สรุปตอน บทที่ 2254 พบพาน(1) – จากเรื่อง เซียนบู๊ ทะลวงชั้นฟ้า โดย โอหยางวิ่น
ตอน บทที่ 2254 พบพาน(1) ของนิยายใช้ชีวิตเรื่องดัง เซียนบู๊ ทะลวงชั้นฟ้า โดยนักเขียน โอหยางวิ่น เต็มไปด้วยจุดเปลี่ยนสำคัญในเรื่องราว ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยปม ตัวละครตัดสินใจครั้งสำคัญ หรือฉากที่ชวนให้ลุ้นระทึก เหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้อ่านที่ติดตามเนื้อหาอย่างต่อเนื่อง
ลู่ฝานมุ่งตัวออกไปอย่างบ้าคลั่ง ปล่อยให้ปราณชี่ของตัวเองผลักดันพลังทั้งหมดที่อยู่รอบๆออกไป และออกไปจากตำหนักนี้ด้วยความเร็วที่เร็วที่สุด
ไม่ใช่ว่าเขาไม่อยากเห็นชัดเจนว่าสี่สัตว์อสูรดุร้ายนั้นแข็งแกร่งแค่ไหน แต่เขารู้ว่าเขายังมีสิ่งที่สำคัญกว่าที่ต้องทำ
หลังจากมุ่งไปอย่างบ้าคลั่งตลอดทาง และออกจากตำหนักมาได้แล้ว
ลู่ฝานก็พุ่งตรงไปที่ศูนย์กลางของเขตแห่งความยุ่งเหยิงทันที
ระหว่างทาง ลู่ฝานได้เห็นตำหนักนับไม่ถ้วนและเขาก็เก็บกวาดเสียจนราบเป็นหน้ากลอง ทั้งยังมีอาคารหลายร้อยหลังที่เป็นลักษณะเช่นเดียวกับตำหนักของทูตแห่งเทพหุยหยุน
กล่าวคือ ในสมัยโบราณ จำนวนทูตแห่งเทพนั้น คงมีมากเป็นร้อยเป็นพันแน่นอน
ถ้าพลังของทูตแห่งเทพทุกองค์อยู่เหนือขีดจำกัด เช่นนั้นพลังนี้ ก็คงแข็งแกร่งจนไร้ที่สิ้นสุดเช่นกัน
ฉะนั้นการจะรวมโลกเป็นหนึ่งเดียว ก็คงเป็นที่แน่ชัดว่าไม่ใช่เรื่องยาก
ลู่ฝานเหาะตรงไปข้างหน้า เป้าหมายของเขาแน่วแน่มาก เพราะเขารู้สึกชัดเจนว่ามีพลังบางอย่างกำลังเรียกหาเขา
นั่นคือพลังของบ้านิรนาม มีความเป็นไปได้มาก จากหินแหล่งกำเนิดที่เทพบู๊เสินเซียวทิ้งไว้ในตอนแรก
เขาจงใจกีดกันผู้อาวุโสใหญ่และไอ้บอดหลัวมาเอง ทั้งนี้ก็เพื่อความปลอดภัยของตนเอง
จากสถานการณ์ที่เขาเข้าใจ ผู้อาวุโสใหญ่กับไอ้บอดหลัวนั้นคงไม่ได้มีเจตนาดีแน่นอน
ถ้าไอ้บอดหลัวมาพร้อมกันกับผู้อาวุโสใหญ่แล้วนั้น ชีวิตของเขาคงไม่พ้นมีเหตุภยันตราย
สถานการณ์ที่ดีที่สุด แน่นอนว่าต้องเป็นเช่นนี้ เขาจึงมาด้วยตนเอง
ส่วนการต่อสู้ของสี่สัตว์อสูรกับผู้อาวุโสใหญ่และคนอื่นนั้น ลู่ฝานประเมินได้ว่า ส่วนใหญ่คงเป็นการต่อสู้ครึ่งต่อครึ่ง
อย่างไรก็ตาม การที่ผู้อาวุโสใหญ่และไอ้บอดหลัวจะถูกสี่สัตว์อสูรตัวฆ่าตาย เรื่องแบบนี้ก็แทบจะเป็นไปไม่ได้อยู่แล้ว
ผู้ที่บรรลุถึงระดับนี้เช่นพวกเขา ความสามารถในการรักษาชีวิตนั้น บางคราก็ยังแข็งแกร่งกว่าวิทยายุทธของพวกเขาเป็นหลายเท่า
การเอาชนะพวกเขานั้น ยังคงมีความเป็นไปได้ แต่หากบอกว่าจะฆ่าพวกเขา เกรงว่าจะยากกว่าสิบเท่า
ลู่ฝานไม่มีเวลาไปสนใจการต่อสู้ของพวกเขา นี่เป็นโอกาสที่ดีที่สุดของเขา โอกาสที่สวรรค์ประทานให้
ทันทีที่ถูกโจมตี ลู่ฝานก็คิดได้ว่านี่เป็นโอกาสดีที่เขาจะหาทางปลีกตัวออกมาเองได้
ดังนั้น ลู่ฝานจึงเหาะไปข้างหน้าอย่างรวดเร็ว
ร่างกายเดินผ่านปราณแห่งหุ้นตุ้นไปราวกับเป็นเพียงแม่น้ำ ลู่ฝานนั้นเปรียบดังแสงสว่างที่พุ่งผ่านออกไปอย่างรวดเร็ว
“ใกล้ถึงแล้ว ใกล้ถึงแล้ว!”
ด้านหลังมีตำหนักหลังหนึ่งที่อยู่ห่างไกลออกไป
ตำหนักที่ดูหรูหราและโอ่อ่านั้นไม่ใช่เป้าหมายที่เขากําลังมองหา
ลู่ฝานเหาะไปยังสถานที่ตามความรู้สึกสุดท้ายเท่านั้น ในเวลานี้ เขาไม่จำเป็นต้องจดจำเส้นทางเลย เพียงอาศัยความรู้สึกทางกายนำทางไปก็แม่นยำแล้ว
ไม่รู้ว่าเหาะเหินมานานเท่าไหร่แล้ว ลู่ฝานก็พลันเห็นสิ่งที่เหมือนม่านแสงปรากฏขึ้นที่ปลายสายตา
ข้างในมีพลังสีเงินไหลเวียนอยู่ ทว่าลู่ฝานกลับไม่ได้คิดอะไรมาก
ส่วนศีรษะพุ่งตรงเข้าไป เพราะร่างกายของเขาบอกเขาว่า พลังเหล่านี้ไม่สามารถทำร้ายเขาได้เลย
ตามที่คาดไว้ ในช่วงเวลาที่เจาะม่านแสงนี้ ลู่ฝานรู้สึกถึงพลังการกัดกร่อนที่แข็งแกร่งและกําลังโจมตีร่างกายของเขา ดูเหมือนมันอยากจะหลอมเขาให้เหลวละลาย
พลังบ้านิรนามผุดขึ้นมาเองอีกครั้ง คาดไม่ถึงว่ามันจะกระจายพลังที่อยู่ในม่านแสงนี้ออกไป
เพล้ง!
ลู่ฝานได้ยินเสียงม่านแสงแตก
กลับเป็นเพียงเจ้ารูปปั้นหินที่เพิ่งลงมือกับเขาเหล่านั้น พอพวกมันเห็นเขาทีละตัว ก็พากันถอยกรูกลับไป
ลู่ฝานเดินไปข้างหน้าเรื่อย ๆ มองไปที่รูปปั้นหินเหล่านี้ พร้อมหัวเราะเบา ๆ และพูดว่า
“ดูเหมือนว่าฉันไม่ได้กลัวพวกมัน แต่เป็นพวกมันที่กลัวฉันนะ”
เจดีย์เสวียนเก้ามังกรเอ่ยว่า “เจ้านายผู้ยิ่งใหญ่ ที่พวกเขาเกรงกลัวก็คือกลัวพลังในตัวท่าน ฉันพอรู้แล้วว่ารูปปั้นหินเหล่านี้คืออะไร ทูตแห่งเทพ ตัวแทนของเทพเจ้า ผู้เดินดินในใต้หล้า หลังจากพวกมันตาย วิญญาณควรกลับไปสู่อ้อมกอดของเทพวิญญาณ แต่เทพวิญญาณดันตายจากเสียหมด ดังนั้นพวกเขาจึงต้องกลับมาที่นี่ หรือไม่ก็ล่องลอยไปมาช้าๆ หรือไม่ก็กลายเป็นหุ่นเชิดของรูปปั้นหินเช่นนี้”
ลู่ฝานยิ้มและเอ่ย “ดูเหมือนว่าบ้านิรนามในเวลานั้น คงทำให้พวกเขากลัวหัวหดจริง ๆ พวกทูตแห่งเทพเหล่านี้ หยิ่งผยองได้ไม่กี่ปี สุดท้ายก็มาถึงจุดนี้ ที่ทำได้เพียงทำให้คนถอนหายใจใส่เท่านั้น”
เจดีย์เสวียนเก้ามังกรเอ่ยต่อ “เจ้านายผู้ยิ่งใหญ่ ท่านสามารถค้นหารอบ ๆได้ ฉันรู้สึกได้ว่ามีคนรู้จักเก่ามากมายที่นี่ มันน่าจะเป็นสรรพสิ่งโบราณทั้งหมด หากพวกเขายังมีชีวิตอยู่ ท่านยังสามารถได้ความช่วยเหลืออีกมาก แต่หากพวกเขาตายไปแล้ว......”
ลู่ฝานยิ้มแล้วเอ่ยว่า “ถ้าตายแล้ว ก็ให้แกกลืนกินได้หรือ”
เจดีย์เสวียนเก้ามังกรหัวเราะเป็นเสียง เฮ่ เฮ่ ไอ้เสียงหัวเราะหยาบคายผิดปกตินี่ มันชักจะเหมือนมนุษย์มากไปทุกทีแล้ว
ทางเดินลึกตรงหน้า ดูเหมือนไม่มีที่สิ้นสุด ลู่ฝานเดินไปเป็นเวลานาน แต่ยังคงไม่พบเห็นอะไรเลย
แต่ในขณะเดียวกัน หลิงเหยาที่กําลังเดินออกไปข้างนอกก็ได้ยินเสียงฝีเท้าที่ชัดเจนจากระยะไกล
หลิงเหยาหยุดเดินทันที พลันสีหน้าประหลาดใจปรากฎชัดเจน
ใครกันจะมาถึงที่แห่งนี้ได้?
หรือว่า ใต้หล้านี้ยังมีทูตแห่งเทพที่ตื่นขึ้นมาได้เหมือนเธออีก?
ทันทีที่หันกลับ หลิงเหยาก็วิ่งกลับไปทันที คราวนี้ฝีเท้าของเธอเร่งไวขึ้น รีบวิ่งกลับไปที่ม่านแสงอย่างรวดเร็วและพูดต่อใบหน้าคนว่า “เป็นใครกันที่มาถึง?”
ใบหน้าคนนั้นหายไปและร่างของลู่ฝานก็ค่อย ๆ ปรากฏขึ้นในม่านแสง
หลิงเหยาตกใจจนหน้าซีด ชี้ไปที่ลู่ฝานที่อยู่ในม่านแสง “เขาเข้ามาได้อย่างไร? ทำไมเขาถึงเข้ามาได้ล่ะ?”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เซียนบู๊ ทะลวงชั้นฟ้า
อ่านถึง 2276 แล้ว อยากอ่านต่อช่วยแนะนำหน่อยครับ ว่าอ่านต่อได้ทางช่องทางไหน...
รอนานมากครับเมื่อไรจะแปลต่อครับ...
มีใครรู้วิธีอ่านต่อมั้ยครับ ผมอ่านถึง2276เป็นรอบที่3แล้ว ก็ยังไม่มีต่อเลย จะหาอ่านต่อได้างช่องทางไหนบ้างครับ...
เจ้าของนิยายเนี่ยมันวิปริตหรือเปล่าวะเขียนๆอยู่แล้วก็จบแบบงงหลายเรื่องแล้ว...
ปู่เชี่ยไรเรียกหลานตัวเองว่านาย นิยายย้อนยุคมึงแปลซะ ทันสมัยเลย ไอ้เวร...
ช่องทางซื้ออ่านก็ไม่มี...
2276จบค้างเลยมาต่อเร็วๆนะ...
รออ่าน2277...
เสียดายมาก อ่านมาถึงหน้า 2276 มา2รอบแล้ว กำลังสนุกเลย ช่วยแปลตาอให้หน่อยนะครับ...
ถ้าไม่แปลต่อเรื่องต่อไปก็คงเหมือนเรื่องนี้หรือเปล่าครับไม่จบสักเรื่อง...