เซียนบู๊ ทะลวงชั้นฟ้า นิยาย บท 2244

ความอยากรู้ทำให้ผู้อาวุโสใหญ่และคนอื่นรีบไปด้านหน้า ความเร็วของเรือด้านล่างตัวก็เร็วขึ้นหนึ่งเท่าด้วย

ยิ่งเป็นผู้แข็งแกร่ง ก็ยิ่งอยากรู้ในสิ่งที่ตัวเองไม่รู้ เพราะความอยากรู้ทุกอย่างของพวกเขาบวกกับความไม่รู้จักพอ ทำให้พวกเขาพุ่งไปด้านหน้าเรื่อยๆ

ตาลู่ฝานเป็นประกาย อสูรหุ้นตุ้นพวกนี้ ดูแค่พลังก็รู้ว่าแข็งแกร่งมาก ลู่ฝานอยากรู้จริงๆ ว่าอะไรทำให้พวกมันหนีหัวซุกหัวซุนแบบนี้ได้

ถ้าก่อนหน้านี้การที่ลู่ฝานไปเขตแห่งความยุ่งเหยิงกับพวกผู้อาวุโสใหญ่ ทำให้ลู่ฝานคลางแคลงใจเล็กน้อย งั้นตอนนี้พวกผู้อาวุโสใหญ่ไม่ต้องพาเขาไป เขาก็จะไปดูให้ได้ว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่

ระหว่างที่พุ่งไปด้านหน้าอย่างรวดเร็ว ผู้อาวุโสใหญ่กับไอ้บอดหลัวรวมพลังสุดแกร่งของตัวเองไว้นอกตัว เตรียมสู้ทุกเมื่อ ป้องกันเอาไว้ก่อน

แม้สัตว์ศักดิ์สิทธิ์พวกนั้นจะวิ่งไปจนไม่เห็นเงาแล้ว แต่ผู้อาวุโสใหญ่กับไอ้บอดหลัวไม่กล้าประมาทเลย สีหน้าของทั้งสองคนเคร่งขรึมมาก

ตอนนี้ลู่ฝานเห็นอย่างชัดเจนว่าพลังของทั้งสองคนอยู่ในระดับไหน

พลังที่ปกคลุมรอบตัวผู้อาวุโสใหญ่คือพลังแห่งโลกแน่นอน ชัดเจนมาก แยกทุกอย่างรอบตัวออกจากกัน

หมายความว่าวิทยายุทธที่แท้จริงของผู้อาวุโสใหญ่ คือยอดผู้แข็งแกร่งที่สามารถปล่อยพลังแห่งโลกออกมานอกตัวได้

ถ้าแบ่งตามระบบดั้งเดิม เขาเป็นคนที่เข้าสู่ระดับสูงสุดตอนปลายแล้ว

อาจด้อยกว่าเฟิงเทียนที่เกือบจะเป็นเทพเล็กน้อย

วิทยายุทธระดับนี้ ไม่สามารถกวาดล้างใต้หล้าได้ แต่อย่างน้อยก็สามารถครองอาณาเขตใดอาณาเขตหนึ่งได้สบายๆ

เหลือเชื่อจริงๆ ผู้อาวุโสใหญ่มีพลังแข็งแกร่งขนาดนี้ แต่ไม่คิดออกไปทำเรื่องใหญ่อะไรเลย

อย่างเช่นกลืนกินใต้หล้า กวาดล้างฟ้าดินเหมือนเฟิงเทียน

อย่างเช่นจักรพรรดิอู่ในตอนนั้น บุกเบิกดินแดน สร้างประเทศ แต่งตั้งขุนนาง เป็นกษัตริย์แห่งยุค

ผู้อาวุโสใหญ่อยู่มานานขนาดนี้ นิพพานเกิดใหม่มาตั้งหลายครั้ง แต่กลับไม่เคยทำแบบนี้เลย

ไม่รู้ว่าผู้อาวุโสใหญ่ละทางโลกจริงๆ หรือมีเหตุผลอื่นกันแน่

พอหันกลับมามองไอ้บอดหลัว ลู่ฝานยิ่งไม่เข้าใจกว่าเดิม

พลังบนตัวไอ้บอดหลัวไม่ใช่พลังแห่งโลก แล้วก็ไม่ใช่พลังฟ้าดินหรือพลังแห่งวิถี

แสงแวววาวแปลกประหลาดเป็นชั้น เหมือนสายน้ำไหล

ลู่ฝานอยากเห็นชัดๆ เลยลองเข้าไปใกล้

เหมือนไอ้บอดหลัวเห็นการกระทำของลู่ฝาน เขาหัวเราะแล้วพูดว่า “ไม่ต้องดูแล้ว นี่คือพลังวิญญาณของฉัน แต่วิญญาณของฉันไม่เหมือนคนอื่น ไม่สามารถรวมตัวเป็นรูปร่างได้ เลยอยู่ได้แค่แบบนี้เท่านั้น”

ลู่ฝานอึ้งเล็กน้อย นี่คือพลังวิญญาณเหรอ?

ไหนบอกว่าพลังวิญญาณยิ่งรวมตัวเป็นรูปร่างยิ่งดีไม่ใช่เหรอ ทำไมพลังวิญญาณของไอ้บอดหลัวถึงไม่เหมือนคนอื่นล่ะ

ลู่ฝานยังไม่ทันถาม เหมือนไอ้บอดหลัวดูออกทุกอย่าง เขาอธิบายขึ้นมาเองว่า “วิญญาณฉันบกพร่องตั้งแต่เกิด ป่วยออดๆ แอดๆ ตั้งแต่เด็ก อีกทั้งตาบอดทั้งสองข้าง ต่อมามีโอกาสและโชคชะตาครั้งหนึ่ง ทำให้ฉันได้บำเพ็ญวิชาใจกระจ่างที่ผู้อาวุโสท่านหนึ่งหลงเหลือไว้ ทำให้ฉันมาอยู่บนเส้นทางการฝึกฝน ต่อมาฉันย้ายไปอยู่หลายที่ ฝึกฝนวิชามากมาย ทำให้ประสบความสำเร็จอย่างทุกวันนี้ ข้อบกพร่องของวิญญาณก็ถูกเปลี่ยนให้เป็นวิญญาณรินไหล ในเมื่อไม่สามารถรวมเป็นรูปร่างได้ ก็ตัดสินใจปล่อยมันซะ ตอนนี้ไม่มีที่ไหนในใต้หล้าที่ฉันมองไม่เห็น”

เหมือนผู้อาวุโสใหญ่ที่อยู่ข้างๆ หยุดไม่ได้แล้ว เขาพูดขัดไอ้บอดหลัวว่า “ไม่โม้นายจะตายไหม พลังที่นายได้มา เป็นเพราะผู้อาวุโสฉานหลิงเห็นนายน่าสงสาร เลยถ่ายทอดวิทยายุทธทั้งชีวิตให้นายก่อนเขาตาย ผลปรากฏว่าวิญญาณบกพร่องของนายทำให้พลังไหลออกไปกว่าแปดสิบเก้าสิบเปอร์เซ็นต์ การถ่ายทอดของขุนพลังสุดเหนือฟ้าอันล้ำเลิศ แต่นายทะลุระดับถึงแค่ปรมาจารย์บำเพ็ญชี่ นายอายไหมล่ะ! จากนั้นก็หนีไปขโมยวิชาของผู้ฝึกชั่วร้าย เกือบโดนกระทืบตาย ฝึกมาหลายปีขนาดนี้ เพิ่งประสบความสำเร็จแค่นี้ ยังมีหน้าโม้ไปทั่ว ถ้าฉันเป็นนาย ตื่นรู้สักหน่อย ไม่ต้องนิพพาน แต่ฝึกฝนตลอดเวลา ฉันคงเป็นเทพไปนานแล้ว!”

ไอ้บอดหลัวไม่โกรธ เขายิ้มตาหยีแล้วพูดว่า

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เซียนบู๊ ทะลวงชั้นฟ้า