ส่วนอีกด้าน เฟิ่งจิ่วที่หาที่ย่างเนื้อสัตว์ร้ายกินกลับไม่เดินไปด้านในอีก
เธอนั่งไตร่ตรองอยู่เงียบๆ ใต้ต้นไม้ แม้พิษในร่างจะถอนไปแล้ว ถือว่ารักษาชีวิตนี้ไว้ได้ แต่หากจากป่าเก้าหมอบกลับไปบ้านตระกูลเฟิ่งทั้งแบบนี้ เดาว่าคงยากนักที่จะทำให้คนตระกูลเฟิ่งเชื่อว่าเธอคือเฟิ่งชิงเกอ
ถึงแม้เธอจะเป็นเฟิ่งชิงเกอ ทว่านอกจากเธอกับซูรั่วอวิ๋น ใครเล่าจะเชื่อว่าเธอคือเฟิ่งชิงเกอจริงๆ? ถึงอย่างไร เมื่อเทียบกับคนที่ใบหน้าเสียโฉมคนหนึ่ง เฟิ่งชิงเกอแห่งตระกูลเฟิ่งที่มีรูปโฉมงดงามเพริศพริ้งต่างหากถึงจะเป็นตัวจริงในสายตาของผู้คน
เธอพอคาดการณ์ได้ว่า หากอาจหาญเดินไปหน้าประตูตระกูลเฟิ่งเพื่อบอกว่าตนคือเฟิ่งชิงเกอ ส่วนซูรั่วอวิ๋นนั้นคือตัวปลอม เดาว่าแม้แต่ประตูบ้านตระกูลเฟิ่งเธอคงไม่ได้เข้า และก็ต้องถูกรุมตีตายอยู่นอกประตู
และอีกอย่าง ซูรั่วอวิ๋นผู้นั้นก็รับมือไม่ง่าย! ถ้าไม่มีกลยุทธ์ที่สมบูรณ์แบบ เธอคงไม่อาจกลับไปบ้านตระกูลเฟิ่งได้
‘เฮ้อ! เรื่องวุ่นวายของเจ้าของร่างก่อนนี่ช่างเป็นปัญหาจริงๆ’ สองมือเธอประสานไว้หลังหัว ร่างเอนหลังพิงต้นไม้พลางมองท้องฟ้าด้านบน
‘ใช่แล้ว เราต้องอาศัยโอกาสนี้ถึงจะดึงพลังเข้าร่างได้อีกครั้ง!’ ดวงตาเธอเป็นประกาย จากนั้นนั่งหลังตรงแล้วกระซิบว่า “แม้เราจะไม่รู้ว่าต้องใช้เคล็ดวิชาอะไรในการดึงพลังเข้าร่าง แต่ความทรงจำในหัวก็ยังมีอยู่!”
เมื่อคิดถึงตรงนี้ ทั้งร่างเธอก็กระปรี้กระเปร่าขึ้นมาทันใด โลกนี้มีการฝึกบำเพ็ญเซียน แน่นอนว่าผู้ฝึกฝนพลังเร้นลับนั้นมีค่อนข้างเยอะ เพราะในร้อยคนจะมีอย่างมากหนึ่งถึงสองคนที่ฝึกฝนพลังเร้นลับได้ ส่วนพลังวิญญาณ พูดได้ว่ามีเพียงหนึ่งถึงสองคนในหมื่นคนเท่านั้น
ความแตกต่างระหว่างพลังเร้นลับกับพลังวิญญาณก็คือ พลังเร้นลับเป็นการฝึกฝนร่างกาย ส่วนพลังวิญญาณเป็นการฝึกกายเซียน
เซียนสามารถขี่เมฆเคลื่อนหมอกเหาะเหินเดินอากาศ เรียกลมเรียกฝนทำได้ทุกอย่าง จะย้ายภูเขาหรือพลิกมหาสมุทรก็ทำได้ในเวลาอันสั้น
แต่เพราะมีผู้ฝึกฝนพลังวิญญาณค่อนข้างน้อย และในแคว้นเล็กๆ ระดับเก้าอย่างแคว้นแสงสุริยันนี้ก็ไม่มีแผ่นหินวิญญาณสำหรับทดสอบพลังวิญญาณ ด้วยเหตุนี้ไม่ว่าจะเป็นบุตรของตระกูลใหญ่หรือเชื้อพระวงศ์ ปกติเมื่อผ่านการทดสอบพลังเร้นลับก็ล้วนได้เริ่มฝึกฝนเพียงพลังเร้นลับ
นอกเสียจากมีพรสวรรค์ดีเลิศ ในอนาคตถึงจะมีโอกาสได้เดินทางออกจากแคว้นแสงสุริยันไปทดสอบพลังวิญญาณยังแคว้นเล็กระดับเจ็ดขึ้นไป ตามความทรงจำในหัวเธอ ว่ากันว่าทั่วแคว้นแสงสุริยันคนที่ฝึกฝนพลังวิญญาณได้มีแค่สามคน
แต่มีคนกล่าวว่า ผู้ฝึกเซียนพลังวิญญาณทั้งสามต่างจากแคว้นแสงสุริยันไปหลายปีแล้ว แม้จะเป็นเช่นนั้น แต่ฐานะวงศ์ตระกูลของพวกเขาในแคว้นนี้กลับไม่มีสั่นคลอน
เธอทำตามใจตัวเอง หากพูดว่าจะทำก็ทำเลย
ทันใดนั้น เธอนั่งขัดสมาธิ หลับตาลงแล้วลองดึงพลังเข้าร่างตามคาถาฝึกฝนวิชาในหัว…
ทว่าจินตนาการไว้งดงาม ความจริงกลับโหดร้าย
หลังจากเธอละทิ้งความคิดฟุ้งซ่าน ปล่อยใจให้ว่าง พลางท่องคาถาในใจเพื่อลองดึงพลังเข้าร่าง กลับหลับตาอยู่โดยไม่คิดอะไร พอนั่งไปนานๆ จึงไม่ระวังเผลอหลับไปจนได้…
“บรู้ว!”
เสียงเห่าหอนของสัตว์ร้ายที่ดังมาจากในป่าลึกทำให้เธอตื่นขึ้น
“หือ?”
เธอลืมตาอย่างง่วงงุน แล้วหาวหวอด ทั้งร่างแสดงอาการเกียจคร้านออกมาเล็กน้อย พอนึกว่าตัวเองหลับไปในขณะที่นั่งสมาธิดูดซับพลังอย่างไม่น่าเชื่อ เธอจึงส่ายหน้าหัวเราะเบาๆ อย่างอดไม่ได้ “หลับตาและไม่คิดอะไรโดยไม่ให้เคลิ้มหลับนี่ก็ยากนะ!”
เธอลูบๆ ท้ายทอยแล้วลุกยืนขึ้นมาขยับแขนขา เพราะเพิ่งหลับไปหนึ่งตื่นจึงดูสดชื่นอยู่ไม่น้อย จากนั้นเธอค่อยนั่งขัดสมาธิใต้ต้นไม้อีกครั้ง พอมีตัวอย่างก่อนหน้า รอบนี้จึงทำจิตใจให้ตื่นตัวและมั่นคง ก่อนจะท่องคาถาเหนี่ยวพลังในใจ
เมื่อเวลาผ่านไปอย่างเงียบเชียบ อีกสองชั่วยามให้หลัง รอบกายเธอก็มีกลิ่นอายพลังเร้นลับจางๆ ลอยอยู่เลือนราง…
…………………………………………………….
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เซียนหมอหญิงยอดนักฆ่า
ไม่ลงต่อแล้วเหรอ🥲...
ยัยน้องของเรามีผู้มาตมหาอีกคนแล้ว ท่านยมมม ว่าที่ภรรยาจะมีคนแย่งละนะ สนุกมากกกกก ช่วยมาลงตอนต่อไปนะคะ รอคอยๆๆ 😍😍😍...
เอ็นดูท่านยม จะสมหวังไหมเนี่ย 5555...
ถ้าคนต้องการฆ่าแม่ทัพใหญ่คือไอ่ผู้ครองแคว้นนะ มันก็เนรคุณเกิ้นนน...
ท่นเจ่าตำกนักพนายามหายไปไหยน๊อออิ ยัยหนูมีเรื่องแล่วว ใดใดคือทุกคนรู้ชื่อน้องหมด ยกเว้นเจ้าตำหนักขี่งอน 5555...
หมายปแงนางถามท่านอสหรือยังจ๊ะ 😁...
อิ่งอี 55555...
เรื่องนี้สนุกมาก อยากให้อัพเดตตอนทุกวันเลยค่ะ...
เพิ่งมาเจอเรื่องนี้ สนุก น่าติดตามมากเลยค่าาาา...