เซียนบู๊ ทะลวงชั้นฟ้า นิยาย บท 689

สรุปบท บทที่ 689: เซียนบู๊ ทะลวงชั้นฟ้า

สรุปเนื้อหา บทที่ 689 – เซียนบู๊ ทะลวงชั้นฟ้า โดย โอหยางวิ่น

บท บทที่ 689 ของ เซียนบู๊ ทะลวงชั้นฟ้า ในหมวดนิยายใช้ชีวิต เป็นตอนที่โดดเด่นด้วยการพัฒนาเนื้อเรื่อง และเปิดเผยแก่นแท้ของตัวละคร เขียนโดย โอหยางวิ่น อย่างมีศิลป์และชั้นเชิง ใครที่อ่านถึงตรงนี้แล้ว รับรองว่าต้องติดตามตอนต่อไปทันที

เวลาเปรียบได้ดั่งเม็ดทรายที่ไหลผ่านปลายนิ้วมือไป พริบตาเดียวเวลาก็ผ่านไปหนึ่งเดือนแล้ว

เกล็ดหิมะลอยตกลงมา โดยหิมะของเมืองตงหวานี้ เหมือนจะตกลงมาก่อนเมืองเจียงหลินบ้านเกิดของลู่ฝานเสียอีก โอ้ว ไม่ใช่สิ ตอนนี้ต้องเรียกว่าเมืองลู่แล้ว

เมื่อพูดถึง เรื่องเมื่อวานนี้เอง ภาษีอากรงวดแรกของเมืองลู่ได้ส่งมอบมาถึงเขาแล้ว ถึงแม้ว่าทางราชสำนักจะนำเงินส่วนมากนั้นไป แต่ส่วนที่เหลืออยู่ก็ถือว่ามากพอสมควรเลย

อย่างน้อยตามที่ลู่เฮ่าหรานพูดนั้น ชั่วชีวิตนี้เขายังไม่เคยพบเห็นเงินมากขนาดนี้มาก่อน

นี่คือผลประโยชน์ด้านหนึ่งของตำแหน่งผู้ตรวจการชั้นกลาง ที่สามารถครอบครองภาษีอากรส่วนหนึ่งของจากทั้งเมืองได้

เมื่อเปรียบเทียบกับผู้เฝ้าเมืองทั่วไปแล้ว อำนาจของลู่ฝานนั้นยิ่งใหญ่จนน่าตกตะลึง อย่างน้อยผู้เฝ้าเมืองคนอื่น ต่างก็รับเงินเดือนจากราชสำนัก ส่วนภาษีอากรนั้น เหอะเหอะ ตนเองก็แค่แอบลักลอบนำเอาส่วนเล็กน้อย ก็ไม่ถือว่าเป็นปัญหา แต่หากจะบอกว่าครั้งหนึ่งได้รับกี่ส่วนนั้น ก็คงจะเป็นไปไม่ได้ ซึ่งอยากจะจบชีวิตแค่ไหนก็คงจะไม่คิดจบชีวิตด้วยวิธีการแบบนี้แน่

หลังจากที่เขาได้พูดคุยกันกับผู้เฝ้าเมืองจางและคนอื่น ๆ แล้ว ลู่ฝานก็พบว่า ตนเองนั้นก็คือราชาท้องถิ่นของเมืองลู่แล้ว ต่อให้จะสังหารผู้คนอย่างไร้เหตุผลในเมืองลู่ ก็ไม่เป็นปัญหา ดั่งที่พูดกันว่า มีอำนาจปกครองแบบเบ็ดเสร็จ

อิทธิพลอำนาจระดับนี้ ก็เพียงพอที่จะทำให้ลู่หาวผู้เป็นพ่อและลู่เฮ่าหรานผู้เป็นปู่รู้สึกพึงพอใจอย่างที่สุดแล้ว

ตอนนี้ทั้งสองคนเวลาฝันก็ยังคงยิ้มแย้ม

หลังจากที่ลู่ฝานคิดพิจารณาแล้ว ในตำแหน่งของผู้เฝ้าเมืองลู่นี้ ก็ได้ใส่ชื่อของลู่หมิงไป

ลู่ฝานไม่รู้ว่าเมื่อลู่หมิงได้รับทราบข่าวสารนี้แล้ว จะแสดงอาการอย่างไรบ้าง

อย่างไรก็ตามในจดหมายที่ลู่หมิงส่งกลับมานั้น ลู่ฝานเห็นว่าตัวอักษรที่เขาเขียนล้วนไม่หนักแน่น

นั่นเป็นเพราะ ตอนที่เขียนจดหมายนั้น มือของเขากำลังสั่นเทา ใช้แรงกำลังได้ไม่เต็มที่

การที่มีเมืองแห่งหนึ่งเป็นฐานที่มั่นคงหนักแน่นของตระกูลลู่ ทำให้ตระกูลลู่ในวันนี้ มีพัฒนาการเติบโตอย่างต่อเนื่อง และเจริญรุ่งเรืองยิ่งขึ้นไปทุกวัน

คฤหาสน์เพียงหลังเดียว ไม่เพียงพอต่อการที่ตระกูลลู่จะทำการขยับขยายแล้ว

ภายในช่วงเวลาสั้น ๆ เพียงหนึ่งเดือน คฤหาสน์ของตระกูลลู่ก็เพิ่มมากขึ้นสิบหลัง ทั้งในแบบเปิดเผย และแบบแอบแฝงเอาไว้ก็มีทั้งหมด

ร้านค้าก็มีเพิ่มมากขึ้นสิบกว่าแห่ง โดยไม่มีผู้ใดกล้าที่จะมาแย่งกิจการค้าขายจากตระกูลลู่

ถึงขนาดที่ว่ามีร้านค้าจำนวนไม่น้อยที่ยอมแขวนป้ายร้านเป็นชื่อตระกูลลู่ และยอมที่จะจ่ายเงินให้กับตระกูลลู่ในแต่ละปีอีกด้วย

เวลานี้ พวกลูกหลานของตระกูลลู่ แต่ละคนต่างก็องอาจห้าวหาญ ไม่มีความน้อยเนื้อต่ำใจ อย่างกับตอนที่เพิ่งเข้ามาในเมืองใหม่ ๆ

แต่สิ่งเหล่านี้ไม่ใช่แผนการระยะยาว สิ่งสำคัญที่สุดนั้น ก็คือทักษะวิชาบู๊ และการอบรมสั่งสอนจากยอดฝีมือ

ตระกูลลู่แต่เดิมนั้น ไม่มียอดฝีมือ ในเมืองเล็กมีนักบู๊แดนปราณนอกคนหนึ่งก็ถือว่าสุดยอดแล้ว ต่อให้ต้องการจะพัฒนาพลังความสามารถขึ้นไปอีก ก็ไม่มีผู้ใดที่จะชี้แนะได้

แต่เมื่อมาถึงที่นี่ ล้วนเต็มไปด้วยยอดฝีมือทั้งนั้น

นักบู๊แดนปราณนอกนั้น เมื่อเข้าร่วมงานเลี้ยงฉลอง ก็จะสามารถพบเจอได้เป็นกอง

พวกลูกหลานของตระกูลลู่ที่สำนึกจากความผิดพลาด ต่างก็ตั้งใจฝึกฝนวิชาบู๊กันอย่างขะมักเขม้น กอปรกับตระกูลลู่เองตอนนี้ก็มีเงินทองมากมาย สมุนไพรหรือยาต่าง ๆ ก็ไม่เป็นปัญหา เพียงแค่แสดงพรสวรรค์ออกมาอย่างเต็มที่ ก็จะได้รับการบ่มเพาะฝึกฝนเป็นอย่างดีจากตระกูล

สำหรับวิชาบู๊นั้น ก็ไม่ใช่วิชาบู๊ระดับคนที่ไม่ได้เรื่องอีกแล้ว อย่างน้อยจะเริ่มต้นจากระดับทิพย์ ส่วนวิชาสุดยอดกายทองไฟอาบของตระกูลลู่นั้นก็กลายเป็นวิชาทั่วไป ที่ผู้ใดก็สามารถฝึกฝนได้แล้ว

ส่วนวิชาระดับดินที่แข็งแกร่งกว่านั้นก็มี โดยลู่ฝานได้มอบเคล็ดวิชาบู๊สองชุดที่เขาได้ศึกษาร่ำเรียนมาจากสถาบันสอนวิชาบู๊เอาไว้ให้ ซึ่งได้แก่กระบี่ฆ่าพิชิตฟ้า และหมัดมังกรเพลิงคำราม!

บวกกับด้านบนของฉากกั้นห้องที่ทางหัวหน้าเขตอี้ว์ได้มอบให้นั้นก็ยังมีเคล็ดวิชาบู๊อีกหนึ่งชุด ทำให้ตระกูลลู่มีเคล็ดวิชาบู๊ระดับดินสามชุดเป็นทักษะพื้นฐานแล้ว

โดยทักษะพื้นฐานเหล่านี้ พูดได้เลยว่า เพียบพร้อมด้วยท่วงท่าลักษณะของความเป็นตระกูลใหญ่แล้ว

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เซียนบู๊ ทะลวงชั้นฟ้า