เซียนบู๊ ทะลวงชั้นฟ้า นิยาย บท 2257

สรุปบท บทที่ 2257 หินแหล่งกำเนิดนิรนาม(1): เซียนบู๊ ทะลวงชั้นฟ้า

ตอน บทที่ 2257 หินแหล่งกำเนิดนิรนาม(1) จาก เซียนบู๊ ทะลวงชั้นฟ้า – ความลับ ความรัก และการเปลี่ยนแปลง

บทที่ 2257 หินแหล่งกำเนิดนิรนาม(1) คือตอนที่เปี่ยมด้วยอารมณ์และสาระในนิยายใช้ชีวิต เซียนบู๊ ทะลวงชั้นฟ้า ที่เขียนโดย โอหยางวิ่น เรื่องราวดำเนินสู่จุดสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยใจตัวละคร การตัดสินใจที่ส่งผลต่ออนาคต หรือความลับที่ซ่อนมานาน เรียกได้ว่าเป็นตอนที่นักอ่านรอคอย

หลิงเหยาที่ถอดสีหน้าเปลี่ยนเป็นเย็นชาได้โจมตีลู่ฝานจนลอยออกไปในคราเดียว ความผิดปกติของพลังฝ่ามือนี้ คือไม่มีพลังสังหารทำลายล้างใด ๆ เลย ทำได้เพียงแค่ตีลู่ฝานตัวลอยเท่านั้น

ดูเหมือนว่าเธอจะกลัวลู่ฝานไปโดยปริยาย บีบก้อนหินในมือเองอย่างรุนแรง

ในเวลานี้ ปรากฏม่านแสงส่องขึ้นจากด้างหลังหลิงเหยา หลิงเหยาจ้องมองลู่ฝานด้วยมุ่งมั่นที่จะสังหารเป็นครั้งสุดท้าย

ทันใดนั้น เธอก็จมลงในม่านแสงนั้น หายไปในครู่ถัดไป

ในช่วงเวลาสำคัญนี้ จู่ ๆลู่ฝานก็ส่งเสียงคํารามออกมา

เขาพุ่งเหาะออกไป โดยไม่สนใจอาการบาดเจ็บบนร่างกายของตนแม้แต่น้อย

ฝ่ามือของเขาสัมผัสข้อเท้าของหลิงเหยาแล้ว อีกเพียงนิด ร่างกายของหลิงเหยาก็เกือบหายไปในม่านแสง

ลู่ฝานไม่สามารถหยุดยั้งแรงผลักดันของตัวเองได้ และได้ชนปะทะเข้ากับม่านแสงด้านหน้าอย่างรุนแรง

เพียงแค่การชนปะทะกันครั้งนี้ ใบหน้าคนของม่านแสงนั้นก็ปรากฏขึ้นและส่งเสียงครวญคราง

ทันทีหลังจากนั้น ม่านแสงกลายเป็นจุดแสงเต็มท้องฟ้า

แสงทั้งหมดรอบ ๆ มืดมิดลงทันที

ลู่ฝานลุกไม่ขึ้นไปครึ่งวัน ทำเพียงหมอบลงกับพื้น โอดครวญและด่าว่า “น่าชัง! น่าชัง! อีกเพียงนิดเดียวแท้ๆ!”

เมื่อเสียงของลู่ฝานเพิ่งเบาลง รอบ ๆ ก็สว่างขึ้นมาพร้อมกับกลุ่มแสงนับไม่ถ้วน

จากนั้นเสียงที่คุ้นเคยก็ดังขึ้น

“ใช่ คุณน่ะพลาดไปอีกเพียงนิดเดียว หลายสิ่งหลายอย่าง ก็มักพลาดไปอีกเพียงอีกนิดเดียว เจ้าสำนักลู่ คิดไม่ถึงจริง ๆ ว่าคุณจะมีความสัมพันธ์ที่อินุงตุงนังกับทูตแห่งเทพเช่นนี้”

ลู่ฝานหันไปมองอย่างช้า ๆ

สิ่งที่เข้าตาทันทีก็คือเงาของไอ้บอดหลัวและผู้อาวุโสใหญ่

ดูออกได้ว่าทั้งคู่ได้รับบาดเจ็บสาหัส ทั้งลำตัวบนล่างมีบาดแผลทั่วตัว ลมหายใจไม่มั่นคง ก้าวเดินก็ลุ่ม ๆดอน ๆ

ผู้อาวุโสใหญ่จ้องหน้าลู่ฝานและยิ้มอย่างมีความสุข

ไอ้บอดหลัวกล่าวแก่ลูฝานเสียงเย็นว่า “เจ้าสำนักลู่ คุณไม่ควรทิ้งเราไว้แล้วหอบตนเองหนีไปนะ นี่มันไม่ใช่การกระทำของผู้ยิ่งใหญ่เลย!”

ลู่ฝานบังคับให้ตัวเองนั่งลงและหอบหายใจตอบเสียงดังว่า “เมื่อเทียบกับทั้งสองคนแล้ว ฉันก็ไม่ใช่คนที่แข็งแกร่งอะไรอยู่แล้ว ยิ่งไปกว่านั้น ต่อให้ฉันอยู่ต่อก็ช่วยอะไรไม่ได้!”

ไอ้บอดหลัวส่ายหัวเล็กน้อย ส่วนผู้อาวุโสใหญ่ชี้ไปที่ใบหน้าของลู่ฝานและเอ่ยว่า “คุณเริ่มรู้ว่าเราไม่ประสงค์ดีต่อคุณตั้งแต่เมื่อไหร่ เพียงเพราะพูดคําไม่กี่ประโยคที่ฉันใช้มันไม่ค่อยเหมาะสมน่ะหรือ?”

ลู่ฝานยิ้มเฉยๆ ในเมื่อมาถึงขั้นนี้แล้ว ก็ไม่มีอะไรที่จะพูดไม่ได้

"ผู้อาวุโสใหญ่ เป็นบันทึกของคุณต่างหาก ที่เปิดเผยความคิดของคุณ ด่านที่เก้า วันที่ฉันซ่อนตัวอยู่แล้วบังเอิญวิ่งไปที่พักผ่อนของคุณ ที่นั่นฉันได้พบบันทึกนิพพานเล่มหนึ่ง!”

ผู้อาวุโสใหญ่หัวเราะเสียงดังกล่าวว่า “เดิมทีเป็นเช่นนี้เอง คุณรู้มานานแล้วว่าฉันจะทำอะไร แต่ก็ยังดั้นด้นมาถึงเขตแห่งความยุ่งเหยิงนี้ ฉันล่ะไม่รู้จริง ๆ ว่าคุณโง่หรือแค่หยิ่งผยองกันแน่”

ลู่ฝานจึงตอบกลับว่า “อาจจะทั้งสองอย่าง แต่ร่างกายของฉันมีพลังบ้านิรนามอยู่แล้ว และฉันก็ไม่สามารถวิ่งหนีไปได้ด้วย ใช่ไหมล่ะ?”

ผู้อาวุโสใหญ่ก็ตกตะลึงเมื่อได้ยิน ไอ้บอดหลัวก็ปรบมือชม “ไม่เลวนี่ คุณก็หลบไม่ได้จริง ๆนั่นแหละ ไม่ช้าเร็วก็คงจบเห่แล้ว เอาเถอะเจ้าสำนักลู่ คุณก็ช่วยเราหาหินแหล่งกำเนิดนั้นและฟื้นคืนชีพเจ้านายของเรา ส่วนฉันกับเหลียงหลงจะพยายามทุกวิถีทางเพื่อรักษาชีวิตของคุณไว้อย่างแน่นอน”

ลู่ฝานเอ่ยถาม “ค่าแลกเปลี่ยนคือกายเนื้อของฉันใช่ไหม?”

เงียบไปนาน ผู้อาวุโสใหญ่จึงตอบว่า “เวลาจะทำให้ใครคนหนึ่งกลายเป็นคนที่เขาเคยเกลียดที่สุด นี่คือความจริงที่ไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้!”

ไอ้บอดหลัวพลันโบกมือเอ่ยว่า “เจ้าสำนักลู่ หากคุณคิดเช่นนั้น เราก็ไม่มีทางเลือก”

ทั้งสองเริ่มมองหาไปรอบ ๆ ลู่ฝานพูดกับไอ้เก้าในใจว่า “เก็บมันขึ้นมาเถอะ เก็บให้หมด!”

เจดีย์เสวียนเก้ามังกรตอบกลับว่า “เจ้านายผู้ยิ่งใหญ่ ฉันยังเหลือพลังอีกไม่น้อย ถ้าเรื่องมาถึงจุดจบจริง ๆ แม้ว่าฉันจะพยายามเงียบอีกครั้ง ฉันก็จะส่งท่านออกไปให้ได้!”

ลู่ฝานถือกระบี่หนักไร้คมของตัวเองไว้ในมือและลูบเบา ๆก่อนเอ่ยว่า “เนื่องจากไม่สามารถหลีกเลี่ยงสงครามครั้งนี้ได้ ก็คงไม่มีทางเลือก โลกทั้งใบกําลังมองหาผู้แข็งแกร่งเพื่อสืบทอด ไม่คิดไม่ฝันว่าเมื่อถึงตาฉัน กลับยังต้องปิดกั้นชีวิตให้ไม่ยอมรับมัน โลกนี้ช่างยากคาดเดาจริงๆ!”

หลังจากรู้สึกตัวดีแล้ว สายตาของลู่ฝานก็มั่นคงขึ้นอีกครั้ง

เขาแอบกรอกยาเม็ดหนึ่งขวดให้ตนเอง แล้วหลังจากนั้นก็จ้องมองไอ้บอดหลัวที่เดินหามาตลอดทาง

ความรู้สึกของเขาบอกว่า ไอ้บอดหลัวเข้าใกล้มามากแล้ว

“เอ๊ะ!”

ไอ้บอดหลัวดูเหมือนจะพบบางสิ่งบางอย่าง ทันใดนั้นก็เอื้อมมือไปโบกออกและม่านแสงก็ปรากฏขึ้นอีกครั้ง

บนม่านแสง ใบหน้าคนก็ร้องอุทานว่า “พวกโง่เขลาที่บังอาจเข้ามา พวกคุณคิดจะทำ......”

เขาพูดยังไม่ทันจบคำ ไอ้บอดหลัวก็ยื่นมือออกและดึงมันออกมาจากม่านแสงในคราวเดียว!

“ที่แท้ ก็อยู่ที่นี่เองหรือ!”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เซียนบู๊ ทะลวงชั้นฟ้า