ผู้คนทั้งตะลึงและประหลาดใจอย่างมาก มีเพียงผู้นำตระกูลกวนที่ใบหน้าดำมืดราวกับหม้อต้ม และมีความหมองหม่นเอ่อล้นทะลักออกมา
สองมือเขากำหมัดแน่น มองกวนสีหลิ่นบนเวทีด้วยแววตามัวหมองนัก ในดวงตาฉายแววจิตสังหารอันเยียบเย็น
ส่วนกวนสีหร่วนในเวลานี้ มือข้างหนึ่งถูกหัก มืออีกข้างถูกบิดกดไว้บนเวที ร่างกายไม่อาจขยับเขยื้อนได้แม้สักนิด เพราะใบหน้าแนบติดชิดพื้น ถึงกับส่งเสียงร้องไม่ออกด้วยเหตุนี้
กวนสีหลิ่นจ้องมองพี่ชายที่พ่ายแพ้ในเงื้อมมือด้วยแววตาซับซ้อน เดิมคิดจะทำลายแขนเขาเสีย ทว่าในหัวกลับนึกถึงภาพที่เคยฝึกฝนวิชาด้วยกันตอนเด็กๆ จึงอดไม่ได้ที่จะใจอ่อน
“ท่านแพ้แล้ว”
เขาดึงมือกลับ ละสายตาออกมองไปล่างเวที หนึ่งมีดนั้นที่ด้านหลังในป่าเก้าหมอบตัดขาดสิ้นซึ่งสัมพันธ์พี่น้องระหว่างพวกเขาไปนานแล้ว วันนี้ที่เอาชนะพี่ชายได้ เป็นการพิสูจน์ตัวเอง เพื่อบอกพวกเขา ว่ากวนสีหลิ่นไม่ได้ด้อยไปกว่าใคร!
“ช่างเป็นหนุ่มน้อยยอดวีรบุรุษโดยแท้ ท่านผู้เฒ่ากวน หลานท่านทำให้ข้าตะลึงมากจริงๆ! แสดงความยินดีกับท่านผู้เฒ่ากวน เด็กๆ ในตระกูลโดดเด่นเช่นนี้ อนาคตต้องไร้เทียมทานแน่!”
เหล่าท่านผู้นำตระกูลเห็นการตัดสินแพ้ชนะ ต่างพากันเอ่ยแสดงความยินดีกับท่านผู้เฒ่ากวนข้างๆ ในวงศ์ตระกูลมีเด็กหนุ่มมากพรสวรรค์เช่นนี้ คงรุ่งโรจน์ขึ้นจริงๆ ในไม่ช้า!
“เหอะๆๆ ขอบคุณมากๆ”
ผู้เฒ่ากวนยิ้มแย้มอยู่ไม่หยุดปาก เมื่อสายตาที่มีรอยยิ้มและความพึงพอใจมองขึ้นไปบนเวที สีหน้ากลับพลันผันเปลี่ยนยกใหญ่ เปล่งเสียงอุทานตะโกนลั่น
“หยุดนะ!”
ผู้คนตื่นตกใจ มองไปตามสายตา พอเห็นก็ตะลึงงันกันอย่างมาก
เห็นเพียงกวนสีหร่วนที่ตะเกียดตะกายตัวขึ้นมาจากเวที ดึงมีดสั้นที่ซ่อนไว้ในรองเท้าออกมา แทงไปยังกวนสีหลิ่นที่กำลังหันหลังให้ด้วยแววตาดุดันบ้าคลั่ง
แต่กวนสีหลิ่นที่หันหลังอยู่กลับหมุนตัวเตะสวนทันทีท่ามกลางเสียงอุทานของฝูงชนโดยไม่แม้แต่จะหันกลับไป กวนสีหร่วนที่จับมีดสั้นแทงเข้ามาพลันกรีดร้อง ทั้งร่างกระเด็นกลิ้งร่วงลงล่างเวทีออกไปไกลหลายเมตร
“อั่ก!”
กวนสีหร่วนที่ร่วงลงด้านล่างกระอักเลือดออก ทั้งตัวนอนแผ่บนพื้นด้วยลมหายใจรวยริน แม้แต่แรงจะลุกยืนขึ้นมาก็ยังไม่มี
“สีหร่วน!”
ผู้นำตระกูลกวนอุทาน เร่งฝีเท้าวิ่งเข้าไปประคองคนขึ้น
“ท่านพ่อ ฆ่า ฆ่าเขาซะ!”
สองมือกำขยำแขนเสื้อท่านพ่อไว้แนน เอ่ยคำพูดประโยคนี้ออกมาอย่างยากลำบากเพราะมีเลือดเอ่อล้นอยู่ในปาก
เคอซินหย่านิ่งอึ้ง มองสิ่งที่เกิดขึ้นนี้ทีละภาพๆ อย่างตกตะลึงไปทั่วร่าง เพียงรู้สึกว่าทั้งผืนฟ้าล้วนล่มทลายลงมา การจู่โจมอันทรงพลังทำให้ความคิดอ่านไม่อาจใจเย็นขึ้นมาได้ เลือดลมหมุนตลบขึ้นไปบริเวณลำคอเสียจนมีรสฝาด
“อั่ก!”
นางกระอักเลือดออกมา ภาพตรงหน้าดับมืด และทั้งร่างก็เป็นลมล้มไป
“ซิน ซินหย่า!”
นายท่านเคอกับฮูหยินเคออุทานเสียงสั่นเครือ รีบร้อนรับตัวคนไว้
เห็นเหตุการณ์ที่สับสนอลหม่าน ผู้คนล้วนมีสีหน้างุนงง ตระกูลกวนนี้ จะวุ่นวายเกินไปแล้วกระมัง?
ลูกชายผู้นำตระกูลกวนชวดตำแหน่งนายน้อยในการคัดเลือก แล้วยังจะถือมีดมาฆ่าคนอีกรึ? ตอนนี้ยังดี กำลังตัวเองสู้ไม่ไหวจึงถูกเตะกระเด็นออกไป ด้วยแรงเท้าของกวนสีหลิ่น แค่พวกเขามองยังสะพรึง เดาว่าไม่สิบวันก็ครึ่งเดือนเขาคงลงจากเตียงไม่ไหว
กวนสีหลิ่นด้านบนนิ่งรับสายตาขุ่นเคืองโดยไม่คิดถอยหนี ผึ่งผายแผงอก มองลึกไปที่ท่านปู่ด้วยสายตาที่มีความเฉียบขาด ความแข็งขืนที่แอบแฝงในแววตา ทำให้ท่านผู้เฒ่ากวนที่เดิมยังโกรธเกรี้ยวไม่สิ้นสุด ตื่นตระหนกขึ้นมาในหัวใจชั่วขณะ
เมื่อกำลังจะเอ่ยปากให้ทุกคนออกไปก่อน ก็ได้ยินน้ำเสียงทรงพลังที่มีกลิ่นอายพลังเร้นลับดังลอยมาจากปาก เข้าสู่หูของทุกคนเบื้องล่างอย่างชัดเจน
“ข้า กวนสีหลิ่นขอประกาศไว้ ณ ที่นี้ ว่าจะถอนตัวจากตระกูล! ตั้งแต่วันนี้ไป ทั้งคนและเรื่องในตระกูลกวนนี้ จะไม่เกี่ยวข้องกับข้าอีก!”
น้ำเสียงชายหนุ่มเปล่งออกมาดังสนั่นและทรงพลัง ราวกับสายฟ้าผ่าลงในหัวใจผู้คนทีละถ้อยทีละคำ ระหว่างที่พวกเขาต่างสูดหายใจเข้ากันด้วยความตกใจ ก็รู้สึกเหลือเชื่อ
ถอนตัวจากตระกูล? เขาบ้าไปแล้วรึ?
การมีวงศ์ตระกูลคอยคุ้มหัวกับไม่มีนั้นช่างแตกต่างกันนัก เด็กหนุ่มที่มีความสามารถโดดเด่นเช่นนี้ การถอนตัวออกจากตระกูลจะหมายความว่าอะไร? นั่นหมายถึงการตัดขาดซึ่งหนทางการฝึกฝนวิชา พอไม่มีตระกูลคอยเป็นโล่กำบังให้ ก็กลายเป็นหัวเดียวกระเทียมลีบ!
ผู้นำตระกูลกวนที่ให้องครักษ์ประคองลูกชายตนเองกลับเข้าเรือนมองกวนสีหลิ่นด้านบนด้วยสีหน้าเคร่งขรึม แววตาเป็นประกายน้อยๆ ไม่พูดไม่จา
ทว่าท่านผู้เฒ่ากวนกลับโมโหเสียจนสั่นเทิ้มไปทั้งร่าง ชี้ไปที่เขา “เจ้า แน่จริงเจ้าลองพูดอีกรอบสิ!”
แววตากวนสีหลิ่นลึกล้ำ กล่าวด้วยน้ำเสียงแข็งกระด้าง “พูดอีกร้อยครั้งก็ยังเหมือนเดิม ข้ากวนสีหลิ่น ขอถอนตัวจากตระกูล!”
“กวนสีหลิ่น เจ้าชนะการคัดเลือก เป็นนายน้อยตระกูลกวน จะถอนตัวจากตระกูลได้เช่นไรเล่า!” ด้านล่างเวที เด็กหนุ่มคนหนึ่งตะคอกเสียงดังใส่กวนสีหลิ่นบนเวทีด้วยท่าทางกังวลใจ “เจ้ารีบๆ ยอมรับผิดซะ ท่านปู่จะได้ไม่เอาเรื่องเจ้า”
“ไม่ว่าพวกเจ้าจะยินยอมหรือไม่ วันนี้คำพูดของข้ามีเพียงเท่านี้ นี่เป็นเหตุผลที่ข้ากลับมาในวันนี้ ข้าจะไม่อยู่ในตระกูลกวนอีกต่อไป”
ได้ยินคำพูดนี้ ผู้เฒ่ากวนก็โวยวายด่าว่าเสียงดังอย่างเกรี้ยวกราด “ตระกูลกวนใจร้ายกับเจ้าหรืออย่างไร? เจ้าถึงอยากถอนตัว? วันนี้หากเจ้าไม่บอกเหตุผลมา ก็อย่าคิดว่าจะถอนตัวจากตระกูลได้ ข้ายังต้องเชิญกฎระเบียบประจำตระกูลออกมาสั่งสอนหลานชายไร้ยางอายเช่นเจ้าดีๆ อีก!”
……………………………
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เซียนหมอหญิงยอดนักฆ่า
ไม่ลงต่อแล้วเหรอ🥲...
ยัยน้องของเรามีผู้มาตมหาอีกคนแล้ว ท่านยมมม ว่าที่ภรรยาจะมีคนแย่งละนะ สนุกมากกกกก ช่วยมาลงตอนต่อไปนะคะ รอคอยๆๆ 😍😍😍...
เอ็นดูท่านยม จะสมหวังไหมเนี่ย 5555...
ถ้าคนต้องการฆ่าแม่ทัพใหญ่คือไอ่ผู้ครองแคว้นนะ มันก็เนรคุณเกิ้นนน...
ท่นเจ่าตำกนักพนายามหายไปไหยน๊อออิ ยัยหนูมีเรื่องแล่วว ใดใดคือทุกคนรู้ชื่อน้องหมด ยกเว้นเจ้าตำหนักขี่งอน 5555...
หมายปแงนางถามท่านอสหรือยังจ๊ะ 😁...
อิ่งอี 55555...
เรื่องนี้สนุกมาก อยากให้อัพเดตตอนทุกวันเลยค่ะ...
เพิ่งมาเจอเรื่องนี้ สนุก น่าติดตามมากเลยค่าาาา...