เซียนบู๊ ทะลวงชั้นฟ้า นิยาย บท 2259

สรุปบท บทที่ 2259 การสืบทอดที่พลิกฟ้า(1): เซียนบู๊ ทะลวงชั้นฟ้า

สรุปตอน บทที่ 2259 การสืบทอดที่พลิกฟ้า(1) – จากเรื่อง เซียนบู๊ ทะลวงชั้นฟ้า โดย โอหยางวิ่น

ตอน บทที่ 2259 การสืบทอดที่พลิกฟ้า(1) ของนิยายใช้ชีวิตเรื่องดัง เซียนบู๊ ทะลวงชั้นฟ้า โดยนักเขียน โอหยางวิ่น เต็มไปด้วยจุดเปลี่ยนสำคัญในเรื่องราว ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยปม ตัวละครตัดสินใจครั้งสำคัญ หรือฉากที่ชวนให้ลุ้นระทึก เหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้อ่านที่ติดตามเนื้อหาอย่างต่อเนื่อง

ลำแสงเปล่งประกาย แผ่นหินที่หดตัวลงอย่างรวดเร็ว

พลังของผู้อาวุโสใหญ่และไอ้บอดหลัวต่างถูกอัดเข้าไปในแผ่นหิน และแผ่นหินก็เริ่มหดตัวในไม่ช้า

เส้นไหมลอยขึ้นจากม่านแสง บรรจบกันเป็นหมอกเลื่อนลอยควบแน่นเป็นรูปร่างคน

ในช่วงเวลาที่เงาปรากฏขึ้น ลู่ฝานรู้สึกว่าพลังทั้งหมดรอบตัวเขาได้ถอยกลับด้วยตัวเอง

พลังแห่งฟ้าดินหรือพลังเต๋าใดๆทั้งหลาย พลันจะมลายสูญหายไป

ราวกับเทพวิญญาณลงมาเยือนโลก ทุกสิ่งล้วนยอมถอย

หน้าตาของคนคนนี้ช่างคลุมเครือดูไม่ชัด ลู่ฝานสามารถมองเห็นโครงร่างได้ราง ๆ เท่านั้น

แต่พลังลมปราณของเขา กลับน่ากลัวได้มากขนาดนั้น

ลู่ฝานหายใจเข้าลึก ๆ และตะโกนในใจว่า

“ไอ้เก้า พาฉันออกไป เร็ว!”

ได้เห็นถึงอริยบุคคลที่แท้จริง และรู้สึกถึงได้พลังอันยิ่งใหญ่ของใต้หล้า ทั้งยังปล่อยพลังของบ้านิรนามจากร่างตัวเองออกมาได้ทุกส่วน

ลู่ฝานนั้นได้บรรลุเป้าหมายทุกประการแล้ว

ตอนนี้ เขาควรจะต้องจากไปแล้วจริง ๆ เพราะหากยังไม่ไป คงได้ตายที่นี่จริงๆ!

แต่ในเวลานี้ เสียงที่อ่อนแอของไอ้เก้าก็ดังขึ้นในร่างกายของลู่ฝาน

“เจ้านายผู้ยิ่งใหญ่ ฉัน...... ฉันไม่สามารถขยับเขยื้อนได้ เป็นพลังแห่งกบฏเทพ เป็นกบฏเทพที่แท้จริง ฉันส่งท่านไปไม่ได้แล้ว!”

ปัญหามาเกิดในช่วงเวลาสำคัญอีกแล้ว!

ลู่ฝานต้องการดึงไอ้เก้าออกจากร่างกาย จึงทุบตีมันอย่างรุนแรง

โดยไม่ลังเล ลู่ฝานถือมุกหกเต๋าหุ้นตุ้นสามเม็ดไว้ในมือ

โดยเฉพาะอย่างยิ่งมุกจำแลงวิญญาณ ที่เปล่งประกายเจิดจ้า!

ผู้อาวุโสใหญ่กวักมือเรียกลู่ฝานว่า “มาเถิด เจ้าสำนักลู่ มาตอบรับช่วงเวลาอันรุ่งโรจน์นี้”

ลู่ฝานยืนนิ่ง ๆ ผู้อาวุโสใหญ่รู้สึกถึงความผิดปกติทันที จึงเอื้อมมือไปโบกที่ลู่ฝาน

ส่งผลให้ร่างของลู่ฝานแกว่งไปคล้ายภาพลวงตา แต่สัมผัสนั้นยังคงอยู่ที่เดิม นี่เป็นเพียงร่างปลอมแปลงเท่านั้น

ผู้อาวุโสใหญ่ลืมไปเสียสนิทว่าลู่ฝานเคยใช้วิธีนี้และหลอกเขาครั้งหนึ่ง ไม่คิดว่าวันนี้จะนำอุบายเก่ากลับมาใช้อีก

ลู่ฝานรู้ดีว่าเขาไม่สามารถเป็นคู่แข่งของผู้อาวุโสใหญ่ได้ แต่ถ้าหากว่าให้วิ่งหนีไปนั้น

เขาก็ยังคงมีพอจะความมั่นใจอยู่บ้าง นี่ก็เป็นเหตุผลหนึ่งที่ทำให้เขามีความมั่นใจที่จะมาถึงที่แห่งนี้

อย่างไรก็ตาม ตอนนี้ไม่เพียงแต่ผู้อาวุโสใหญ่เท่านั้นที่อยู่ที่นั่น แต่ยังมีไอ้บอดหลัวด้วย

ก่อนมา ลู่ฝานไม่ได้คาดคิดว่าจะมีการปรากฏตัวของไอ้บอดหลัว มันเป็นความผิดพลาดครั้งใหญ่ของเขา

ตอนนี้ลู่ฝานมีราคาที่ต้องจ่าย สำหรับความผิดพลาดในการคำนวณของตน

ไอ้บอดหลัวลืมตาสองข้างของตัวเองขึ้นอย่างฉับพลัน

ไม่เลว จริงที่เขาตาบอด แต่มีเพียงไม่กี่คนในใต้หล้านี้ที่รู้ว่า เมื่อไอ้บอดหลัวเบิกดวงตาเพียงครั้งเดียว ก็สามารถเข้าใจพลังฟ้าดินได้อย่างแจ่มแจ้ง

ดวงตาทั้งสองข้างขาวโพลน เสมือนดวงอาทิตย์และดวงจันทร์มาบรรจบกันในสายตาของไอ้บอดหลัว

เมื่อแสงเงาได้ยินเสียงดุร้ายของลู่ฝาน ทันใดนั้นก็หัวเราะว่า “ปล้นชิงกายเนื้อมนุษย์หรือ ได้อย่างไร? เหตุใดฉันจึงต้องปล้นชิงกายเนื้อมนุษย์ไป ฉันเป็นเพียงวิญญาณผู้สืบทอด ภารกิจคือการสืบทอดวิชา ฉันจะปล้นกายเนื้อมนุษย์อย่างนายไปทำอะไร?”

คําพูดของเขาในตอนนี้ ทำให้ลู่ฝานตกตะลึง

ทันทีหลังจากนั้น แสงเงานั้นก็ทำในสิ่งที่ทำให้ลู่ฝานประหลาดใจมากขึ้น

ในตันเถียนของลู่ฝาน แสงเงาโบกมือรวบรวมลำแสงควบเป็นเก้าอี้เรืองแสงแล้วนั่งลง

แสงบนร่างกายของเขาค่อย ๆ บรรจบกันและใบหน้าก็เริ่มชัดเจน แม้กระทั่งควบแน่นในสภาพของเสื้อผ้า จากนั้นเขาก็เริ่มสาวแกะส่วนเท้าออก

ไม่ผิด แสงเงานี้เริ่มสาวแกะส่วนเท้าของเขาต่อหน้าลู่ฝานแล้ว!

รอยยิ้มชั่วร้ายเล็กน้อยประทับบนใบหน้าของเขา ส่วนเสื้อผ้าที่ขาดรุ่งริ่งนั่นเขาก็ยังคงสาวแกะไปพลางดมกลิ่นไปพลางพร้อมเอ่ยว่า “เด็กน้อย นายพร้อมหรือยัง การสืบทอดวิชาจะเริ่มขึ้นทันที ฉันก็ปรับท่าทีเสียหน่อย เกรงว่าเดี๋ยวจะทนหายใจได้ไม่กี่ครั้งแล้วฉันจะถอดใจ หลายปีที่ผ่านมา มนุษย์อ่อนแอลงเรื่อย ๆ จนไม่มีคนที่สามารถรับการสืบทอดวิชาของฉันได้ แทบไม่อยากจะเชื่อเลย วิชาพลิกฟ้าที่ฉันฝึกฝนมาอย่างยากลำบากนั้น จะหาผู้สืบทอดไม่ได้! นี่จะให้ฉันใช้ชีวิตอยู่ที่นี่ได้ยังไง ไม่มีน้องชายที่รู้ใจสักคนด้วยซ้ำ!”

ลู่ฝานรู้สึกเหมือนตัวเองเพิ่งจะเจอเรื่องตกใจ อะไรกับอะไรกัน!

นี่ก็คือผู้กบฏต่อเทพจริงหรือ คือคนที่ตายไปพร้อมกับเทพวิญญาณ แล้วสิ่งนี้เรียกว่าการถูกเข้าสิงหรือไม่

เมื่อรู้สึกว่าไม่ค่อยจะถูกต้อง ลู่ฝานจึงถามอย่างระมัดระวังว่า “คุณจะสิงตัวฉันจริง ๆ เหรอ?”

แสงเงายิ้มว่า “ทำไมต้องสิงคุณไปด้วย ไม่ใช่ว่าเราไม่มีร่างกายเสียหน่อย และเรายังไม่ได้ตาย ไอ้หนุ่ม อย่ามัวไร้สาระ รีบปรับท่าที รอให้ฉันแกะเสร็จก็จะได้เริ่ม เฮ้อ แกะแบบนี้ช่างไร้ความรู้สึก ฉันไม่มีหนังเท้าแล้ว”

ลู่ฝานรู้สึกว่าหัวใจของเขาถูกลิขิตให้โดนทดสอบหลายด่านเหลือเกินในวันนี้

ยังไม่ตาย! แสงเงาบอกว่าเขายังไม่ตาย!

ลู่ฝานพูดอย่างสงสัยต่อ “อย่ารีบร้อนไป ขอฉันถามก่อน คุณเพิ่งพูดว่าคุณยังไม่ตาย หมายความว่าอะไร คุณได้ตายไปพร้อมกับเทพวิญญาณพวกนั้นแล้วไม่ใช่หรือ?”

แสงเงาหัวเราะและเอ่ยว่า “ตายไปพร้อมกันเหรอ? แค่ไอ้แก่ตายยากพวกนั้นจะฆ่าฉันได้หรือ ฉันแค่โจมตีเสร็จแล้วก็จากไปเท่านั้น ใยข้างนอกล้วนบอกว่าฉันตายแล้ว พวกคนโง่เขลา เอาล่ะ เด็กน้อย อย่าเรียกไอ้แก่ตายยากเหล่านั้นว่าเทพวิญญาณอีกล่ะ พวกคนแก่ที่ฝืนใจฝ่าขีดจำกัดของมนุษย์แบบนั้น ไม่สมควรถูกเรียกว่าเทพ รอวันหนึ่งนายไปถึงสุดขอบโลกและเห็นมัน...... ฉันจะบอกนายเรื่องพวกนี้ทำไมกันนะ รีบหน่อย อย่าทำฉันเสียเวลา การเตรียมพร้อมแล้ว!”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เซียนบู๊ ทะลวงชั้นฟ้า