สีหน้าของผู้อาวุโสแต่ละคนดูสับสน พวกเขาแทบไม่เคยได้ยินว่าเจดีย์เสวียนเก้ามังกรคืออะไร
พวกเขาเคยเห็นลู่ฝานนำเจดีย์นี้ออกมามากกว่าหนึ่งครั้ง ล้วนมองออกว่าเจดีย์นี้ไม่ใช่สิ่งของสามัญทั่วไป คนที่จะสามารถครอบครองภูติอาวุธชนิดนี้ได้อย่างน้อยก็ต้องมีตำแหน่งอาวุธวิเศษขึ้นไป
แต่ฟังจากน้ำเสียงของผู้อาวุโสใหญ่ ดูเหมือนว่าเจดีย์เสวียนเก้ามังกรจะมีความสามารถที่ไม่ธรรมดาเลยทีเดียว
ทำเอาผู้อาวุโสทุกท่านอดไม่ได้ที่จะคิดหนัก
มีเครื่องมือที่มีอานุภาพร้ายแรงในใต้หล้านี้ คือรูปทรงของเจดีย์หรือเปล่า?
สิ่งเดียวที่พวกเขารู้ก็คือ เจดีย์อันนั้นดูเหมือนจะเป็นเจดีย์ของประเทศตันเซิ่งสินะ
ท่ามกลางเปลวเพลิง ควันสีขาวเริ่มลอยขึ้นมาจากกระบี่หนักไร้คมที่อยู่ใต้ฝ่าเท้าของลู่ฝาน ตัวกระบี่สั่นเล็กน้อย ซึ่งเป็นสัญญาณว่าไม่อาจจะทนได้อีกต่อไป
ลู่ฝานรีบเก็บกระบี่หนักไร้คมเล่มนั้นกลับออกมาอย่างรวดเร็ว พร้อมทั้งปล่อยปราณชี่ เกราะเกล็ดมังกรแผ่คลุมไปทั่วร่างกาย และบินไปข้างหน้าต่อ
เนื่องจากเขาบรรลุถึงสภาวะนี้แล้ว เขาจึงไม่ได้ปล่อยเกราะเกล็ดมังกรแบบนี้ออกมาเป็นเวลานานแล้ว
ในยามต่อสู้กับผู้อื่น เขาก็ไม่รู้สึกว่ามีความแตกต่างกันมากนักไม่ว่าเขาจะมีเกราะเกล็ดมังกรหรือไม่
ทว่า ตอนนี้หากเขาจะต้องจัดการกับเปลวเพลิงร้อนระอุ เกราะเกล็ดมังกรก็ยังสามารถช่วยได้ในระดับหนึ่ง
และในขณะที่ร่างกายของลู่ฝานได้รับการพัฒนาขึ้นอีกครั้ง เกราะเกล็ดมังกรที่ลู่ฝานปลดปล่อยออกมาก็เกิดการเปลี่ยนแปลงราวพลิกฟ้าพลิกแผ่นดินเมื่อเทียบกับในอดีต
จากชุดเกราะที่ทั้งหนาและหนัก แปรเปลี่ยนมาอยู่ติดกับลำตัวและมีความโปร่งใสแทน
ข้างในก็มีพลังของลู่ฝานไหลเวียนอย่างอิสระ ในขณะเดียวกันชุดเกราะนี้ก็ยังสามารถเพิ่มความเร็วในการดูดรับพลังฟ้าดินจากบริเวณรอบ ๆ ได้อีกด้วย
หากอยู่มาวันหนึ่ง ลู่ฝานไม่ต้องการใช้เกราะเกล็ดมังกรนี้อีกต่อไป และลอกชุดเกราะออกมาจากร่างกายของเขาแล้ว
เกราะเกล็ดมังกรนี้ก็จะกลายเป็นอาวุธเทพชั้นดีอย่างแน่นอน
ชั่วพริบตาเดียวก็ผ่านไปสองชั่วยาม จำนวนวานรไฟที่อยู่รอบตัวก็มีมากขึ้นเรื่อย ๆ และรูปร่างของพวกมันก็ใหญ่โตขึ้นไม่หยุด จนสุดท้าย มองไปทางไหนก็เต็มไปด้วยฝูงวานรไฟ ทว่า โชคดีที่วานรไฟฝูงนี้ไม่ได้โจมตีเขาซึ่งก็ไม่ทราบสาเหตุว่าเพราะอะไร ไม่เช่นนั้น ก็จะเกิดปัญหาว่า ลู่ฝานจะสามารถไล่สังหารพวกมันไปได้ตลอดทางหรือไม่
เปลวเพลิงกำลังไหลลงสู่ห้วงเหวลึก แทบจะมองไม่เห็นจุดสิ้นสุด
กระแสเปลวเพลิงที่อยู่ใต้ฝ่าเท้ากำลังจะหายไป เหลือเพียงหมอกมัวแดงสลัวเท่านั้น
นี่เป็นพิษไฟที่แพร่กระจายออกมาจนหมดแล้ว หากจอมยุทธ์ธรรมดาสูดดมเข้าไป เกรงว่าร่างกายของคนผู้นั้นจะลุกไหม้ไปทั้งตัว
ด้วยสภาพร่างกายของลู่ฝานในตอนนี้ เขาเองก็ไม่ค่อยกล้าที่จะหายใจลึก ๆ นัก
พิษไฟที่แฝงไว้ด้วยพลังแห่งเต๋าดูน่ากลัว หากพิษไฟปล่อยออกไปข้างนอกแม้เพียงนิดเดียวก็เกรงว่าจะสามารถเผาไหม้ป่าเขาได้ถึงพันลี้
ลู่ฝานเดินทางไปข้างหน้าท่ามกลางเปลวเพลิงสีแดง จู่ ๆ ก็มีภาพลวงตาวูบวาบขึ้นมาอยู่ไม่ไกลจากตัวเขา
ภาพของคนที่มีรูปร่างเล็กปรากฏขึ้นพร้อมกับเสียงหัวเราะที่แสบแก้วหู กำลังหมุนอยู่รอบตัวเขา
และส่งเสียงคล้ายกับแมลงและสัตว์ร้าย
นี่น่าจะเป็นภูตผีปีศาจที่สิงสถิตอยู่ในภูเขาและแม่น้ำตามที่เจดีย์เสวียนเก้ามังกรเคยบอกไว้
“มนุษย์เอ๋ย นายไม่ควรจะมาถึงนี่ รีบออกไปจากที่นี่ซะ”
“มนุษย์เอ๋ย เหตุใดบนตัวของนายถึงได้มีกลิ่นอายที่ฉันชอบ”
“ฉันจะกินเขา ฮ่าๆ”
…
คนตัวเล็กเหล่านี้ที่กำลังวุ่นวายสับสนอลหม่าน เริ่มพากันส่งเสียงจ้อกแจ้กจอแจท่ามกลางพิษไฟ
ดูเหมือนพวกมันเตรียมจะเข้าจู่โจมลู่ฝาน
แน่นอนว่าลู่ฝานย่อมไม่นิ่งดูดายให้เกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น แม้เขาจะไม่รู้ว่าพลังของภูตผีปีศาจเหล่านี้จะเป็นเช่นไร แต่คิดดูแล้วน่าจะไม่แตกต่างจากวานรไฟฝูงนั้นสักเท่าไร
และดูจากมุมมองของความสามารถในการพูดภาษามนุษย์ได้ อาจจะเลวร้ายยิ่งกว่านั้นอีกก็เป็นได้
ลู่ฝานเหยียดมือออกแล้วเอามือกดลงไปทันที
ปลดปล่อยปราณชี่ โลกหายไป
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เซียนบู๊ ทะลวงชั้นฟ้า
ปู่เชี่ยไรเรียกหลานตัวเองว่านาย นิยายย้อนยุคมึงแปลซะ ทันสมัยเลย ไอ้เวร...
ช่องทางซื้ออ่านก็ไม่มี...
2276จบค้างเลยมาต่อเร็วๆนะ...
รออ่าน2277...
เสียดายมาก อ่านมาถึงหน้า 2276 มา2รอบแล้ว กำลังสนุกเลย ช่วยแปลตาอให้หน่อยนะครับ...
ถ้าไม่แปลต่อเรื่องต่อไปก็คงเหมือนเรื่องนี้หรือเปล่าครับไม่จบสักเรื่อง...
เปลี่ยนชื่อเว็บไซต์อีกครั้งเป็นครั้งที่3นับแต่ได้เข้ามาอ่าน สัญญานของการไปต่อ...
พยายามชำระเงินจากทั่ให้บนprofile จำนวน$4.99 แต่ไม่สำเร็จ ทดลองจ่ายเงินซื้อสินค้าออนไลน์ก็ผ่าน ซึ่งแสดงว่าcardไม่มีปัญหา บอกได้ไหมว่ามีปัญหาที่ไหน หรือว่ายังไม่ได้แปลเพิ่ม จึงยังไม่ต้องจ่าย มีข้อสงสัยมากมาย ชี้แจงสักหน่อยได้ไหม...
รอจนหมดหวัง...
อ่านถึง2276ครบ2รอบแล้วครับ ไม่แปลต่อแล้วเหรอ...