เซียนบู๊ ทะลวงชั้นฟ้า นิยาย บท 770

เมื่อได้ยินชื่อนี้ ซูอี้ที่อยู่บนเวทีมีสีหน้าประหลาดเล็กน้อย

บางทีการดูคน ดูแค่ชื่อแซ่ก็พอแล้ว โดยเฉพาะแซ่ ก็สามารถตัดสินอะไรได้หลายอย่างแล้ว

อย่างเช่นแซ่สุ่ยของสุ่ยเชียนโหรว แซ่สุ่ย เป็นแซ่ที่แสดงถึงอำนาจที่มาจากเมืองหลวง ยิ่งใหญ่ถึงขนาดที่แค่คนได้ยินคำว่าสุ่ย ก็ไม่กล้าต่อต้านแล้ว

ลู่ฝานก็แสดงออกทางสีหน้าเล็กน้อย เขาหันไปพูดกับหานเฟิง “ศิษย์พี่หานเฟิง เธอไม่ได้มาจากตระกูลสุ่ยอะไรนั่นใช่ไหม”

หานเฟิงพูดว่า “ฉันอยากบอกนายว่าไม่ใช่ แต่น่าเสียดาย เธอมาจากตระกูลสุ่ย”

“ตระกูลสุ่ยในสิบตระกูลใหญ่เหรอ”

ลู่ฝานถามอีก

หานเฟิงพูดว่า “ใช่ ฉันจะถือโอกาสบอกนายด้วย เธอไม่ใช่คนที่แข็งแกร่งสุดในบรรดาสิบตระกูลใหญ่ แต่เป็นคนที่รับมือยากและน่ารำคาญที่สุดในสิบตระกูลใหญ่”

ลู่ฝานหันมามองผู้หญิงที่มีใบหน้าเย็นชา มองความยโสที่ออกมาจากก้นบึ้ง อีกทั้งใบหน้าที่เหมือนห่อหุ้มด้วยน้ำแข็ง เขาพอรู้อะไรบ้างแล้ว

ซูอี้ที่อยู่บนเวทีกัดฟันพูดว่า “คุณสุ่ยเชียนโหรว แม้ฐานะเธอสูงส่ง แต่จะทำลายกฎไม่ได้ ถ้าเธออยากสู้ราคา กรุณาเสนอราคามา ถ้าไม่มีคะแนน ใช้ของอย่างอื่นมาแลกก็ได้”

สุ่ยเชียนโหรวพูดอย่างราบเรียบว่า “ฉันต้องการ นายก็ต้องให้ คนกระจอกอย่างนายกล้าขัดแย้งกับคนสูงส่งอย่างฉันเหรอ”

ประโยคเดียวทำให้ชายหนุ่มบนเวทีหน้าแดง กำหมัดทั้งสองข้างแน่น

ลู่ฝานพูดว่า “ศิษย์พี่หานเฟิง ผมเข้าใจที่พี่พูดว่าน่ารำคาญแล้ว”

หลิงเหยาพูดขึ้นข้างๆ ว่า “พี่สาวท่านนี้พูดจาไม่เพราะเลย”

หานเฟิงหัวเราะแล้วพูดว่า “ใช้อำนาจรังแกคนอื่น คือแบบนี้แหละ ตั้งแต่ฉันรู้จักเธอ เธอก็เอาแต่พูดว่ากระจอกบ้าง สวะบ้าง เหมือนบนโลกนี้ไม่มีใครอยู่ในสายตาเธอ แต่ศิษย์น้องลู่ฝานอย่าดูถูกเธอ เธอมีฉายาว่าอัจฉริยะที่ไม่ออกจากตระกูลสุ่ย”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เซียนบู๊ ทะลวงชั้นฟ้า