากเสีย!”

เจ้าสำนักหลีซีตวาดเสียงดังลั่นใส่คนที่ตะโกนขึ้นมาอย่างกระต่ายตื่นตูม

พลังระลอกนี้ดูเช่นใดก็หาใช่ผู้ฝึกชั่วร้ายรุดมาโจมตีไม่

ถึงอย่างไรประมุขประเทศตันเซิ่งก็มากประสบการณ์รอบรู้กว้างขวางกว่าอยู่บ้าง  เขาหยีตามองไปยังทิศทางไกลพูดขึ้นว่า  “หาใช่ผู้ฝึกชั่วร้ายไม่  แต่เป็นคนที่ต่อสู้พัวพันยากลำบากยิ่งกว่าผู้ฝึกชั่วร้าย”

พูดจบประมุขประเทศตันเซิ่งก็หันมองไปทางเจ้าสำนักหลีซี  สีหน้าแววตานั้นคล้ายดั่งกำลังสอบถามว่า  พวกคุณจะรุดไปหรือไม่?

เจ้าสำนักหลีซีเงียบขรึมครู่หนึ่งจึงเอ่ยขึ้นว่า  “รุดไปดูหน่อยเถอะ  ทุกคนรวมกลุ่มเคลื่อนไหวพร้อมกัน  ห้ามแตกแถวออกจากกลุ่มโดยพลการ  ถ้าเป็นผู้ฝึกชั่วร้ายติดตามไล่ล่าสังหารพวกเราจริงๆ  หลังจากเห็นแล้วรีบวิ่งหนีพร้อมกันทันที  ฉันคิดว่าเทพเงินแปดทิศและอริยบุคคลแห่งจักรวาลสมควรกำลังเร่งรุดไปแล้ว”

เจ้าสำนักหลีซีคาดเดาได้ช่างแม่นยำอย่างยิ่ง  ยามนี้เทพเงินแปดทิศและอริยบุคคลแห่งจักรวาลทั้งสองกำลังทะยานขึ้นนภากาศ  เหินบินตรงไปยังสถานที่ซึ่งเป็นแหล่งที่มาของพลัง

ลู่ฝานก็ได้เห็นการเปลี่ยนแปลงของฟ้าดินแล้วเช่นกัน  เขาไม่ทราบว่าพลังนี้คือสิ่งใดกันแน่  แต่เขายังคงพูดออกมาโดยสัญชาตญาณสองคำว่า

“หลิงเหยา!”

สีหน้าแววตาลู่ฝานแปรเปลี่ยนเล็กน้อย  เขาก็เหินบินขึ้นสูงทันทีแล้วเช่นกัน

บริเวณนอกหมู่บ้านปีศาจสาว  เงาร่างนับร้อยสายมุ่งหน้าเหินบินไปยังส่วนลึกของผืนป่า

ฟู่สืออู่  ฟู่ชีและคนอื่นๆ มองดูฉากนี้อย่างตกตะลึง  แต่กลับไม่มีสักตนกล้าติดตามขึ้นไป

ในเวลาเดียวกัน  บริเวณใจกลางผืนป่าใบไม้แดง  “หลิงเหยา”กำกระบี่อ่อนของตนไว้ภายในมืออย่างแนบแน่นแล้ว

กระบี่เล่มนั้นเป็นยอดกระบี่เลิศภพจบแดนอย่างไร้ข้อสงสัย  ขนาดยาวสิบเมตร  กว้างหนึ่งนิ้ว  หลอมสร้างสำเร็จขึ้นในหุ้นตุ้น  ประกายเย็นเยียบคุกคามผู้คน

ถือกระบี่ยาวไว้ในมือ  เส้นผมของ“หลิงเหยา”ก็เริงร่าพลิ้วไหวปลิวสะบัดขึ้นมาแล้วทั้งๆ ที่ไร้สายลม

บนร่างกายเธอ  เริ่มปรากฏชุดเกราะพิเศษที่สร้างสำเร็จจากพลังหุ้นตุ้นขึ้นมาชุดหนึ่ง

แผ่ขยายขึ้นจากฝ่าเท้าไปด้านบน  พลังหุ้นตุ้นควบแน่นกลายเป็นชิ้นส่วนเกราะอักขระยันต์ชิ้นแล้วชิ้นเล่าปรากฏขึ้นบนร่างของ“หลิงเหยา”

อักขระยันต์ดังกล่าว  เมื่อพิจารณามองดูอย่างละเอียดแล้วก็จะสามารถพบว่า  อักขระเหล่านั้นล้วนเป็นรอยจารึกของภูเขาบรรพตแม่น้ำสายธาร  และบรรดาหนอนแมลงมีปีกกับสัตว์ร้ายจัตุบาท

เงาสะท้อนของตลอดทั่วทั้งฟ้าดินทั้งหมดต่างล้วนอยู่บนชุดเกราะของ“หลิงเหยา”แล้ว  กระบี่อ่อนภายในมือก็กอปรด้วยประกายอสนีสายฟ้าส่วนหนึ่งเช่นกัน

จวบจนกระทั่งชุดเกราะแผ่ขยายถึงบริเวณบั้นเอว  พลัน“หลิงเหยา”พบว่าถุงใบเล็กบนร่างกายตนช่างเป็นอุปสรรคขัดขวางอย่างยิ่ง

“นี่คือสิ่งของใด?”

“หลิงเหยา”จ้องมองถุงใบเล็กนี้อย่างขุ่นข้องรำคาญ

คล้ายดั่งไม่เข้าใจว่าทำไมบนร่างกายตนถึงมีสิ่งของเช่นนี้

“หลิงเหยา”สลัดมือโยนถุงใบเล็กขว้างทิ้งไป

ชุดเกราะครอบคลุมตลอดทั่วทั้งตัวในชั่วพริบตา  “หลิงเหยา”ในยามนี้ดูแล้วได้แต่ใช้คำว่าองอาจห้าวหาญน่าเกรงขามมาบรรยาย

สีหน้าแววตาเปลี่ยนเป็นเย็นเยียบหนาวเหน็บ  เงาร่างพลิ้วไหววูบเหินบินขึ้นข้างบน

พลัน“หลิงเหยา”ตวัดหนึ่งกระบี่ฟาดฟันไปภายในท่ามกลางหมู่ต้นไม้

รังสีกระบี่ไร้เงา  ผืนป่าแถบหนึ่งสูญสลายหายไปจนไร้ร่องรอยทันใด

เหมือนเช่นเดียวกับมีมือยักษ์ระหว่างฟ้าดินข้างหนึ่งถอนดึงเอาต้นไม้ทั้งหมดออกไปแล้วก็ปาน  เงาร่างของหวงฝู่อู่ภายในผืนป่าได้เปิดเผยออกมาแล้ว

หวงฝู่อู่จ้องมองดู“หลิงเหยา”อย่างตะลึงงัน  เขาไม่เคยเห็นพลังเช่นนี้ของเธอมาก่อน

ยิ่งรู้สึกไม่เข้าใจที่“หลิงเหยา ”ลงมือต่อเขาอย่างกะทันหันนั้น  หมายความถึงสิ่งใด

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เซียนบู๊ ทะลวงชั้นฟ้า