สรุปเนื้อหา ตอนที่ 13 แผ่นยาหนังวัว + ตอนที่ 14 แค่ขอทานคนหนึ่ง – เซียนหมอหญิงยอดนักฆ่า โดย Internet
บท ตอนที่ 13 แผ่นยาหนังวัว + ตอนที่ 14 แค่ขอทานคนหนึ่ง ของ เซียนหมอหญิงยอดนักฆ่า ในหมวดนิยายRomantic เป็นตอนที่โดดเด่นด้วยการพัฒนาเนื้อเรื่อง และเปิดเผยแก่นแท้ของตัวละคร เขียนโดย Internet อย่างมีศิลป์และชั้นเชิง ใครที่อ่านถึงตรงนี้แล้ว รับรองว่าต้องติดตามตอนต่อไปทันที
พอเห็นรอยยิ้มที่ปรากฏบนใบหน้านาง รวมถึงประกายที่ฉายอยู่ในดวงตา นึกถึงความนุ่มหยุ่นที่มือเขาจับไปก่อนหน้านี้ และยังสัมผัสยามริมฝีปากชนกัน เพียงชั่วครู่ ใบหน้าเขาก็มืดทะมึนลง แต่แค่ใบหน้าถูกหนวดเคราบังไว้จึงมองไม่ออกเท่านั้น
เห็นเขาหันเดินจากไปโดยไม่พูดไม่จา เฟิ่งจิ่วจึงตะลึงอยู่น้อยๆ เธอครุ่นคิดครู่หนึ่งก่อนจะสาวเท้าก้าวตามไป “ท่านอา ที่จริงพวกเราก็มีวาสนาต่อกันไม่ใช่หรือ? ขนาดท่านอยู่ด้านในนี้ก็ยังได้พบกันอีก ในเมื่อเป็นแบบนี้ ทำไมพวกเราไม่ร่วมทางกันเสียเลยล่ะ?”
เมื่อเห็นเขาเดินไปโดยไม่สนใจอย่างสิ้นเชิง เธอก็ไม่ใส่ใจ หากคิดถึงความแข็งแรงของตัวเอง วิ่งพล่านอยู่ที่นี่ตัวคนเดียวก็ยังอันตรายอยู่บ้างจริงๆ แต่ถ้าตามเขาคนนี้ไปด้วยจะปลอดภัยมากกว่าเยอะ
ดังนั้นเขาเดินเธอตาม เขาหยุดเธอก็หยุดตาม ทว่าหากเทียบกับคนที่ไม่คิดอะไรมากเช่นเธอ กลิ่นอายเย็นเยียบบนร่างของหลิงโม่หานตรงหน้ากลับยิ่งหนาแน่นขึ้น จนสุดท้าย ในที่สุดเขาก็กวาดตามองมาด้วยความเย็นชาอย่างเหลืออด พลางก็ขมวดคิ้วถาม “ทำไมเจ้าถึงเอาแต่ตามข้า?”
เขาคิดว่าตัวเองไม่ใช่คนที่เข้าหาง่ายอะไร ปกติพวกคนที่พบเห็นเขามีใครบ้างที่ไม่รักษาระยะห่างสักสามก้าว?
ต่อให้เป็นคนที่ไม่รู้กัน พอถูกเขาผลักไสก็จะไม่ทำตัวหน้าด้านหน้าทนตามติดไปตลอดอีก แต่กลายเป็นว่าหญิงคนนี้กลับทำตัวราวแผ่นยาหนังวัวเหนียวหนาที่สะบัดอย่างไรก็ไม่พ้น
“เพราะข้ารู้จักแค่ท่านคนเดียวน่ะสิ!” เฟิ่งจิ่วบอกเขาไปตามเหตุผลอันสมควร ถึงแววตาจะมีประกายหยอกล้อ แต่สิ่งที่แสดงออกบนใบหน้ากลับเป็นความจริงจังหาใดเปรียบ “ตั้งแต่ท่านให้เศษเงินกับข้า ข้าก็มั่นใจว่าท่านเป็นคนที่ดีมากๆ คนหนึ่ง!”
เส้นเลือดบนหน้าผากหลิงโม่หานเริ่มไม่สงบ คิ้วเขากระตุก สีหน้าก็ตึงๆ แม้กระทั่งริมฝีปากยังเม้มแน่นเป็นเส้นตรง สายตาลึกล้ำกวาดมองไปทางนาง ก่อนจะเดินหน้าต่อไปโดยไม่พูดอะไรอีก
หากรู้แต่แรกว่าเงินที่โยนช่วยไปจะนำแผ่นยาหนังวัวชิ้นนี้มาหาเขา ต่อให้มีเงินนั้นติดตัวเขาก็คงไม่โยนออกไปแน่ สวรรค์รู้ดีว่าตอนนั้นเขาไม่ได้มอบเศษเงินนั้นให้ด้วยความมีน้ำใจ แต่เพียงคลำเจอก้อนเงินจากเอวพอดี และเห็นว่าขอทานน้อยนั่งอยู่ตรงนั้นจึงโยนมันออกไป ใครจะไปรู้ว่า…
เฟิ่งจิ่วที่เดินตามหลิงโม่หานเห็นเขายิ่งเดินไปในที่ที่ลึกขึ้น สายตาก็เป็นประกายเล็กน้อยอย่างอดไม่ได้ เธอมองเงาร่างสีดำเบื้องหน้า แล้วถาม “ท่านอา ข้าได้ยินว่าด้านในนั้นมีสัตว์ร้ายอยู่มากนักจริงหรือไม่?” เดิมก็ไม่หวังให้เขากล่าวอะไร แต่นึกไม่ถึงว่ากลับได้ยินเสียงอันเฉยเมยและเย็นชาดังลอยมา
“ในเมื่อรู้แล้วก็รีบออกไปเสีย”
“ท่านอา ข้าก็ตามเก็บยาอยู่ข้างกายท่านนี่แหละ จะไม่สร้างปัญหาให้ท่านหรอก” เธอเพิ่งตรวจเส้นชีพจรดู พบว่าพอสำลักเลือดออกมาก็ถอนพิษในร่างไปมากกว่าครึ่ง ขอแค่ตอนเย็นกินสมุนไพรแก้พิษอีกรอบก็น่าจะใช้ได้แล้ว
เดิมทีเธอคิดจะถอนพิษในร่างแล้วค่อยออกไปจากป่าเก้าหมอบ ใครใช้ให้เธอได้พบท่านอาอีกกันล่ะ? เธอคิดจะหายาไประหว่างที่ตามอยู่ข้างๆ เขา ถึงแม้ก่อนหน้านี้เธอจะเข้ามาด้านในแล้ว แต่ก็เป็นแค่รอบนอกของด้านในอีกที ตอนนี้เดินตามเขาลึกเข้าไป ในใจเธอก็ทั้งตื่นเต้นและตั้งตารออยู่บ้าง
ไม่รู้ว่าด้านในจะมีสมุนไพรแบบไหนอีก? ได้ยินว่ายิ่งเป็นที่อันตรายก็ยิ่งได้พบยาทิพย์ หากเธอสามารถหายาทิพย์ได้ยิ่งดี ถึงไม่ได้ใช้ก็ยังเอาไปขายได้!
อีกอย่าง ตอนนี้ใบหน้าเธอถูกซูรั่วอวิ๋นทำลายจนเป็นเช่นนี้ ขนาดมองตัวเองยังรู้สึกกลัวเลย จึงเป็นธรรมดาที่เธอต้องคิดหาวิธีรักษาบาดแผลบนใบหน้าให้หายดี มิเช่นนั้นหากต้องใช้ใบหน้านี้ไปตลอดชีวิต คงได้ถูกปรามาสว่าเป็นปีศาจแน่
…………………………………………………….
ตอนที่ 14 แค่ขอทานคนหนึ่ง
ทั้งสองคนเดินตามกันไป เพราะคำเตือนของหลิงโม่หาน แม้เธอจะเดินตามก็อยู่ห่างจากเขาถึงสามก้าว และเธอก็รู้ว่าท่านอาผู้นี้ไม่อาจใกล้ชิดสตรีเพศ มิเช่นนั้นพอถูกเธอจูบโดยไม่ทันระวัง คงไม่เป็นลมไปอย่างรับไม่ได้เช่นนั้นหรอก
ถึงแม้เธอไม่ค่อยสบายใจ แต่ถึงอย่างไรอีกฝ่ายก็เป็นท่านอาที่อายุค่อนข้างมากผู้หนึ่ง เรื่องผ่านไปแล้วจะพูดถึงอีกก็ไม่ดีนัก ต่างฝ่ายจะได้ไม่กระอักกระอ่วนกันไปเปล่าๆ
หลังจากพินิจมองคนเหล่านั้นโดยไม่พูดไม่จาแวบหนึ่ง สายตาของเฟิ่งจิ่วจับจ้องไปที่ร่างของสาวน้อยผู้นั้น เห็นว่านางสวมชุดกระโปรงเกาะอกผ้าโปร่งบางสีชมพู เนินอกอวบอิ่มที่โผล่ออกมาเกินครึ่งช่างทรงเสน่ห์ เอวเล็กๆ ก็บีบรัดเสียจนดูเพรียวบางอ่อนช้อย ทว่าจากคันธนูดำในมือกับลูกศรที่ด้านหลัง ชัดเจนมากว่านางคือคนที่ยิงลูกศรดอกนั้นมา
“ส่งต้นสามแฉกแดงมาซะ!”
สาวน้อยผู้นั้นมองเฟิ่งจิ่วที่เนื้อตัวสกปรกด้วยสายตาหยิ่งผยอง พร้อมพูดอย่างดูถูกว่า “ขอทานคนหนึ่งไม่ไปนั่งมุมถนน ซ้ำยังกล้าวิ่งเข้ามาหาที่ตายถึงในนี้อีก ใช้ชีวิตเบื่อแล้วจริงๆ สินะ!”
สายตามองประเมินโดยไม่ปิดบังของเฟิ่งจิ่วกวาดมองที่ร่างนาง แล้วกล่าวน้ำเสียงเหยียดหยามเลียนอย่างอีกฝ่าย “แล้วเจ้าไม่ไปอยู่ที่เรือนอี้หง[1] กลับวิ่งมาอวดเนื้อหนังถึงป่าเก้าหมอบ อยากจะยั่วยวนใครกัน?”
เฟิ่งจิ่วพูดออกมาเช่นนี้ มุมปากของหลิงโม่หานด้านหน้าก็กระตุกเล็กน้อย แล้วส่ายหัวกับตัวเอง ‘นางใช่ผู้หญิงเสียที่ไหน? ก็เป็นอันธพาลอยู่ชัดๆ’
เมื่อคนทางด้านของสาวน้อยได้ยินกลับมีท่าทีเย็นชา สายตาแต่ละคู่ที่มีจิตสังหารจับจ้องอยู่บนร่างเฟิ่งจิ่วราวกับกระบี่คม มีเพียงชายวัยกลางคนกับชายหนุ่มที่ยังมีท่าทีเช่นในตอนแรก แค่แววตาทั้งสองที่มองเฟิ่งจิ่วกลับเหมือนกำลังมองคนตายก็ไม่ปาน…
“เจ้ามันรนหาที่ตาย!”
…………………………….……………………….
[1] เรือนอี้หง คือที่พำนักของเจียเป่าอวี้จากเรื่อง ‘ความฝันในหอแดง’ อยู่ภายในอุทยานต้ากวนซึ่งเป็นสถานที่ที่คุณหนูและสตรีของตระกูลอยู่ร่วมกัน
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เซียนหมอหญิงยอดนักฆ่า
ไม่ลงต่อแล้วเหรอ🥲...
ยัยน้องของเรามีผู้มาตมหาอีกคนแล้ว ท่านยมมม ว่าที่ภรรยาจะมีคนแย่งละนะ สนุกมากกกกก ช่วยมาลงตอนต่อไปนะคะ รอคอยๆๆ 😍😍😍...
เอ็นดูท่านยม จะสมหวังไหมเนี่ย 5555...
ถ้าคนต้องการฆ่าแม่ทัพใหญ่คือไอ่ผู้ครองแคว้นนะ มันก็เนรคุณเกิ้นนน...
ท่นเจ่าตำกนักพนายามหายไปไหยน๊อออิ ยัยหนูมีเรื่องแล่วว ใดใดคือทุกคนรู้ชื่อน้องหมด ยกเว้นเจ้าตำหนักขี่งอน 5555...
หมายปแงนางถามท่านอสหรือยังจ๊ะ 😁...
อิ่งอี 55555...
เรื่องนี้สนุกมาก อยากให้อัพเดตตอนทุกวันเลยค่ะ...
เพิ่งมาเจอเรื่องนี้ สนุก น่าติดตามมากเลยค่าาาา...