เซียนบู๊ ทะลวงชั้นฟ้า นิยาย บท 2252

ลู่ฝานตกลงมาอย่างช้า ๆ ในที่สุดผู้อาวุโสใหญ่และไอ้บอดหลัวก็ฉุดขาดจากกันและท้ายสุดเป็นไอ้บอดหลัวที่ชนะไป

ฝ่ามือที่มีพลังวิญญาณนั้นช่างแข็งแกร่งและดุดัน ไอ้บอดหลัวจึงได้ทำให้ผู้อาวุโสใหญ่นั้นถึงกับสงบลง

ในขณะที่พ่นน้ำลาย ไอ้บอดหลัวก็กล่าวว่า

“ตี! ตี! ตี! ตี! นายนี่รู้จักแต่การโจมตี หุยหยุนนั่นตายไปแล้วตั้งไม่รู้กี่ปี นายระเบิดอารมณ์ตอนนี้มันจะไปมีประโยชน์อะไรกัน! ของดีๆในตำหนักนี้มีอะไรบ้างก็ยังไม่รู้ นายเองก็ไม่รู้ว่าเทพบู๊เสินเซียวอาจจะทิ้งบางสิ่งไว้ที่นี่ รู้เพียงแต่ว่าจะรื้อถอนมัน รอให้พวกเราหาจนทั่วแล้ว นายค่อยจัดการรื้อถอนตามใจชอบได้หรือไม่? ไอ้คนเขลา!”

เหลียงหลงเพ่งมองไปที่ไอ้บอดหลัวก่อนกล่าวว่า “นายปล่อยมือฉันซะ เก็บพลังวิญญาณนั่นกลับไป อย่าคิดว่าได้ทำให้ฉันใจเย็นแล้ว ฉันจะเชื่อฟังทุกสิ่งที่นายพูด”

ไอ้บอดหลัวกล่าวตอบ “ไม่สำคัญว่านายจะเชื่อฟังฉันหรือไม่ นายอยากรื้อถอนมันมากใช่ไหม เช่นนั้นฉันขอเวลาเพียงหนึ่งก้านธูปเท่านั้นได้หรือไม่”

ลูกตาของผู้อาวุโสใหญ่เหลียงหลงหรี่สูง ทว่า ท้ายที่สุดก็เอ่ยออกมาอย่างจนปัญญาว่า

“ได้ ฉันให้เวลานายหนึ่งก้านธูป”

พูดจบเหลียงหลงก็เก็บอาวุธลงไป

ไอ้บอดหลัวก็ชักมือของตนเก็บลงไป หันไปเอ่ยกับลู่ฝานว่า “เจ้าสำนักลู่ ไปกันเถอะ ถึงเวลาที่เราจะเข้าไปหาของแล้ว”

ลู่ฝานเอ่ยถาม “นายเพิ่งพูดว่าสิ่งที่กําลังมองหาถูกทิ้งไว้โดยเทพบู๊เสินเซียว เท่าที่ฉันเข้าใจ ก็คือหินแหล่งกำเนิดในเวลานั้นใช่หรือเปล่า”

ไอ้บอดหลัวตอบว่า “ใช่ เจ้าสำนักลู่ คุณเดาไม่ผิด มันคือหินแหล่งกำเนิด”

ลู่ฝานกำมือทั้งสองข้างก่อนเอ่ยว่า “ถ้างั้นฉันขอถามหน่อย ของสิ่งนี้ ทำไมจึงจำเป็นนักที่ต้องตามหามันกลับมา”

“เพราะว่า ฉันจำเป็นต้องใช้มัน!”

ผู้อาวุโสใหญ่เองก็ชักทนไม่ไหว จนร้องคำรามออกมาเสียงดัง

ไอ้บอดหลัวอึ้งไปครู่หนึ่ง แล้วถอนหายใจพูดว่า “เหลียงหลงเอ๋ย นิพพานของท่านในครั้งนี้ เกรงว่าคงเกิดอารมณ์ระเบิดจริง ๆ! สมองเองก็เกือบจะถูกเผาด้วยความโกรธแล้ว”

ผู้อาวุโสใหญ่สูดลมหายใจลึก ก่อนจะเอ่ยกับลู่ฝานว่า “เจ้าสำนักลู่ ขอร้องให้คุณช่วยฉันหนึ่งสิ่ง หามันให้เจอได้หรือไม่?”

ลู่ฝานมองไปที่ผู้อาวุโสใหญ่ สลับกับมองไปที่ไอ้บอดหลัว หัวเราะเบาๆ พร้อมเอ่ยว่า “ฉันแค่ถามออกมาลอย ๆเท่านั้นเอง สองผู้อาวุโสอย่าตื่นเต้นนัก ผู้อาวุโสหลัวไปกันเถอะ ฉันชักอยากเห็นว่า สิ่งที่เรียกว่าตำหนักเทวทูต มันเป็นยังไงกันแน่”

พูดจบ ลู่ฝานก็เหาะไปข้างหน้า

ไอ้บอดหลัวมองไปที่ผู้อาวุโสใหญ่ก่อนเอ่ยว่า “ทางที่ดีนายอย่าพูดอะไรอีกดีกว่า สมองนายตอนนี้ดูท่าจะยังไม่ได้สติดีนัก”

ผู้อาวุโสใหญ่เองก็ไม่ได้เอื้อนเอ่ยอะไรออกมา เพียงมองไปที่ไอ้บอดหลัวพร้อมพึมพำ “สมองนายน่ะสิที่ไม่ได้สติ”

ไอ้บอดหลัวเดินไปหยุดอยู่หน้าผู้อาวุโสใหญ่ก่อนกล่าวว่า “ใช่หรือ เช่นนั้นนายบอกฉันมา ว่าทำไมนายถึงได้ตื่นเต้นนัก ไอ้หุยหยุนนั่นทำอะไรไว้กับนาย นายจำได้หรือไม่ มู่หลินชื่อนี้ นายยังพอจะนึกออกหรือไม่?”

ผู้อาวุโสใหญ่ตกตะลึง ทุกส่วนของเขาเหมือนกลายเป็นหิน

เป็นเวลาพักใหญ่ จวบจนริมฝีปากของผู้อาวุโสใหญ่เอ่ยอย่างสั่นเทา “ฉัน...ฉันคิดไม่ออก บ้าจริง ฉันลืมสิ่งเหล่านี้ไปหมดแล้ว!”

ผู้อาวุโสใหญ่ทุกข์ใจอย่างเห็นได้ชัด ไอ้บอดหลัววางฝ่ามือบนไหล่ของเขาอีกครั้งและปลอบประโลมเขาด้วยพลังวิญญาณของตนเอง

“เฮ้อ นี่มันเป็นความทุกข์ที่พวกเราต้องยอมรับน่ะสิ เหลียงหลง มาเถอะ ไม่แน่ว่าวันนี้พวกเราอาจจะจบสิ้นกันทั้งหมดก็ได้ ไปพาเจ้านายกลับมากัน!”

ผู้อาวุโสใหญ่พยักหน้ารับ เดินตามไอ้บอดหลัวเข้าไปในตำหนัก

ในเวลานี้ ลู่ฝานนั้นได้เข้าไปภายในตัวตำหนักแล้ว

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เซียนบู๊ ทะลวงชั้นฟ้า