เวลาเปรียบได้ดั่งเม็ดทรายที่ไหลผ่านปลายนิ้วมือไป พริบตาเดียวเวลาก็ผ่านไปหนึ่งเดือนแล้ว
เกล็ดหิมะลอยตกลงมา โดยหิมะของเมืองตงหวานี้ เหมือนจะตกลงมาก่อนเมืองเจียงหลินบ้านเกิดของลู่ฝานเสียอีก โอ้ว ไม่ใช่สิ ตอนนี้ต้องเรียกว่าเมืองลู่แล้ว
เมื่อพูดถึง เรื่องเมื่อวานนี้เอง ภาษีอากรงวดแรกของเมืองลู่ได้ส่งมอบมาถึงเขาแล้ว ถึงแม้ว่าทางราชสำนักจะนำเงินส่วนมากนั้นไป แต่ส่วนที่เหลืออยู่ก็ถือว่ามากพอสมควรเลย
อย่างน้อยตามที่ลู่เฮ่าหรานพูดนั้น ชั่วชีวิตนี้เขายังไม่เคยพบเห็นเงินมากขนาดนี้มาก่อน
นี่คือผลประโยชน์ด้านหนึ่งของตำแหน่งผู้ตรวจการชั้นกลาง ที่สามารถครอบครองภาษีอากรส่วนหนึ่งของจากทั้งเมืองได้
เมื่อเปรียบเทียบกับผู้เฝ้าเมืองทั่วไปแล้ว อำนาจของลู่ฝานนั้นยิ่งใหญ่จนน่าตกตะลึง อย่างน้อยผู้เฝ้าเมืองคนอื่น ต่างก็รับเงินเดือนจากราชสำนัก ส่วนภาษีอากรนั้น เหอะเหอะ ตนเองก็แค่แอบลักลอบนำเอาส่วนเล็กน้อย ก็ไม่ถือว่าเป็นปัญหา แต่หากจะบอกว่าครั้งหนึ่งได้รับกี่ส่วนนั้น ก็คงจะเป็นไปไม่ได้ ซึ่งอยากจะจบชีวิตแค่ไหนก็คงจะไม่คิดจบชีวิตด้วยวิธีการแบบนี้แน่
หลังจากที่เขาได้พูดคุยกันกับผู้เฝ้าเมืองจางและคนอื่น ๆ แล้ว ลู่ฝานก็พบว่า ตนเองนั้นก็คือราชาท้องถิ่นของเมืองลู่แล้ว ต่อให้จะสังหารผู้คนอย่างไร้เหตุผลในเมืองลู่ ก็ไม่เป็นปัญหา ดั่งที่พูดกันว่า มีอำนาจปกครองแบบเบ็ดเสร็จ
อิทธิพลอำนาจระดับนี้ ก็เพียงพอที่จะทำให้ลู่หาวผู้เป็นพ่อและลู่เฮ่าหรานผู้เป็นปู่รู้สึกพึงพอใจอย่างที่สุดแล้ว
ตอนนี้ทั้งสองคนเวลาฝันก็ยังคงยิ้มแย้ม
หลังจากที่ลู่ฝานคิดพิจารณาแล้ว ในตำแหน่งของผู้เฝ้าเมืองลู่นี้ ก็ได้ใส่ชื่อของลู่หมิงไป
ลู่ฝานไม่รู้ว่าเมื่อลู่หมิงได้รับทราบข่าวสารนี้แล้ว จะแสดงอาการอย่างไรบ้าง
อย่างไรก็ตามในจดหมายที่ลู่หมิงส่งกลับมานั้น ลู่ฝานเห็นว่าตัวอักษรที่เขาเขียนล้วนไม่หนักแน่น
นั่นเป็นเพราะ ตอนที่เขียนจดหมายนั้น มือของเขากำลังสั่นเทา ใช้แรงกำลังได้ไม่เต็มที่
การที่มีเมืองแห่งหนึ่งเป็นฐานที่มั่นคงหนักแน่นของตระกูลลู่ ทำให้ตระกูลลู่ในวันนี้ มีพัฒนาการเติบโตอย่างต่อเนื่อง และเจริญรุ่งเรืองยิ่งขึ้นไปทุกวัน
คฤหาสน์เพียงหลังเดียว ไม่เพียงพอต่อการที่ตระกูลลู่จะทำการขยับขยายแล้ว
ภายในช่วงเวลาสั้น ๆ เพียงหนึ่งเดือน คฤหาสน์ของตระกูลลู่ก็เพิ่มมากขึ้นสิบหลัง ทั้งในแบบเปิดเผย และแบบแอบแฝงเอาไว้ก็มีทั้งหมด
ร้านค้าก็มีเพิ่มมากขึ้นสิบกว่าแห่ง โดยไม่มีผู้ใดกล้าที่จะมาแย่งกิจการค้าขายจากตระกูลลู่
ถึงขนาดที่ว่ามีร้านค้าจำนวนไม่น้อยที่ยอมแขวนป้ายร้านเป็นชื่อตระกูลลู่ และยอมที่จะจ่ายเงินให้กับตระกูลลู่ในแต่ละปีอีกด้วย
เวลานี้ พวกลูกหลานของตระกูลลู่ แต่ละคนต่างก็องอาจห้าวหาญ ไม่มีความน้อยเนื้อต่ำใจ อย่างกับตอนที่เพิ่งเข้ามาในเมืองใหม่ ๆ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เซียนบู๊ ทะลวงชั้นฟ้า
ปู่เชี่ยไรเรียกหลานตัวเองว่านาย นิยายย้อนยุคมึงแปลซะ ทันสมัยเลย ไอ้เวร...
ช่องทางซื้ออ่านก็ไม่มี...
2276จบค้างเลยมาต่อเร็วๆนะ...
รออ่าน2277...
เสียดายมาก อ่านมาถึงหน้า 2276 มา2รอบแล้ว กำลังสนุกเลย ช่วยแปลตาอให้หน่อยนะครับ...
ถ้าไม่แปลต่อเรื่องต่อไปก็คงเหมือนเรื่องนี้หรือเปล่าครับไม่จบสักเรื่อง...
เปลี่ยนชื่อเว็บไซต์อีกครั้งเป็นครั้งที่3นับแต่ได้เข้ามาอ่าน สัญญานของการไปต่อ...
พยายามชำระเงินจากทั่ให้บนprofile จำนวน$4.99 แต่ไม่สำเร็จ ทดลองจ่ายเงินซื้อสินค้าออนไลน์ก็ผ่าน ซึ่งแสดงว่าcardไม่มีปัญหา บอกได้ไหมว่ามีปัญหาที่ไหน หรือว่ายังไม่ได้แปลเพิ่ม จึงยังไม่ต้องจ่าย มีข้อสงสัยมากมาย ชี้แจงสักหน่อยได้ไหม...
รอจนหมดหวัง...
อ่านถึง2276ครบ2รอบแล้วครับ ไม่แปลต่อแล้วเหรอ...