เซียนหมอหญิงยอดนักฆ่า นิยาย บท 637

ตอนที่ 637 ตบหน้า

“อาจารย์บอกว่ายกเว้นค่าเล่าเรียนทั้งหมด เช่นนั้นจึงไม่ต้องจ่ายเงิน ประหยัดเงินไปได้ก้อนใหญ่จริงๆ!” เฟิ่งจิ่วโยนป้ายหยกในมือ เดินผ่านข้างกายชายชราพลางกระซิบเบาๆ เสียงไม่ดังไม่เบา แต่พอจะทำให้ชายชราคนนั้นได้ยินชัดเจน

ชายชราอ้าปากกว้างอึ้งมองหนุ่มน้อยชุดแดงที่เดินผ่านข้างกายไป อีกทั้งโยนป้ายหยกในมือเล่นพลางกระซิบเสียงค่อย รู้สึกแต่ว่าหัวใจเต้นสะดุด เบื้องหน้าค่อนข้างดำมืด

หนุ่มน้อยคนนั้นสอบผ่านจริงๆ? เป็นผู้เล่าเรียนอันดับหนึ่ง? ค่าเล่าเรียนยังยกเว้นให้ทั้งหมด? นะ นี่เรื่องจริงหรือ?

ทันใดนั้นคล้ายจะคิดอะไรได้ เขาเร่งฝีเท้าวิ่งไปในเรือนสอบประเมิน มาถึงข้างในเห็นอาจารย์ทั้งสองใบหน้าเต็มไปด้วยรอยยิ้มยินดี จึงจัดการความคิดโดยทันที และคารวะอย่างเคารพ

“ท่านอาจารย์ทั้งสอง เมื่อครู่หนุ่มน้อยชุดแดงคนนั้น…”

เขายังเอ่ยไม่จบ ก็เห็นสองคนยิ้มเดินเข้ามาตบๆ ไหล่เขา “ซุนเหล่า วันนี้เจ้าทำได้ไม่เลวเลยจริงๆ”

ได้ยินคำพูดนี้ หน้าผากชายชราก็มีเหงื่อไหลซึม ยิ้มหน้าเจื่อนๆ “เรื่องนั้น…”

“ถูกต้อง วันนี้โชคดีมีเจ้าคอยรับสมัครนักเรียนอยู่ข้างนอก หากเปลี่ยนเป็นคนอื่นเห็นเฟิ่งจิ่วมาจากแคว้นระดับเก้า อาจไม่ให้แม้แต่โอกาสเป็นแน่ เจ้าไม่รู้หรอกว่าเด็กคนนี้เยี่ยมมาก! ไม่เพียงมีพรสวรรค์โดดเด่น นิสัยยังน่ารักไร้เดียงสา เป็นเด็กใสซื่อบริสุทธิ์คนหนึ่ง”

ชายชราฟังไปพลางยกแขนเสื้อขึ้นเช็ดเหงื่อตรงหน้าผาก ยิ้มถามหน้ากระอักกระอ่วนว่า “เมื่อครู่เขาเหมือนบอกว่าได้เป็นผู้เล่าเรียนอันดับหนึ่งอะไรด้วย? นะ นี่เป็นเรื่องจริงหรือ?”

“แน่นอน ต้นกล้าดีๆ เช่นนี้สำนักยาเซียนเราไม่ได้พบมาเนิ่นนาน ถึงยกเว้นค่าเล่าเรียนทั้งหมดให้ผู้เล่าเรียนอันดับหนึ่งเช่นเขาแล้วอย่างไร? เด็กคนนั้นยิ่งมองข้ายิ่งชอบ เจ้าไม่รู้หรอก นึกไม่ถึงว่าเขาจะศึกษาสารานุกรมยาทิพย์มาจนคุ้นเคยจริงๆ ยังรู้แม้แต่สรรพคุณฤทธิ์ยารวมถึงสิ่งที่เสริมข่มกัน ไม่ธรรมดา ไม่ธรรมดาเลย!”

“อืม เจ้าก็เคยพบเฟิ่งจิ่ว เล่าให้ฟังหน่อยซิ รองานรับสมัครนักเรียนวันนี้เสร็จสิ้นหมด ค่อยลองพาเขาไปดูที่สำนักยาเซียน แล้วหาอาศรมใหญ่ๆ ให้เขาด้วย”

“ขอรับๆ” ชายชราปาดเหงื่อขานรับแล้วถึงจะถอยออกไป

ครั้นมาถึงด้านนอก สุดท้ายก็ถอนหายใจเบาๆ หัวใจเต้นตึกตัก หากอาจารย์ทั้งสองรู้ว่าก่อนหน้านี้เขาเยาะเย้ยหนุ่มน้อยคนนั้นละก็…

แค่ลองคิดก็หนาวสั่นแล้ว ยามนี้เขาหยิบหยกส่งสารออกมาเรียกอีกคนหนึ่งมาแทนที่ ส่วนตนเองไปตามหาหนุ่มน้อยชุดแดงคนนั้น

เฟิ่งจิ่วในตอนนี้ หลังจากสอบประเมินผ่านก็ออกจากประตูใหญ่สำนักศึกษาไปจูงเหล่าไป๋เข้ามาก่อน เมื่อผ่านต้นไม้ใหญ่ก่อนหน้านี้ ฝีเท้าเธอชะงักเล็กน้อยและมองไปยังทิศทางนั้น ชายชุดขาวคนนั้นไม่อยู่เสียแล้ว

เธอส่ายหน้า ไม่รู้ทำไมตนเองถึงหยุดมอง อาจเพราะกลิ่นอายรอบกายชายชุดขาวคนนั้นสะอาดบริสุทธิ์มากจริงๆ กระมัง!

หลังมาถึงประตูใหญ่สำนักศึกษา ขณะกำลังเข้าไปกลับโดนคนเฝ้าประตูขวางไว้

“นักเรียนที่เข้ามาลงชื่อประเมินจะนำพาหนะไปข้างในไม่ได้”

เห็นเช่นนี้ เฟิ่งจิ่วจึงหยิบป้ายหยกมาชู “ข้าสอบผ่านแล้ว พาเข้าไปได้”

คนเฝ้าประตูเห็นป้ายหยกในมือเขาก็แปลกใจเล็กน้อย มองเขาอย่างแปลกๆ จากนั้นถึงค่อยปล่อยไป

“เหอะๆ เจ้าเป็นผู้เล่าเรียนเข้าใหม่จึงยังไม่รู้ สำนักศึกษาหมอกดาราเราพื้นที่กว้างขวางนัก สถานที่ตั้งแต่ละสำนักยังแตกต่างกัน เด็กที่รับสมัครเข้ามา นอกจากจะรวมกลุ่มตามแต่ละสำนัก วันธรรมดาแทบไม่ได้อยู่ด้วยกันเลย ประตูใหญ่สำนักศึกษาก็ไม่ได้เปิดบ่อย จะเปิดแค่วันรับสมัครนักเรียนครั้งใหญ่ทุกสามปี ปกติที่ออกไปจะเป็นประตูข้างของแต่ละสำนัก”

ระหว่างพูด เขาชี้ตรงภูเขาข้างหน้า บอกว่า “แค่ข้ามภูเขาลูกนี้ไปก็คือที่ตั้งสำนักยาเซียนแล้ว”

ได้ยินคำเช่นนี้ เฟิ่งจิ่วประหลาดใจนิดหน่อย แม้สำนักศึกษาหมอกดาราจะใหญ่เทียบเท่าเมืองหลวง แต่เมื่อเดินอยู่ด้านในนี้ถึงได้รู้ว่าใหญ่เกินเหตุเช่นนี้ เห็นว่ายังต้องข้ามภูเขาตรงหน้าอีก ดังนั้นจึงเร่งฝีเท้าเร็วขึ้น

ระหว่างทางผู้ดูแลซุนบอกเธอว่า ทั้งสำนักศึกษาหมอกดารามีเพียงสำนักยาเซียนที่นักเรียนพักอยู่อาศรม ส่วนนักเรียนสำนักอื่นพักอยู่ที่เรือน เพราะทุกๆ อาศรมของนักเรียนสำนักยาเซียนล้วนจัดวางห้องปรุงยา ห้องนอนรวมถึงห้องอาบน้ำและห้องเก็บของไว้ อีกทั้งเพราะการกลั่นยาเซียนจะมีอันตรายจากเตาระเบิด ด้วยเหตุนี้ทุกๆ อาศรมจึงวางค่ายกลไว้

ข้อนี้คือสิ่งที่เทียบไม่ได้กับสำนักอื่น แต่ก็มีข้อเสียคือสำนักยาเซียนต้องทำทุกอย่างด้วยตัวเอง ผู้เล่าเรียนทุกคนต้องแบ่งกันดูแลไร่ยาทิพย์ สมุนไพรสำหรับกลั่นยาเซียนผู้เล่าเรียนก็ต้องเก็บคะแนนคุณงามความดีไปแลกมาเอง

ภายใต้การนำทางของผู้ดูแลซุน เฟิ่งจิ่วเลือกอาศรมบริเวณค่อนข้างห่างไกลแต่ใหญ่กว่า หลังจากเข้าไปเดินรอบๆ อาศรม เธอก็ล่ามเหล่าไป๋ไว้ข้างนอก ก่อนจะตามผู้ดูแลซุนไปดูที่ตั้งสำนักยาเซียนที่ปกติอาจารย์สอนกลั่นยาเซียน

หลังจากคุ้นเคยกับสถานที่แล้ว เธอถามอย่างสงสัยอยู่บ้างว่า “ผู้ดูแลซุน พวกเราเดินผ่านมาตั้งหลายที่ ทำไมถึงไม่เห็นนักเรียนสำนักยาเซียนคนอื่นๆ เลย?” จะแปลกเกินไปแล้ว สำนักยาเซียนแห่งนี้พื้นที่ไม่ใช่เล็กๆ แต่เดินวนไปรอบหนึ่งกลับไม่เห็นใครเลยสักคน

“เหอะๆ เรื่องนี้น่ะ…”

ผู้ดูแลซุนยิ้มเจื่อน บอกว่า “อาจจะมีบางคนไปทำภารกิจเก็บคะแนนคุณงามความดี บ้างก็อาจกลั่นยาเซียนในอาศรมตนเอง สำนักยาเซียนนี้ก็เป็นเช่นนี้แหละ ปกติน้อยนักที่จะเห็นใคร เจ้าอยู่นานๆ ไปก็รู้เอง”

…………………………………………..……….

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เซียนหมอหญิงยอดนักฆ่า