ตอนที่ 625 เม็ดบัวเขียวก่อกำเนิด
สีหน้าเฟิ่งจิ่วแปลกไปพลางนั่งมึนงง รู้สึกเพียงว่าเหลือเชื่อบวกด้วยความแปลกใจ ทำไมของที่กินลงไปถึงไม่ย่อย? ซ้ำยังวิ่งไปถึงจุดตันเถียนและดูดซับกลิ่นอายพลังวิญญาณในร่างไว้ด้วย?
เม็ดบัวเม็ดนี้เป็นเม็ดบัวอะไรกันแน่?
หากไม่ห่างกันไกล เธออยากจะวิ่งกลับไปถามชายชราคนนั้นจริงๆ ว่าเอาเม็ดบัวจากไหนมาให้เธอกินกันแน่ ถึงอยู่ในจุดตันเถียนตลอดโดยไม่ย่อยสลาย เช่นนั้นรากฐานที่เธอเตรียมไว้แต่เดิมทียิ่งต้องล่าช้าไม่ใช่หรือ?
อสูงกลืนเมฆานอนอยู่ข้างๆ อย่างเชื่องๆ ดวงตาคู่นั้นกลิ้งหันไปจ้องมองนายท่านที่ท่าทีแปลกๆ ไม่กล้ารบกวน เห็นนางเข้ามาอย่างกะทันหันและนั่งขันสมาธิฝึกบำเพ็ญอยู่ตรงนั้น จากนั้นก็นั่งนิ่งงันไปสักพัก ก่อนจะลุกขึ้นไปพลิกหาหนังสือเก่าตรงที่เก็บตำราหนังสือข้างๆ แล้วหยิบมันแวบร่างออกไป
คืนนี้เฟิ่งจิ่วหาข้อมูลและพลิกอ่านตำราเก่าอยู่ในห้องทั้งคืน อ่านเรื่องเกี่ยวกับเม็ดบัวไปรอบหนึ่ง สุดท้ายก็อ่านเจอแค่ข้อมูลเล็กน้อยที่บันทึกถึงเม็ดบัวเขียวก่อกำเนิดไว้หลังตำราเก่าเล่มหนึ่ง
“เม็ดบัวเขียวก่อกำเนิด? เป็นไปไม่ได้กระมัง?”
เธอตกตะลึงนิดหน่อย เทียบกับข้อมูลเล็กน้อยของเม็ดบัวเขียวก่อกำเนิดที่บันทึกไว้ในตำราเก่า เธอในชาติภพก่อนเป็นถึงหัวหน้าองค์กรลับ จึงเคยได้ยินเรื่องเล่าของเม็ดบัวเขียวก่อกำเนิด แต่ตลอดมาเธอคิดว่านั่นเป็นแค่เรื่องเล่าเท่านั้น ยิ่งไม่ต้องพูดถึงเม็ดบัวเม็ดนั้นที่นอนอยู่ในจุดตันเถียนตอนนี้
เธอยื่นมือไปคลำตรงจุดตันเถียนตัวเอง พร้อมทั้งพึมพำเสียงเบาด้วยสีหน้าแปลกๆ “หากเป็นเม็ดบัวเขียวก่อกำเนิดจริง เช่นนั้นก็เท่ากับเก็บได้สมบัติชิ้นใหญ่ แต่เม็ดบัวเขียวเม็ดนั้นอยู่ในจุดตันเถียน ซ้ำยังดูดซับกลิ่นอายพลังวิญญาณ หรือว่าต้องใช้พลังวิญญาณหล่อเลี้ยง?”
เธอคิดอยู่ในห้องนานมาก แม้มีแค่ความคิดเช่นนั้น แต่อย่างไรก็รู้สาเหตุที่พลังวิญญาณในร่างหายไปแล้ว และรู้ว่าแม้เม็ดบัวเขียวตรงจุดตันเถียนนั้นไม่ใช่เม็ดบัวเขียวก่อกำเนิด ก็คงไม่มีผลเสียอะไรต่อร่างกาย
แต่ไม่รู้ว่าต้องเลี้ยงเม็ดบัวเขียวเม็ดนี้ไปนานแค่ไหนถึงจะเห็นมันเติบโต?
เธอเก็บความคิดและความสงสัยนี้ไว้ ภายในเวลาต่อมา เดิมตั้งใจจะเดินเล่นในเมืองซิงอวิ๋น แต่เพราะเม็ดบัวเขียวตรงจุดตันเถียนเธอจึงเก็บตัวอยู่แต่ในโรงเตี๊ยม แล้วเข้าไปฝึกบำเพ็ญกลิ่นอายพลังวิญญาณในห้วงมิติทั้งวันทั้งคืน เหมือนอยากจะลองเสียหน่อยว่าต้องใช้กลิ่นอายพลังวิญญาณหล่อเลี้ยงเท่าไรกันแน่ถึงจะทำให้มันงอกงามได้
ทว่าตามเวลาที่เลยผ่าน วันคืนผ่านไปทีละวันๆ จนถึงสามวันก่อนการรับสมัครนักเรียนของสำนักศึกษาหมอกดารา เม็ดบัวเขียวตรงจุดตันเถียนยังคงไม่มีการเปลี่ยนแปลงแม้แต่น้อย กลิ่นอายพลังวิญญาณที่เธอฝึกบำเพ็ญหากเข้าสู่ร่างกายก็จะหายไปอย่างไร้ร่องรอย
เช้าตรู่วันนี้ ในที่สุดเธอก็เก็บความคิดไป ก้าวออกจากห้องไปเดินเล่นในลานบ้านสาธารณะของโรงเตี๊ยมสักพัก แล้วนั่งลงตรงโต๊ะหิน นิ้วมือเคาะบนหน้าโต๊ะเบาๆ เดี๋ยวเคาะเดี๋ยวหยุดเป็นพักๆ ไม่รู้กำลังคิดอะไร
“น้องชายมาลงชื่อสมัครเรียนที่สำนักศึกษาหมอกดาราเช่นกันใช่หรือไม่?”
น้ำเสียงที่มีรอยยิ้มลอยมา เฟิ่งจิ่วได้สติกลับมาก็เงยหน้ามองไป เพียงเห็นชายชุดฟ้าท่าทางไม่ธรรมดาเดินออกมาจากห้องข้างๆ เธอ มือหนึ่งไพล่หลังไว้ อีกมือหนึ่งวางไว้ด้านหน้าพลางเดินมาทางเธอ ในดวงตามีรอยยิ้มแปลกๆ ที่มองแล้วไม่เข้าใจ
“ใช่” เธอพยักหน้า เอ่ยถามพร้อมเผยรอยยิ้ม “พี่ชายด้วยหรือ?”
“ใช่แล้ว! ความหวังของผู้อาวุโสในตระกูล ไม่มาไม่ได้”
เขาพูดพลางหัวเราะเสียงดัง แล้วมานั่งลงข้างกายเฟิ่งจิ่ว มองเธอด้วยดวงตามีรอยยิ้ม “พักอยู่ที่นี่มาสักพักแล้ว นึกไม่ถึงว่าจะพบน้องชายที่นี่”
ได้ยินคำพูดนี้ เฟิ่งจิ่วก็เลิกคิ้วขึ้น
………………………………………………….
ตอนที่ 626 ร่วมทางไปด้วยกัน
น้องเฟิ่ง? นี่เป็นครั้งแรกเลยจริงๆ ที่มีคนเรียกเธอเช่นนี้ คำเรียกนี้มากพอจะทำให้เธอหมดคำพูดจริงๆ
“พี่เซียว มีเรื่องอะไรหรือ?” เธอเอ่ยถามพลางมองยังเขา
เซียวอี้หานมองหนุ่มน้อยชุดแดงข้างกายที่หน้าตาหล่อเหลา เอ่ยยิ้มๆ อย่างหยอกล้อ “หรือว่ากำลังคิดถึงสาวงามคนไหน? พี่ชายเรียกตั้งหลายครั้งเจ้าถึงจะได้สติกลับมา”
“พี่เซียวไม่ต้องแกล้งข้าแล้ว” เธอส่ายหน้าพร้อมหลุดยิ้ม
“ได้ แค่ล้อเจ้าเล่นเอง เจ้าดูสิ โรงเหล้าร้านนี้มีชื่อเสียงมากในเมืองฝั่งตะวันออก หากมาช้าก็ไม่เหลือที่แล้ว” เขาพูดพลางสาวก้าวเดินไปด้านใน บอกว่า “รีบตามพี่ชายเข้ามาสิ”
เห็นเช่นนี้เฟิ่งจิ่วถึงจะก้าวเดินเข้าไป ก็ได้ยินเสี่ยวเอ้อกำลังคุยกับเขาว่าไม่มีห้องเหลือมีแต่ที่นั่งเล่นตรงชั้นสอง
“เช่นนั้นก็ได้! ที่นั่งเล่นก็ที่นั่งเล่น” เซียวอี้หานโบกมือ บอกกับเฟิ่งจิ่วว่า “น้องเฟิ่ง ไม่มีห้องเหลือมีแต่ที่นั่งเล่น เจ้าคงไม่รังเกียจกระมัง?”
“ไม่แน่นอน” เธอพูดยิ้มๆ แล้วเดินไปยังที่นั่งเล่นชั้นสองพร้อมกับเขา
สองคนสั่งอาหารแนะนำมาแปดอย่าง สั่งเหล้ามาสองไห กินกันไปคุยกันไปพลางๆ เซียวอี้หานเห็นหนุ่มน้อยชุดแดงยกเหล้าขึ้นจิบน้อยๆ ก็เอ่ยอย่างยิ้มแย้มว่า “น้องเฟิ่ง การสมัครสอบอีกสามวันให้หลัง พวกเราไปด้วยกันเถอะ!”
………………………………………………….
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เซียนหมอหญิงยอดนักฆ่า
ไม่ลงต่อแล้วเหรอ🥲...
ยัยน้องของเรามีผู้มาตมหาอีกคนแล้ว ท่านยมมม ว่าที่ภรรยาจะมีคนแย่งละนะ สนุกมากกกกก ช่วยมาลงตอนต่อไปนะคะ รอคอยๆๆ 😍😍😍...
เอ็นดูท่านยม จะสมหวังไหมเนี่ย 5555...
ถ้าคนต้องการฆ่าแม่ทัพใหญ่คือไอ่ผู้ครองแคว้นนะ มันก็เนรคุณเกิ้นนน...
ท่นเจ่าตำกนักพนายามหายไปไหยน๊อออิ ยัยหนูมีเรื่องแล่วว ใดใดคือทุกคนรู้ชื่อน้องหมด ยกเว้นเจ้าตำหนักขี่งอน 5555...
หมายปแงนางถามท่านอสหรือยังจ๊ะ 😁...
อิ่งอี 55555...
เรื่องนี้สนุกมาก อยากให้อัพเดตตอนทุกวันเลยค่ะ...
เพิ่งมาเจอเรื่องนี้ สนุก น่าติดตามมากเลยค่าาาา...