“อย่ากลัวไปเลย ข้าจะดีกับเจ้า”
เมื่อเฟิ่งจิ่วได้ยินคำพูดนี้จากปากของชายชราชุดเทา เพียงรู้สึกหนาวเย็นขึ้นชั่วขณะ เสียจนขนลุกซู่ออกมา แม้แต่มุมปากยังกระตุกอย่างอดไม่ได้
โดยเฉพาะ ที่ตาเฒ่านี่จ้องมองเธอด้วยสายตาปลื้มปริ่มแปลกๆ ความรู้สึกรังเกียจนั้น แค่คิดก็รู้สึกได้แล้ว
เธอมองค้อนเขาแวบหนึ่ง สองมือลูบๆ แขนที่กำลังขนลุกชูชัน ก่อนจะเอ่ยอย่างไม่เกรงใจ “ตาเฒ่า เวลาพูดคุยกัน เจ้าไม่หยิบกระจกสักบานมาส่องใบหน้าย่นๆ ราวผลส้มที่แห้งเหี่ยวของตัวเองเสียบ้างเล่า ขาเหยียบลงโลงไปข้างหนึ่งแล้ว นึกไม่ถึงว่าจะยังไร้ยางอายเช่นนี้”
คำพูดเยาะเย้ยถากถางทำให้แววตาชายชราชุดเทาหมองลง แม้แต่รอยยิ้มที่ปรากฏบนใบหน้าก็ถูกเก็บไป แผ่กลิ่นอายดุร้ายกระจายทั่วร่างพลางถลึงมองนาง
“ข้าจะเก็บเจ้าไว้เป็นเครื่องมือช่วยฝึกฝนวิชา นั่นถึงคู่ควรกับเจ้า!”
“เครื่องมือฝึกฝนวิชารึ?”
เฟิ่งจิ่วส่งเสียงร้องแปลกๆ แล้วพินิจมองจากล่างขึ้นบนอย่างหยาบคาย กล่าวแดกดันว่า “ดูไม่ออกเลยว่าตาเฒ่าเช่นเจ้ายังจะเป็นคนบ้ากามอีกรึ? แต่ว่า อายุมากปูนนี้แล้ว ของพรรค์นั้นยังใช้ได้อยู่รึ?”
“บังอาจนัก!”
เขาตวาดรุนแรงอย่างอับอายจนกลายเป็นขุ่นเคือง หน้าอกกระเพื่อมขึ้นลงเพราะโมโหจัด สองตาเบิกกว้าง พลางมองนางด้วยความโกรธ เวลาต่อมา เงาร่างสีเทาก็พุ่งออกตัวรวดเร็วราวสายฟ้าแลบ ฝ่ามือผอมกะหร่องทำท่าเป็นกรงเล็บเข้าตระครุบไปทางเฟิ่งจิ่ว
เฟิ่งจิ่วเปลี่ยนท่าทางทันควัน ไอพลังรุนแรงพลันปะทุออก เธอไม่คิดหลบ แต่กลับออกหน้ารับ ดวงตาที่หรี่ลงมีกลิ่นอายกระหายเลือดโหดเหี้ยม ท่าเท้าแปลกตาพาให้ร่างเคลื่อนขยับ ตวัดมีดสั้นในมือ และแทงไปยังชายชราชุดเทาพร้อมกับกระแสพลังเร้นลับ
“ฝีมืออ่อนด้อยนัก!”
ชายชราชุดเทายิ้มเยาะ เพียงสะบัดมือก็หลบการโจมตีได้อย่างง่ายดาย ขณะที่มือหนึ่งกันมีดสั้นออกไป อีกมือหนึ่งค่อยคว้าไปที่นาง
มือถูกชายชราชุดเทาจับไว้ เฟิ่งจิ่วอาศัยแรงโน้มตัวลงสลัดออกไปในทันที เมื่อหลุดจากนิ้วมือทั้งห้าของชายชราที่จับไว้แน่น ก็ยกขาขึ้นขวางสกัด เพียงได้ยินเสียงกำลังขาที่มาพร้อมกลิ่นอายพลังเร้นลับ มีกระแสพลังรุนแรงดังฮึมๆ ในยามที่ตวัดขวางผ่านกลางอากาศ ชายชราไม่ได้สังเกต กระดูกขาเล็กๆ จึงถูกเตะไปทีหนึ่ง ข้อเข่างอลง ขณะที่ย่อลงไป กลับกระโดดไปด้านหลังอย่างรวดเร็ว และถอยห่างจากข้างกายเธอครู่หนึ่ง
เฟิ่งจิ่วโจมตีอีกครั้งอย่างไม่คิดหยุด รู้อยู่ลึกๆ ว่าการที่ร่างผู้อาวุโสสองระเบิดกลางอากาศ ทำให้กองกำลังแต่ละฝ่ายในเมืองอวิ๋นเยวี่ยต่างสั่นคลอน คนพวกนั้นจะรีบมาที่นี่แน่ ที่ต้องทำตอนนี้ คือจัดการตาเฒ่านี่ก่อนที่คนพวกนั้นจะมาถึง!
“ซี๊ดอ๊าก!”
ร่างกายชายชราเพิ่งจะยืนหยัดปรับสมดุล ก็เห็นมีดสั้นประกายแสงเย็นเยียบมุ่งตรงตวัดมายังลำคอ จึงโน้มตัวไปด้านหลังและยกเท้าขึ้นเตะอย่างตกใจ แต่นึกไม่ถึงว่าสาวน้อยจะถอยหลังกะทันหัน มีดสั้นใบแหลมที่เดิมทีตวัดมาตรงลำคอ ก็หมุนตวัดแทงเข้าน่องขาที่เตะขึ้นอย่างโหดเหี้ยม
แรงที่แทงลงไปอย่างไม่ปราณี รวมถึงกำลังที่เขายกเท้าเตะขึ้นแทบจะชนเข้าหากัน จึงแทงทะลุผ่านขาไปทั้งอย่างนั้น เพียงได้ยินเสียงใบมีดคมแทงเข้าเนื้อและกระดูกดังสวบลอยมา ความเจ็บแทบขาดใจ ทำให้พลังทั่วร่างเขาระเบิดออกมา
“อ๊าก!”
กลิ่นอายระดับบรรพชนนักรบอันแข็งแกร่งปะทุออกมาจากภายในร่างเขา พลังเร้นลับเข้มข้นที่พรั่งพรูโจมตีเฟิ่งจิ่วกระเด็นออกไปอย่างโหดร้าย
“อั่ก!”
เฟิ่งจิ่วที่ลอยไปไกลหลายเมตรเจ็บหน้าอกรุนแรง เสียจนกระอักเลือดออกมา ชีพจรเสียหาย ทำให้กลิ่นอายทั่วร่างอ่อนแอลงทันใด
เห็นชายชราผู้นั้นดึงมีดสั้นโยนทิ้งลงกองเพลิง เดินมาหาทีละก้าวๆ แววตาเธอหรี่ลงเล็กน้อย ฝืนกลั้นความเจ็บรุนแรงตรงหัวใจ แล้วลุกขึ้นมายืนรับลมอย่างไม่ตื่นตระหนก
ยกมือขึ้นแตะเลือดตรงมุมปากมาวาดเป็นเครื่องหมายเก่าแก่ซับซ้อน น้ำเสียงเฉยชาพร่ำกระซิบอยู่ในเวลานี้ราวกับดังลอยมาแต่บรรพกาล ทั้งไพเราะและลึกลับ…
“ด้วยเลือดของข้า จงทำลายพันธนาการของเจ้า!”
“ในนามแห่งข้า ขอสั่งเจ้าเผยร่างจริง!”
แม้ในใจกำลังตื่นเต้นพลุ่งพล่าน เขากลับไม่ได้หยุดนิ่งนานเกินไปนัก แต่รีบดึงสติและมุ่งไปทางจุดเพลิงไหม้นั้นอย่างรวดเร็ว
ส่วนภายในจวนตระกูลสวี่ บนหลังคานั้น ภายใต้แรงกดดันอันฮึกเหิมมหาศาลของสัตว์เทวะในตำนาน ชายชราชุดเทาแม้แต่ยืนก็ยังยืนขึ้นมาไม่ไหว สองขาสั่นเทาอ่อนเปลี้ยทรุดนั่งลงไป ก่อนจะมองหงส์ไฟที่สยายปีกบินอยู่กลางเวหาอย่างยากที่จะเชื่อ ดวงตาแดงก่ำ ทั้งไม่พอใจและไม่ยอมเชื่อ
“ไม่!”
“นี่ไม่ใช่เรื่องจริง!”
“เจ้าจะมีหงส์ไฟสัตว์เทวะในตำนานได้เช่นไร!”
“เป็นไปได้ยังไง!”
ภายใต้การปกคลุมของแรงกดดันอันแกร่งกล้า แม้แต่ปริปากพูด ก็ควรจะทำไม่ได้ แต่เขายังแข็งขืนตีฝ่าแรงบีบคั้นสั่นสะเทือนจากแรงกดดันสัตว์เทวะในตำนาน เพียงเอ่ยปาก ชีพจรก็เสียหาย เลือดสดเอ่อล้นจากในปาก กลับยังคงไม่ยอมเชื่อในความจริงอันโหดร้ายนี้อย่างบ้าคลั่ง
เห็นอยู่กับตาว่าเป็นเหยื่อเช่นหมูในอวย จู่ๆ ก็บินไปเสียแล้ว ซ้ำยังสร้างความตื่นตะลึงที่ทั้งหนักหนาและไม่อาจยอมรับ แล้วจะให้เขายอมรับได้อย่างไรเล่า?
เฟิ่งจิ่วที่ยืนรับสายลมก้มลงมองชายชราที่ทรุดนั่งอย่างจนตรอกด้วยแววตาเยือกเย็น น้ำเสียงเย็นเยียบค่อยๆ เปล่งออกมา “ได้ตายในเงื้อมมือหงส์ไฟ เจ้าก็ไม่ต้องเจ็บช้ำน้ำใจแล้วล่ะ”
เมื่อสิ้นสุดน้ำเสียงนาง หงส์ไฟบนฟากฟ้าก็โน้มพุ่งลงไปพร้อมกับเปลวเพลิงโหมกระหน่ำดังฟิ้ว ปีกไฟโชติช่วงที่กางออกห่อหุ้มตัวชายชราไว้ แล้วค่อยบินทะยานขึ้นท้องฟ้าอีกครั้ง
“ไม่!”
น้ำเสียงรุนแรงที่มีความไม่ยอมแพ้ดังลอยมาจากเปลวไฟ เฟิ่งจิ่วเห็นเพียงประกายไฟเล็กๆ โปรยปรายอยู่บนท้องฟ้ายามค่ำคืน และหงส์ไฟก็สยายปีกบินวนรอบอยู่เหนือศีรษะ…
…………………………………………………….
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เซียนหมอหญิงยอดนักฆ่า
ไม่ลงต่อแล้วเหรอ🥲...
ยัยน้องของเรามีผู้มาตมหาอีกคนแล้ว ท่านยมมม ว่าที่ภรรยาจะมีคนแย่งละนะ สนุกมากกกกก ช่วยมาลงตอนต่อไปนะคะ รอคอยๆๆ 😍😍😍...
เอ็นดูท่านยม จะสมหวังไหมเนี่ย 5555...
ถ้าคนต้องการฆ่าแม่ทัพใหญ่คือไอ่ผู้ครองแคว้นนะ มันก็เนรคุณเกิ้นนน...
ท่นเจ่าตำกนักพนายามหายไปไหยน๊อออิ ยัยหนูมีเรื่องแล่วว ใดใดคือทุกคนรู้ชื่อน้องหมด ยกเว้นเจ้าตำหนักขี่งอน 5555...
หมายปแงนางถามท่านอสหรือยังจ๊ะ 😁...
อิ่งอี 55555...
เรื่องนี้สนุกมาก อยากให้อัพเดตตอนทุกวันเลยค่ะ...
เพิ่งมาเจอเรื่องนี้ สนุก น่าติดตามมากเลยค่าาาา...