ตอนที่ 529 มีเรื่องขอร้อง
หัวหน้าเคอหันไปมอง เป็นภูตหมอดังคาด จึงรีบร้อนลุกขึ้นไปต้อนรับ ตอนกำลังจะเรียกออกไปว่าภูตหมอก็นึกถึงคำพูดที่อีกฝ่ายกำชับไว้จึงเปลี่ยนคำ ขานเรียกด้วยใบหน้าประดับรอยยิ้มว่า “คุณชายจิ่ว ท่านกลับมาแล้ว”
“ท่านหัวหน้าเคอ?” เฟิ่งจิ่วเลิกคิ้วขึ้น มองคนที่เข้ามาต้อนรับด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม
“รู้ว่าคุณชายจิ่วพักอยู่ที่นี่ ข้าจึงมาเยี่ยมโดยเฉพาะ” เขายิ้มหยีตา รอยยิ้มที่เป็นมิตรทำให้เขาดูแล้วเหมือนจะน่าคบหายิ่งนัก
แต่ใครๆ ต่างรู้กัน เป็นหัวหน้าตลาดมืดได้จะเป็นคนน่าคบหาได้อย่างไร? แค่เขามีท่าทีแตกต่างออกไปกับแต่ละคนที่ต่างกันเท่านั้นเอง
“ข้าออกไปแต่เช้าตรู่ คิดว่าหัวหน้าเคอคงรอนานแล้วกระมัง?” เธอยิ้มๆ เห็นเขามาถึงที่นี่แล้ว ย่อมไม่อาจเสียมารยาทเป็นธรรมดา ดังนั้นจึงทำมือเชื้อเชิญ “เชิญหัวหน้าเคอด้านใน ข้าเพิ่งกลับมาจากข้างนอกพอดี ยังไม่ได้กินมื้อเที่ยงเลย มาด้วยกันสิ!”
ได้ยินคำพูดนี้ ไฟโกรธในใจหัวหน้าเคอที่รอมากว่าชั่วยามพลันหายไป รอยยิ้มบนหน้ายิ่งกว้างขึ้น รีบบอกว่า “น้ำใจของคุณชายจิ่ว ทำให้ข้าปลาบปลื้มใจจริงๆ”
ขณะพูดก็เห็นชายไว้เคราหนาสวมชุดคลุมสีดำเดินเข้ามา ฝีเท้าหยุดลงข้างกายเฟิ่งจิ่ว เห็นเช่นนี้เขาจึงถาม “ไม่ทราบว่าท่านนี้คือ?”
“เขาเป็นเพื่อนข้า แซ่หลิง” เฟิ่งจิ่วยิ้มๆ มองหลิงโม่หานข้างกายและเอ่ยว่า “ท่านนี้คือหัวหน้าตลาดมืด”
หลิงโม่หานทำเพียงกวาดมองหัวหน้าเคอ ก่อนสาวก้าวเดินไปด้านในโดยไม่แม้แต่จะทักทาย
แม้เป็นเช่นนี้ ใบหน้าหัวหน้าเคอกลับไม่กล้ามีอาการไม่พอใจเพราะเพิ่งโดนชายคนนั้นกวาดตามอง เมื่อแววตาเฉียบคมลึกล้ำนั้นมองผ่านบนร่างเขา พริบตานั้นร่างกายเหมือนถูกกลิ่นอายหนาวเหน็บเย็นเยียบปกคลุม ทำเอาใจเขาหวาดหวั่น
แค่แววตาเดียวยังทำให้เขาหวาดกลัวได้ ผู้ชายคนนั้นไม่ใช่คนธรรมดาแน่ๆ!
“ขออภัยด้วย เขาเป็นคนแบบนี้แหละ” เฟิ่งจิ่วยิ้มขอโทษ
“ไม่เป็นไรๆ” หัวหน้าเคอหัวเราะร่า จากนั้นถึงตามเขาเข้าไปด้านใน
เหลิ่งหวาสั่งเถ้าแก่เตรียมพวกอาหารส่งขึ้นมาบนห้องปีกชั้นสอง เถ้าแก่ไม่กล้าละเลย รีบสั่งเสี่ยวเอ้อร์ไปจัดการ ในใจถอนหายใจเบาๆ ดีแล้วที่ไม่ได้มาหาเรื่องกัน เขาก็กลัวว่าโรงเตี๊ยมนี้จะโดนถล่มเสียแล้ว
ห้องปีกชั้นสอง เฟิ่งจิ่วกับหลิงโม่หานรวมถึงหัวหน้าเคอสามคนนั่งลงตรงโต๊ะในห้องด้านนอก สุราอาหารยังไม่มา เหลิ่งหวาข้างๆ จึงรินน้ำชาให้ทั้งสามคน จากนั้นไปยืนเงียบอยู่อีกด้าน
“คุณชายจิ่ว นี่เป็นของขวัญที่เตรียมไว้ให้ท่านเป็นพิเศษ” หัวหน้าเคอส่งสัญญาณให้คนนำของขวัญเข้ามา
“ไม่มีผลงานไม่รับสินจ้าง ของขวัญชิ้นนี้ข้าจะรับไว้ได้อย่างไร!”
หัวหน้าเคอยิ้มๆ “เป็นของเฉพาะในท้องถิ่นเล็กๆ น้อยๆ ทั้งนั้น ไม่ใช่ของขวัญล้ำค่าอะไร คุณชายจิ่วโปรดรับไว้ด้วย!”
กล่าวไปเช่นนี้ หากเฟิ่งจิ่วไม่กล้าก็ไม่ไว้หน้ากันแล้ว ดังนั้นเธอจึงให้สัญญาณเหลิ่งหวามมาเก็บของไป พลางบอกกับหัวหน้าเคอ “เช่นนั้นต้องขอบคุณหัวหน้าเคอมาก”
“ข้าขอละลาบละล้วง อันที่จริงวันนี้มาเยี่ยมเยือน แท้จริงมีเรื่องจะขอร้อง” เขาไม่อ้อมค้อม บอกเจตนาที่มาหาตามตรง
ได้ยินแล้วเฟิ่งจิ่วเหลือบมองหลิงโม่หานที่ดื่มชาอยู่เงียบๆ แล้วมองหัวหน้าเคอ เอ่ยด้วยรอยยิ้มว่า “หัวหน้าเคอเป็นถึงหัวหน้าตลาดมืด เรื่องที่แม้แต่หัวหน้าเคอยังทำไม่ได้ เกรงว่าจะช่วยอะไรได้ยากนัก”
คนในห้องพลันกลายเป็นหินเมื่อได้ยิน ความตกตะลึงบนหน้าเผยออกมาทันใดอย่างไม่อาจปิดบัง
โดยเฉพาะหัวหน้าเคอ ยิ่งอ้าปากค้างด้วยความตื่นตกใจ มองชายที่ไว้เคราหนาอย่างตาค้างไปบ้าง คะ คำพูดนี้หมายความว่าอะไร? จะให้มือคุณชายจิ่วแตะมือเขาไม่ได้หรือ?
ริมฝีปากขยับ อยากจะส่งเสียงเอ่ยถาม แต่เมื่อเห็นสายตาชายหนุ่มที่นั่งตัวตรงสุขุมมั่นคงกวาดมองมาอย่างเย็นชา ก็รู้สึกเพียงว่าเย็นวาบบนแผ่นหลัง กระสับกระส่ายทันใด
ได้ยินเช่นนี้ เหลิ่งหวามองนายท่านแวบหนึ่ง แล้วถึงจะหยิบผ้าเช็ดหน้าบางๆ ผืนเล็กจากในแขนเสื้อออกมาปิดบริเวณข้อมือของหัวหน้าเคอ พลางพูดอธิบาย “นายท่านข้าจะตรวจชีพจรเช่นนี้เสมอแหละขอรับ”
“ข้าไม่รู้ระเบียบของคุณชายจิ่ว โชคดีที่…ที่คุณชายหลิงท่านนี้เตือนไว้” เขายิ้มหน้าเหยเก หัวหน้าตลาดมืดผู้สง่างามกลับหวาดกลัวเมื่ออยู่ต่อหน้าชายมีเคราหนาผู้นี้ เดาว่าพูดออกไปคงไม่มีใครเชื่อ
เฟิ่งจิ่วเหลือบมองหลิงโม่หานเหมือนยิ้มแต่ก็ไม่ยิ้ม จากนั้นยื่นนิ้วออกมาสองสามนิ้วและกดลงบนข้อมือหัวหน้าเคอ พอตรวจไปก็ตกใจอย่างอดไม่ได้ ต่อมาจึงค่อยยิ้ม “หัวหน้าเคอ ท่านไม่ต้องกังวลไป ผ่อนคลายหน่อย ชีพจรเต้นเร็วเกินไปจะวินิจฉัยไม่แม่นยำ”
“อ้อ ได้ๆๆ” แม้เขาจะรับปากไปเช่นนี้ แต่เห็นดวงตาชายเคราหนาจับจ้องพวกเขาตรงนี้ตลอด ร่างกายจึงไม่อาจผ่อนคลายลงได้
เห็นเช่นนี้ เฟิ่งจิ่วทำได้เพียงส่ายหน้าอย่างจนปัญญา ดึงมือกลับมา “เช่นนี้ไม่ได้ ตรวจไม่พบเลย กินอะไรก่อนดีกว่า ประเดี๋ยวค่อยตรวจอีกแล้วกัน!” พูดจบเธอก็มองหลิงโม่หาน ถามด้วยรอยยิ้มหยอกล้อ “ท่านอา ข้าเห็นช่วงนี้ท่านไอบ่อยๆ อายุมากแล้วสุขภาพไม่ค่อยดีใช่หรือไม่? หรือว่าต้องให้ข้าดูหน่อย?”
หลิงโม่หานได้ยินเช่นนี้ก็ยกถ้วยชาขึ้นมาดื่มน้ำอีกครั้งอย่างค่อนข้างเก้กัง ดวงตามองไปอีกทางหนึ่ง ไม่ได้ตอบรับคำพูดนาง
สายตาหัวหน้าเคอพินิจมองทั้งสองคนกลับไปกลับมา เห็นพวกเขาท่าทางแปลกๆ เช่นนี้ ในหัวก็มีความคิดหนึ่งผุดขึ้นมา ‘สองคนนี้คงไม่ได้เป็นพวกรักร่วมเพศกระมัง?’
ตั้งแต่เข้ามาเมื่อครู่ สายตาของชายไว้เคราหนาก็จับจ้องบนตัวภูตหมอตลอด ภูตหมอจะจับชีพจรให้ตนเขายังให้ใช้ผ้าเช็ดหน้ากั้นไว้ นึกถึงตรงนี้ ใบหน้าชราแดงเรื่อ ใช้ชีวิตมาจนแก่เฒ่าเพียงนี้แล้วเพิ่งเคยเจอพวกตัดแขนเสื้อเป็นครั้งแรก
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เซียนหมอหญิงยอดนักฆ่า
ไม่ลงต่อแล้วเหรอ🥲...
ยัยน้องของเรามีผู้มาตมหาอีกคนแล้ว ท่านยมมม ว่าที่ภรรยาจะมีคนแย่งละนะ สนุกมากกกกก ช่วยมาลงตอนต่อไปนะคะ รอคอยๆๆ 😍😍😍...
เอ็นดูท่านยม จะสมหวังไหมเนี่ย 5555...
ถ้าคนต้องการฆ่าแม่ทัพใหญ่คือไอ่ผู้ครองแคว้นนะ มันก็เนรคุณเกิ้นนน...
ท่นเจ่าตำกนักพนายามหายไปไหยน๊อออิ ยัยหนูมีเรื่องแล่วว ใดใดคือทุกคนรู้ชื่อน้องหมด ยกเว้นเจ้าตำหนักขี่งอน 5555...
หมายปแงนางถามท่านอสหรือยังจ๊ะ 😁...
อิ่งอี 55555...
เรื่องนี้สนุกมาก อยากให้อัพเดตตอนทุกวันเลยค่ะ...
เพิ่งมาเจอเรื่องนี้ สนุก น่าติดตามมากเลยค่าาาา...