เซียนบู๊ ทะลวงชั้นฟ้า นิยาย บท 2256

สรุปบท บทที่ 2256 พาฉันกลับบ้านที: เซียนบู๊ ทะลวงชั้นฟ้า

บทที่ 2256 พาฉันกลับบ้านที – ตอนที่ต้องอ่านของ เซียนบู๊ ทะลวงชั้นฟ้า

ตอนนี้ของ เซียนบู๊ ทะลวงชั้นฟ้า โดย โอหยางวิ่น ถือเป็นช่วงเวลาสำคัญของนิยายใช้ชีวิตทั้งเรื่อง ด้วยบทสนทนาทรงพลัง ความสัมพันธ์ของตัวละครที่พัฒนา และเหตุการณ์ที่เปลี่ยนโทนเรื่องอย่างสิ้นเชิง บทที่ 2256 พาฉันกลับบ้านที จะทำให้คุณอยากอ่านต่อทันที

พลังวิญญาณอันน่าตกตะลึง ทำให้แสงรอบ ๆ มืดลงทันที

ราวกับมีลมพัดและปราณกระบี่

ทันใดนั้น ทุกสรรพสิ่งพลันเคลื่อนไหวช้าลงในสายตาของลู่ฝาน

นี่เป็นครั้งแรกที่เขาปล่อยพลังวิญญาณของเขาโดยไม่มีการสงวนกักไว้ แม้แต่ช่วงเวลาเก้าด่านสุดยาก ลู่ฝานก็ไม่เคยต่อสู้เช่นนี้

เมื่อพลังออกมา ดวงตาของลู่ฝานก็พลันเปลี่ยนเป็นสีขาว

หลิงเหยาไม่ทันป้องกันตัว ตัวแข็งทื่อโดนพลังวิญญาณของลู่ฝานโจมตีโดยตรง

บัดนี้ ลู่ฝานมองเห็นแม้เพียงความมืดมิด

และในความมืดที่ดูเหมือนไม่มีที่สิ้นสุดนี้ ลู่ฝานก็ปรากฏเห็นเป็นเงาสองเงา

ที่แท้เป็นหลิงเหยาสองคน!

“ลู่ฝาน! เป็นนายเองหรือลู่ฝาน?”

ในบรรดาหลิงเหยาสองคน หลิงเหยาคนด้านหลังถูกปิดกั้นด้วยแสงตะโกนเสียงดัง

เธอดูตื่นเต้นมาก และเสียงนี้ก็ทำให้ลู่ฝานรู้สึกฟังคุ้นหูเหลือเกิน

“หลิงเหยา!”

วิญญาณของลู่ฝานเกิดอาการผันผวนอย่างรุนแรง

แต่เขาไม่มีทางที่จะส่งเสียงได้ มีเพียงพลังวิญญาณที่แข็งแกร่งนั้นแพร่กระจายไปยังความมืดและรอยแตกในเต๋าก็ปรากฏขึ้น ดูเหมือนว่ามันจะทำลายทุกสรรพสิ่งที่นี่!

“เจ้ามนุษย์โง่เขลา กล้าที่จะกัดกร่อนวิญญาณของทูตแห่งเทพ!”

วิญญาณหลิงเหยาที่อยู่ข้างหน้าก็ปล่อยพลังวิญญาณที่น่ากลัวออกมา แต่พลังวิญญาณของเธอนั้นช่างแตกต่างจากพลังวิญญาณที่ลู่ฝานฝึกฝนราวฟ้ากับดิน

เพียงชั่วพริบตา พลังวิญญาณของลู่ฝานก็ถูกบีบให้ออกจากร่างกายของหลิงเหยา

ความคิดที่เขาอยากจะฆ่าวิญญาณของอีกฝ่ายด้วยวิชาดับวิญญาณ แทบไม่ต้องสงสัยเลยว่ามันเป็นไปไม่ได้แล้ว

พลังวิญญาณของหลิงเหยาเหมือนมหาสมุทรที่กว้างใหญ่ เมื่อไม่ได้ปล่อยออกมาก็แทบไม่รู้สึก แต่เมื่อปล่อยออกมาแล้วก็ทรงพลังเกินกว่าจะจินตนาการ

ในที่สุดลู่ฝานก็เข้าใจ ว่าทำไมตอนที่มีการแข่งขันนานาประเทศ หลิงเหยาจึงสามารถทำให้คนประหลาดใจได้

นั่นเป็นเพราะพลังวิญญาณของเธอ เหนือกว่าคนพวกนั้น

แค่ใช้เพียงเล็กน้อย ก็เพียงพอที่จะทำให้คนอื่นรู้สึกยากที่จะต้านทานได้

และในตอนนี้ สิ่งที่ลู่ฝานได้สัมผัสก็คือพลังวิญญาณทั้งหมดที่หลิงเหยาปล่อยออกมาอย่างเต็มที่

ในเวลานี้ พลังวิญญาณของหลิงเหยาใกล้จะรวมตัวเป็นตัวเป็นตนดังเส้นสีทองส่องแสง ปรากฏที่ด้านหลังของเธอ

เกราะสีทองเริ่มปรากฏบนร่างหลิงเหยา เกราะมาที่รวมตัวกันโดยตรงด้วยพลังวิญญาณ

บนหน้าผากเอง ก็เริ่มปรากฏลายเปลวไฟ

ราวกับอีกาทองสามขา กำลังลุกโชนอยู่ที่หว่างคิ้วของลิงเหยา

พลังวิญญาณของลู่ฝาน ถูกกดกลับเข้าสู่ร่างกายทีละเล็กทีละน้อยโดยพลังวิญญาณของหลิงเหยาที่แข็งแกร่ง

ในเวลานี้เจดีย์เสวียนเก้ามังกรก็รีบปล่อยพลังเพื่อช่วยลู่ฝานต่อต้านพลังวิญญาณที่น่ากลัวนี้

“เจ้านายผู้ยิ่งใหญ่ เป็นรอยประทับของเทพ รอยประทับของเทพในตัวเธอได้ปรากฏขึ้นแล้ว เธอใกล้จะกลับสู่สภาพที่แข็งแกร่งที่สุดเช่นในเวลานั้นแล้ว พวกเรารีบเผ่นกันเถอะ!”

ลู่ฝานกัดฟันตอบ “ห้ามจากไปไหนทั้งนั้น!”

พูดพลาง ลู่ฝานก็เหาะขึ้นอย่างช้า ๆ จ้องมองหลิงเหยาอย่างเอาเป็นเอาตาย

แม้พลังวิญญาณของเขาจะไม่ยิ่งใหญ่เท่าหลิงเหยา แต่หลิงเหยาที่ต้องการทําลายวิญญาณของเขา ก็ไม่สามารถทำได้โดยง่ายเช่นกัน

หลิงเหยามีรังสีเย็นยะเยือกบนใบหน้าและเต็มไปด้วยกลิ่นอายสังหาร

เธอจ้องมองใบหน้าของลู่ฝานเขม็งพร้อมเอ่ยว่า “ตายเสียเถอะ เจ้ามนุษย์โง่เขลา!”

กล่าวเช่นนั้น ก่อนพลังวิญญาณของหลิงเหยาจะพุ่งล้อมลู่ฝานโดยตรง และขืนตัวแทรกเข้าไปในร่างกายของลู่ฝาน

“ยืนอยู่ตรงนั้น แกหยุดยืนอยู่ตรงนั้นเลย!”

เสียงตะโกนโหวกเหวกโวยวายของหลิงเหยาดังขึ้น

ตลอดระยะเวลาที่เธอมีชีวิตอย่างตกต่ำอยู่บนโลกนี้ หรือแม้แต่ตอนที่เผชิญหน้ากับผู้กบฏต่อเทพ เธอก็ไม่ได้มีสภาพจนตรอกไร้ทางสู้เหมือนเช่นในวันนี้

ลู่ฝานจะฟังเธอตะโกนได้อย่างไร เขายังคงเดินมาหาเธอทีละก้าว ทีละก้าว

ในระยะห่างเท่านี้ ลู่ฝานมองเห็นแสงที่ซับซ้อนในสายตาของหลิงเหยาได้อย่างชัดเจนโดยผ่านสีโลหิต เขามองจากภายในดวงตาของหลิงเหยา ดูเหมือนจะเห็นพลังสองสายกำลังเผชิญหน้ากันอย่างดุเดือด

ลู่ฝานที่ตั้งใจจะสังหารด้วยคมกระบี่เดียว จู่ ๆ ก็เปลี่ยนใจ

เคร้ง!

ลู่ฝานโยนกระบี่หนักไร้คมในมือลงบนพื้น ก่อนจะยื่นมือขวาออกมา

ฝ่ามือของเขาลูบแก้มของหลิงเหยาเบา ๆ หลิงเหยาพยายามหลบสุดชีวิต แต่ก็พบว่าตนเองไม่สามารถขยับตัวได้แล้ว

ทันทีที่มือของลู่ฝานสัมผัสแก้มของหลิงเหยา เสียงกรีดร้องที่ดุเดือดของหลิงเหยาก็ถูกเปล่งออกมา ชั่วขณะนี้ ลู่ฝานราวกับเห็นว่าภายในกายของหลิงเหยามีสายพลังหนึ่งปลดทลายโซ่ตรวนได้ในที่สุด

ทันทีหลังจากนั้น พลังวิญญาณที่อยู่รอบ ๆ ก็เกิดการผันผวนโดยกะทันหัน พลันพุ่งไปรอบ ๆ อย่างต่อเนื่อง รูปปั้นที่อยู่รอบตัวก็สั่นสะเทือนจนแตกเป็นชิ้น ๆ

หลังจากนั้น สีหน้าของหลิงเหยาก็เปลี่ยนไปอย่างมาก ดวงตามีแววเปล่งประกาย

“ลู่ฝาน!”

เสียงอึกทึกครึกโครม สีหน้าตื่นเต้น ในดวงตาเปี่ยมด้วยความรักอย่างไม่มีที่สิ้นสุด

นี่สิถึงจะเป็นหลิงเหยาตัวจริง ลู่ฝานรู้สึกตื้นตันเป็นที่สุด

เขาอยากกอดหลิงเหยาไว้ แต่ก็ถูกพลังวิญญาณที่พุ่งอยู่รอบๆ โจมตีร่างกายทันที เวลานี้ลู่ฝานยืนนิ่งและไม่มีการเคลื่อนไหวใด ๆ ในร่างกายคล้ายมีเสียงระเบิดอีกครั้ง

หลิงเหยากุมมือลู่ฝานแน่นพร้อมเอ่ยว่า “พาฉันกลับบ้านที ลู่ฝาน นายต้องพาฉันกลับบ้านนะ!”

ลู่ฝานพูดอะไรไม่ออก จากนั้นสีหน้าของหลิงเหยาก็เปลี่ยนไปอีกครั้ง ฉับพลันพลังวิญญาณที่อยู่รอบ ๆ ก็วกกลับคืนมา

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เซียนบู๊ ทะลวงชั้นฟ้า