เซียนหมอหญิงยอดนักฆ่า นิยาย บท 9

ตอนที่ 9 สู่ป่าเก้าหมอบ + ตอนที่ 10 ตามหายาเพียงลำพัง
Ink Stone_Romance
ตอนที่ 9 สู่ป่าเก้าหมอบ

หลิงโม่หานไม่สนใจคนด้านหลังอีก เดินสาวเท้าก้าวยาวไป เขาคิดว่าขอทานน้อยคงเป็นคุณชายน้อยของตระกูลเศรษฐีสักตระกูลที่แอบออกมาเที่ยวเล่น ตั้งแต่ตอนที่อีกฝ่ายเข้ามากอดขา หลิงโม่หานก็สังเกตุเห็นว่าตัวขอทานน้อยไม่ได้ดูต่ำต้อยเช่นขอทานทั่วไป มิหนำซ้ำดวงตายังมีความฉลาดแกมโกงแฝงอยู่ หากเป็นแค่ขอทานคนหนึ่งจะไปมีได้อย่างไรกัน? และยังได้ยินเขาบอกอย่างคาดไม่ถึงอีกว่าจะไปป่าเก้าหมอบ จึงยิ่งแน่ใจว่าเด็กหนุ่มคนนี้ไปเล่นสนุกเป็นแน่

ถ้าขอทานน้อยรนหาที่ตายตามเข้าป่าเก้าหมอบเช่นนั้นจริงๆ หลิงโม่หานก็จะไม่ยุ่งเรื่องชาวบ้านด้วยการไปช่วยเขา

พอเห็นว่าท่านอาตรงหน้าไม่สนใจ เฟิ่งจิ่วก็ไม่ปริปากอะไรอีก แค่วิ่งเหยาะๆ ตามไปด้านหลัง ทว่าหากมองอย่างละเอียดแล้ว จะเห็นว่าฝีเท้าของเธอแปลกมาก ความเร็วไม่ช้าไปกว่าหลิงโม่หานที่อยู่ด้านหน้าสักเท่าไหร่

ทั้งสองเดินตามกันไป หลิงโม่หานที่อยู่ด้านหน้าไม่หยุดพักเลย เฟิ่งจิ่วทางด้านหลังเองก็ไม่หยุด เพราะเวลาที่กระชั้นชิด เธอจึงต้องรีบไปหาสมุนไพรแก้พิษในร่างที่ป่าเก้าหมอบ มิเช่นนั้นชีวิตเล็กๆ นี้คงต้องจบเห่ลงที่นี่จริงๆ

ที่จริงแล้ว เมื่อก่อนเรือนร่างนี้เป็นร่างของคุณหนูผู้สูงศักดิ์ พอไม่ได้กินอะไรซ้ำยังมาวิ่งทั้งวันทั้งคืนเช่นนี้ สำหรับเธอเลยถึงขีดจำกัดซะแล้ว สองขาทั้งเมื่อยทั้งหนัก ฝีเท้าที่ก้าวเดินก็ค่อยๆ ช้าลง และระยะห่างกับหลิงโม่หานก็ยิ่งไกลกันออกไป

โชคดี ที่ในที่สุดเธอก็มาถึงปากทางเข้าป่าเก้าหมอบในเช้าตรู่ของวันถัดมา ทว่าตอนนี้เธอไม่เห็นเงาร่างของท่านอาผู้นั้นแล้ว

“ฮู่! เหนื่อยชะมัดเลย” เธอทิ้งตัวลงนั่งบนพื้น หอบหายใจเสียงดังดั่งวัว เหงื่อไหลเหมือนสายฝน และท้องก็ยังหิวอีก ตอนนี้เธอเวียนหัวเล็กน้อย แถมยังคลื่นไส้อยู่บ้าง

ตั้งแต่เมื่อวานจนถึงตอนนี้ เธอฉวยเอาแอปเปิลลูกหนึ่งจากพ่อค้าเร่ที่ขายผลไม้มากิน จนเวลานี้ไม่รู้ว่าย่อยไปถึงไหนแล้ว ตอนนี้ถึงได้หิวจนผนังท้องหน้าหลังแทบจะติดกัน เธอคิดเพียงว่าหากมีน่องไก่อะไรทำนองนี้ให้กินก็คงดี

เธอพักอยู่ครู่หนึ่ง พอเช็ดเหงื่อแล้วก็ลุกขึ้นยืน เมื่อเห็นป่าเก้าหมอบเบื้องหน้าก็ผุดรอยยิ้มตั้งตารอออกมา “ฮิๆ ในป่าเก้าหมอบนี้น่าจะมีอาหารป่า…” นึกถึงตรงนี้เธอก็กลืนน้ำลายอีก ก่อนจะก้าวเดินเข้าไปด้านในทันที

ในป่าไม้ที่อุดมสมบูรณ์นี้มีวัชพืชขึ้นรกรุงรัง ดวงอาทิตย์เหนือหัวถูกใบไม้บังไปกว่าครึ่ง จึงมีเพียงแสงแดดเล็กน้อยส่องเข้ามาในป่า กลิ่นพื้นดินชื้นแฉะและกลิ่นหอมของต้นหญ้าลอยลู่ตามลมมาถึงจมูก

ในมือเฟิ่งจิ่วถือกิ่งไม้ที่หักมาจากต้นพลางปัดไปซ้ายทีขวาที หนึ่งคือเพื่อแหวกพวกหญ้ารกที่ขวางทางตรงหน้าออกไป สองคือเพื่อไล่พวกงูพิษที่หลบซ่อนอยู่ในพุ่มไม้

เฟิ่งจิ่วเดินไปอย่างช้าๆ ดวงตาเสาะหาบรรดาสมุนไพรที่อาจถูกวัชพืชบังไว้อย่างละเอียด เธอพบพิษในร่างตั้งนานแล้ว ถ้าจะให้คนอื่นแก้ให้คงเป็นเรื่องยาก แต่สำหรับเธอที่เชี่ยวชาญเรื่องยาพิษกลับไม่ยากเลย แน่นอนว่าก่อนอื่นต้องหาสมุนไพรที่ต้องการให้ได้ มิฉะนั้นต่อให้เธอเป็นเซียนหมอก็ไม่มีทางรักษาพิษของตัวเองได้ด้วยมือเปล่า

อาจเพราะอยู่รอบนอกป่า ถึงแม้จะมีสมุนไพร แต่ก็ล้วนเป็นชนิดที่เห็นได้บ่อยมาก ส่วนอาหารป่าที่เธอนึกภาพไว้ยิ่งไม่ต้องพูดถึง เดินมาจะครึ่งชั่วยามแล้วยังไม่เห็นอาหารป่าที่กินได้เลย จิ้งเหลนที่ปีนอยู่บนต้นไม้ก็เจอแค่ไม่กี่ตัว

ท้องเธอหิวจนไม่สบายตัวเลยจริงๆ พอเห็นในพุ่มหญ้ามีดอกของว่านสามใบ เธอก็เลือกช่อใหญ่ๆ มาถือไว้ เดินไปพลางกินไปพลาง แม้ก้านของว่านสามใบจะเปรี้ยว แต่ดอกกลับมีกลิ่นหอมอยู่จางๆ ถึงจะเทียบกับอะไรไม่ได้ ก็ดีกว่าปล่อยให้ท้องว่าง

“เอ๊ะ? นึกไม่ถึงเลยว่าที่นี่จะมีต้นเหมยติดดินด้วย?” เธอวิ่งเข้าไปอย่างแปลกใจ สมุนไพรที่โตอยู่ข้างต้นไม้คือหนึ่งในสมุนไพรแก้พิษที่เธอออกตามหานั่นเอง

………………………………….………………….

ตอนที่ 10 ตามหายาเพียงลำพัง

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เซียนหมอหญิงยอดนักฆ่า