เซียนบู๊ ทะลวงชั้นฟ้า นิยาย บท 2182

ลู่ฝานไม่รู้ว่าควรจะเรียกเจ้ามังกรตัวนี้ว่าอย่างไรดี

หากเรียกเป็นแค่มังกรไฟ ก็ดูจะไม่ถูกต้องสักเท่าไรนัก

ดูจากกลิ่นอายของมัน มังกรเพลิงเกล็ดลาวาและดวงตาดุจดั่งดวงอาทิตย์ร้อนแผดเผาตัวนี้ดูจะแข็งแกร่งกว่ามังกรตัวอื่นไม่รู้กี่เท่า

เป็นมังกรเพียงหนึ่งเดียวที่แข็งแกร่งที่สุดเท่าที่ลู่ฝานเคยเห็นจนถึงวันนี้

ลู่ฝานถึงขั้นรู้สึกว่า ต่อให้เป็นวานรปีศาจสวรรค์ตัวนั้นที่เฟิงเทียนเลี้ยงไว้ ก็ไม่จำเป็นที่จะต้องแข็งแกร่งเหมือนมังกรตัวนี้

ดูเกล็ดมังกรแต่ละแผ่นคล้ายกับจะมีพลังอันไร้ขีดจำกัดซ่อนแฝงอยู่

ลู่ฝานไม่รู้ว่ามังกรตัวนี้ควบรวมโลกใบเล็กของตัวเองหรือยัง แต่ดูจากระดับความเข้มข้นของพลังแห่งเต๋า ต่อให้เป็นขุนพลังสุดเหนือฟ้า ก็ยังเกรงว่าจะไม่สามารถเปรียบเทียบกับมันได้เลย

ปฏิกิริยาแรกเมื่อได้เห็นสัตว์ร้ายที่น่าสะพรึงกลัวเช่นนี้ก็ควรจะเป็นการหันหลังกลับและรีบวิ่งหนี

แต่ลู่ฝานไม่ได้ทำอย่างนั้น เหตุผลก็ง่ายนิดเดียว

เพราะมังกรตัวนี้ดูแล้วน่าจะเคลื่อนไหวไม่ได้ไงล่ะ!

กระบี่เล่มใหญ่แทงทะลุร่างกายของมังกรเพลิงคล้ายกับเสาหิน

จากบนลงล่างดูเหมือนเป็นการจัดตำแหน่งในรูปแบบค่ายกล มังกรเพลิงถูกกระบี่ตอกอยู่บนหินผาที่เต็มไปด้วยอักษรรูนที่ใช้สำหรับการจัดวางค่ายกล

เลือดของมันยังคงไหล ลู่ฝานเพิ่งจะเห็นว่า เปลวเพลิงที่เขามองเห็นทั้งหมดเมื่อสักครู่ที่จริงแล้วก็คือเลือดของมังกรเพลิงตัวนี้

ไม่น่าแปลกใจว่าทำไมพลังเต๋าถึงได้หนาแน่นขนาดนี้ และยังได้กลิ่นคาวเลือดอีกด้วย

แต่ดูจากสภาพของกระบี่ยาวเล่มนั้นที่ถูกกัดกร่อนด้วยเลือด มังกรตัวนี้น่าจะอยู่ที่นี่มาเป็นเวลานานแล้ว

สิบปี ยี่สิบปี หรือจะเป็นร้อยปีก็เป็นไปได้

เป็นเรื่องมหัศจรรย์จริง ๆ ที่มังกรปล่อยเลือดออกมาได้นานขนาดนี้โดยที่ยังไม่ตาย

“มนุษย์ ที่นี่ไม่ใช่ที่ ๆ นายควรจะมา ฉันให้เวลาสิบลมหายใจ รีบออกไปซะ ไม่เช่นนั้นนายจะต้องตายโดยไร้ที่กลบฝัง”

มังกรเพลิงเอ่ยด้วยน้ำเสียงที่ดูมีอายุมาก

การที่มังกรอาวุโสสามารถพูดภาษามนุษย์ได้ ก็ยืนยันได้ว่าอย่างน้อยมันมีชีวิตอยู่มานานหลายร้อยปีแล้ว

สัตว์ร้ายอยากจะพูดภาษามนุษย์ มีทางเดียวก็คือเลียนแบบมนุษย์ โดยการเรียนรู้การออกเสียงอย่างมนุษย์ รวมไปถึงเรียนรู้ภาษาของมนุษย์

หากไม่ได้สะสมประสบการณ์มาเป็นเวลาหลายปีก็จะไม่สามารถทำได้อย่างแน่นอน ไม่ใช่ว่าพลังไปถึงระดับไหนก็จะสามารถเรียนรู้จนนำไปใช้ได้ ได้แต่บอกว่า สัตว์ร้ายที่ยิ่งแข็งแกร่งเท่าไร ก็จะยิ่งเข้าถึงมนุษย์ได้มากขึ้น แนวโน้มที่จะสามารถเรียนรู้จนใช้งานได้จริงก็มีมากกว่า

เช่น เจ้าดำ ในบรรดาสัตว์ร้ายทั้งหลาย ตอนนี้พละกำลังของเจ้าดำก็ไม่อาจจะนับว่าอ่อนแอได้แล้ว แต่หากจะต้องให้มันเรียนรู้ภาษามนุษย์ เกรงว่าภาระยังคงหนักหน่วงและหนทางยังอีกยาวไกล

ลู่ฝานมองมังกรตัวนี้อย่างนิ่งสงบ จากนั้นจึงหัวเราะพลางเอ่ยขึ้นมา “แกอยู่ในสภาพเช่นนี้ ยังคิดจะข่มขู่ฉันงั้นเหรอ?”

ทันใดนั้น ดวงตาของมังกรเพลิงพลันเปล่งแสงจ้าออกมาสองสาย

ลู่ฝานยังไม่ทันได้ตั้งตัว แสงสว่างทั้งสองก็กวาดล้างพื้นที่ทั้งสองด้านของเขาอย่างรุนแรง กลายเป็นพลังหุ้นตุ้นสองกลุ่มที่กำลังไหลเวียนอย่างต่อเนื่อง

ลู่ฝานไม่กล้าเคลื่อนไหว เพราะเขารู้สึกได้ว่า แค่เขาขยับตัวเล็กน้อย ก็จะถูกพลังหุ้นตุ้นหอบเขาเข้าไปในนั้นด้วย

มังกรตัวนี้น่าจะบรรลุการสร้างพลังหุ้นตุ้นขั้นสูงสุดแล้ว

หากแสงนั้นมากระทบกับร่างของลู่ฝาน ลู่ฝานก็ไม่รู้ตัวเองจะกลายเป็นเช่นไร

แน่นอนว่าไม่ตายหรอก แม้ไม่อาจจะใช้เต๋าแห่งชีวิตมาคุ้มครองร่างกายได้ ทว่าก็ยากที่จะฆ่ามันให้ตายได้ แต่ก็คงจะได้รับบาดเจ็บอยู่บ้าง!

สีหน้าของลู่ฝานเริ่มเคร่งขรึมอย่างถึงที่สุด แม้มังกรตัวนี้จะถูกตรึงให้อยู่กับที่ แต่ก็ยังมีพลังมากมายขนาดนี้

มังกรเพลิงเอ่ยต่อ “นายยังมีเวลาอีกห้าลมหายใจ อยู่ต่อหน้าบรรพบุรุษมังกรเพลิงอย่างฉันอย่าได้คิดว่าจะรอดพ้นออกไปได้ ด้วยความสามารถของนายมีแต่จะต้องตายเท่านั้น ไอ้มนุษย์หน้าโง่!”

ลู่ฝานคิ้วขมวด บรรพบุรุษมังกรเพลิง มังกรตัวนี้กล้าเรียกตัวเองเป็นบรรพบุรุษ ไม่ธรรมดา!

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เซียนบู๊ ทะลวงชั้นฟ้า