เซียนบู๊ ทะลวงชั้นฟ้า นิยาย บท 2258

ใบหน้าคนที่ลอยอยู่ ถูกปั้นกลับเป็นก้อนกลมในมือของไอ้บอดหลัวอย่างรวดเร็ว

ใบหน้าคนรู้สึกถึงพลังของไอ้บอดหลัว จึงคำรามออกมาอย่างดุเดือดว่า “พวกผู้กบฏต่อเทพน่าตาย เทวทูตปีศาจล้วนสิ้นอายุขัยกันไปหมดแล้ว ทำไมพวกคุณถึงได้ยังมีชีวิตอยู่อีก!”

ฝ่ายผู้อาวุโสใหญ่ก็เดินไปใกล้ไอ้บอดหลัวด้วย ไอ้บอดหลัวจึงสะบัดมือโยนใบหน้าคนให้ผู้อาวุโสใหญ่

ท่าทางเดียวกัน แต่แรงต่างกัน ผู้อาวุโสใหญ่บีบมันแรงขึ้น เกือบจะขยี้จนทำให้ใบหน้าคนแทบร้องโอดครวญออกมาแล้ว

ขณะที่บีบอยู่ ผู้อาวุโสใหญ่ก็เอ่ยว่า “ฉันควรเรียกแกว่าอะไรดีล่ะ ความโหยหา? ไม่สิไม่ แกน่าจะเป็นกลุ่มรวมแห่งความโหยหาที่ทูตแห่งเทพทิ้งไว้ ถ้าเช่นนั้นก็เรียกว่าความโหยหาแห่งทูตแห่งเทพก็พอแล้วล่ะ!”

ไอ้บอดหลัวและลู่ฝานเกือบจะหัวเราะเมื่อได้ยินคําพูดของผู้อาวุโสใหญ่

ใบหน้าคนก็คร่ำครวญว่า “เราไม่ได้ชื่อกลุ่มรวมทูตแห่งเทพอะไรนั่น! ช่างฟังดูค่ำครึ!”

ผู้อาวุโสไม่สนใจเสียงครวญครางของมัน บีบมันให้เป็นรูปทรงต่าง ๆ ต่อไป แล้วพูดต่อว่า “งั้นหรือ เช่นนั้นเรียกว่าความตายแห่งความโหยหาเป็นไง ตายที่แปลว่าความตาย แกคิดว่าเข้าท่าดีไหมล่ะ?”

ครั้งนี้ใบหน้าคนร้องครวญครางไม่ไหวแล้ว สีหน้าหดหู่เอ่ยว่า “เอาเถิด พวกคุณมีปัญหาอะไรก็ถามมาเถอะ เทพวิญญาณน่ะตายไปแล้ว ที่นี่เองก็เป็นแค่ซากปรักหักพังสุดท้ายของยุคเทพโบราณ หวังแต่ว่าพวกคุณจะไม่ทำลายที่นี่”

ผู้อาวุโสใหญ่หัวเราะว่า “ทำลายที่นี่? ไม่หรอก ไม่แน่นอน พวกแกยังมีทูตแห่งเทพที่ยังไม่ตายหนึ่งคนนี่ ไม่ช้าก็เร็วเธอคงกลับมา ฉันจะไม่ทำลายที่นี่ แต่ฉันจะเอามันไป และรอให้ทูตแห่งเทพนั่นมาตามหาฉันเอง จากนั้นก็จะเก็บกวาดพวกแกให้สิ้นซาก!”

ใบหน้าคนถึงกับคร่ำครวญว่า “คุณมันเป็นมารน่ารังเกียจ คุณมาจากอเวจีขุมลุกใต้พิภพแห่งชูร่า กบฏเช่นคุณจะต้องจมลงไปในธรณีหลังจากคุณตาย คุณต้องได้รับการตอบแทนอย่างสาสมแน่!”

ผู้อาวุโสใหญ่หัวเราะฮ่า ๆ และพูดว่า “แกรู้ไหม คําพูดแบบนี้ ฉันเคยได้ยินมาเป็นหมื่นครั้งแล้ว แต่ฉันก็ยังมีชีวิตอยู่ดี และมนุษย์ที่มันพูดประโยคนี้กับฉัน หรือพวกสิ่งที่มีชีวิตอยู่แบบแก ต่างก็ตายไปหมดแล้ว ต้องให้ฉันสาธยายสภาพที่น่าสังเวชในการตายของพวกมันไหม ฉันสัญญาว่าจะเล่าให้เฉพาะเจาะจงอย่างละเอียดเลยล่ะ!”

ใบหน้าคนนั้นสั่นไปหมดแล้ว ผู้อาวุโสใหญ่จึงสบโอกาสถามเสียงดังว่า “บอกมา! เทพบู๊เสินเซียวเคยมาที่นี่ใช่หรือไม่ แล้วมีใครทิ้งอะไรไว้ที่นี่บ้างไหม!”

เสียงคํารามนี้ทำเอาแสงบนใบหน้าคนสะเทือนกระจายออกไปหลายจุด

ทันใดนั้น ใบหน้าคนก็ตอบกลับว่า “มี...... หลายร้อยปีก่อน มีชายคนหนึ่ง เคยมาที่นี่ด้วย ทุกสรรพสิ่งที่นี่ไม่สามารถหยุดยั้งเขาได้ และเขาก็ได้ทิ้งหินไว้ที่นี่!”

ครั้นได้ยินถ้อยคำเหล่านั้น ผู้อาวุโสใหญ่กับไอ้บอดหลัวก็พลันตกใจ

“มันอยู่ที่ไหน?”

ไอ้บอดหลัวพุ่งเข้ามาถามเสียงดัง

ใบหน้าคนเปล่งแสงออกมา ชี้ตรงไปยังด้านหลัง ที่เป็นรูปปั้นหินที่เหลือเพียงครึ่งเดียว

ลู่ฝานก็ลุกขึ้นอย่างช้า ๆ และเงยหน้าขึ้นมองไปที่รูปปั้นหินนั้น

รูปปั้นหินนี้ไม่ค่อยเหมือนกับรูปปั้นหินอื่นจริง ๆ ดูสูงกว่า แม้ว่าจะเหลือเพียงครึ่งตัว แต่ก็สูงกว่ารูปปั้นหินอื่น ๆ เกือบสามสิบกว่าเมตร

ส่วนอีกครึ่งหนึ่งของรูปปั้นหิน ก็ล้มลงกับพื้น ลักษณะดูแตกร้าว ดูเหมือนไม่น่าจะแตกตอนที่ลู่ฝานทุบ แต่เหมือนมันจะแตกมาก่อนหน้านั้นนานมากแล้ว

เพียงแต่ว่า รอยตัดของรูปปั้นหินนั้นเรียบเกินไป ดูราวกับเป็นรูปปั้นหินที่มีความแตกต่างกันสองรูปยืนอยู่ตรงนั้น เมื่อลู่ฝานเข้ามาใกล้ ก็ไม่เห็นความผิดปกติใด ๆ ถ้าไม่ใช่เพราะใบหน้าคนชี้ให้เห็นอย่างเจาะจง เกรงว่าผู้อาวุโสใหญ่กับไอ้บอดหลัวก็ไม่พบความแตกต่างนี้เช่นกัน

ไม่นานนัก ผู้อาวุโสใหญ่กับก็มาถึงไอ้บอดหลัวส่วนใต้เท้าของรูปปั้นหิน

เมื่อมองขึ้นไป ทันใดนั้น ผู้อาวุโสใหญ่และไอ้บอดหลัวก็อยู่ภายใต้ก้าวขาของรูปปั้นหิน พลันมองเห็นก้อนหินขนาดใหญ่ก้อนหนึ่ง

กลมราวหยก ดำสนิทราวน้ำหมึก ทันทีทันใดที่เห็นหินนั่นผู้อาวุโสใหญ่กับไอ้บอดหลัวก็พลันมีอาการตื่นเต้น

ผู้อาวุโสใหญ่สะบัดมือโยนใบหน้าคนลงบนพื้น เขาและไอ้บอดหลัวต่างเหาะตรงขึ้นไป เพื่อเอื้อมมือไปคว้าก้อนหินนั้นไว้

ลู่ฝานเองก็ลงไปด้านล่างของรูปปั้นหิน เอื้อมมือไปหยิบใบหน้าคนขึ้นมาแล้วพูดว่า “สิ่งนี้ คือสิ่งที่เทพบู๊เสินเซียวทิ้งไว้จริง ๆ หรือ?”

ใบหน้าคนตอบว่า “เราไม่รู้ว่าคนคนนั้นชื่ออะไร แต่เขาทิ้งมันไว้จริง ๆ”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เซียนบู๊ ทะลวงชั้นฟ้า