เชลยรักท่านประธาน นิยาย บท 3

โกดังสินค้า

รถยุโรปคันใหญ่แล่นไปตามทางดินลูกรังของพื้นที่ห่างไกลตัวเมือง ต้นไม้หนาทึบช่วยพรางสายตาจากบุคคลภายนอกได้เป็นอย่างดี รอบโกดังมีรัวเหล็กสนิมเกาะล้อมเอาไว้อีกชั้น เมื่อดูจากภายนอกก็ไม่ต่างจากสถานที่ถูกปล่อยทิ้งร้าง หากแต่ความจริงภายในอัดแน่นไปด้วยสินค้าผิดกฎหมาย

โอนิกซ์เดินทางมาพร้อมกับลูกน้องเพื่อมาประชุมกับกลุ่มเพื่อนตามปกติ ใบหน้าเฉยชาสวมแว่นตาทรงสี่เหลี่ยมนั้นไม่ต่างจากหนุ่มเนิร์ดคงแก่เรียน มักมีหนังสือติดมือเสมอ ใครที่พบเขามักจะนึกว่าชายหนุ่มเป็นหมอหรือทนายความ แต่ความจริงเขาคือมาเฟียดีๆ นี่เอง

ภายในโกดังมีลูกน้องหลายคนเดินไปเดินมาขวักไขว่ ตรวจเช็กสินค้าก่อนส่ง โอนิกซ์ซึ่งมีบริษัทโลจิสติกส์เป็นของตัวเอง จึงสามารถแอบลักลอบส่งสินค้าพวกนี้ไปกับเรือได้สบาย

ชั้นใต้ดินของโกดังเป็นทางเดินคดเคี้ยว แยกย่อยหลายทิศทาง ชวนให้สับสน แต่คนที่คุ้นเคยเส้นทางดีอย่างเขาสามารถหลับตาเดินมาจนถึงห้องประชุมกว้างได้สบาย

"ไง มาเร็วตลอดเลยมึง" วิคเตอร์นั่งเอกเขนกอยู่กลางโซฟาเพียงลำพัง พร้อมจิบกระป๋องเบียร์ในมือไปด้วยเอ่ยทัก ก่อนจะโยนกระป๋องเบียร์เย็นเฉียบอีกอันมาทางเขา

"..." โอนิกซ์รับไว้อย่างแม่นยำ เปิดกระป๋องเครื่องดื่มในมือยกขึ้นจิบเล็กน้อย ทิ้งตัวนั่งลงฝั่งตรงข้ามเพื่อนสนิท

ภายในห้องอัดแน่นด้วยโซฟายาวหลายตัวตั้งล้อมโต๊ะเตี้ย ไร้การประดับตกใดๆ ทุกอย่างเน้นการใช้งานจริง มุมห้องมีตู้เก็บเอกสารเก่าๆ และยังมีตู้เย็นขนาดเล็ก อัดแน่นด้วยเครื่องดื่มแอลกอฮอล์จนเต็ม มุมอีกด้านมีโต๊ะทำงานไม้ตัวหนา แต่กลับไม่เคยมีใครไปใช้

"มึงสามารถส่งของไปฮ่องกงได้ไหม กูกำลังดีลกับลูกค้าใหม่อยู่" วิคเตอร์ถามขึ้นมา

"สบาย มารับที่ท่าเอง"

"จะไม่โดนสุ่มตรวจ?"

"ไม่อะ ไม่กล้าตรวจตู้กูหรอก" ร่างสูงไหวไหล่เบาๆ เขามีเส้นสายอยู่ทั่ว และจัดการยัดเงินใต้โต๊ะไปจำนวนมาก แค่นี้พวกเจ้าหน้าที่โลภมากก็พร้อมจะหลับหูหลับตาไม่สนใจเรื่องของเขาแล้ว

"หึ" วิคเตอร์แค่นหัวเราะ กระดกเบียร์อึกใหญ่อย่างสบายอารมณ์

เมื่อยังไม่มีใครมาโอนิกซ์จึงเปิดหนังสือที่หยิบติดมือมาอ่านเล่นฆ่าเวลา ด้วยไอคิวที่มากถึง 160 ทำให้เขาชอบศึกษาอะไรใหม่ๆ เสมอ เขาชอบตัวเลข เทคโนโลยี และตอนนี้กำลังสนใจการเขียนโค้ด แฮกระบบ และพัฒนาโปรแกรม

เขาจบมหาลัยตั้งแต่อายุ 16 แต่พ่อแม่ชายหนุ่มอยากจะให้เขามีชีวิตวัยรุ่นเหมือนเด็กทั่วๆ ไป จึงส่งโอนิกซ์กลับมาเรียนระดับมัธยมอีกครั้งเพื่อเข้าสังคม ทำให้ได้เจอวิคเตอร์ตอนช่วงมอปลาย ระหว่างนั้นเขาก็ต่อปริญญาโทอีกใบควบคู่ไปกับการเรียนในระดับมัธยม

โอนิกซ์ไปเรียนต่อมหาลัยที่สหรัฐอเมริกาอีกใบ หลังจากจบมาก็ยังติดต่อกับวิคเตอร์มาตลอด เพื่อนสนิทแนะนำให้เขาได้รู้จักลีออน และไคโร เมื่อเริ่มสนิทกันมากขึ้น ทั้งหมดเลยตัดสินใจทำธุรกิจมืดร่วมกัน

ไม่นานใบหน้าร่าเริงสดใสของลีออนก็โผล่มาพร้อมลูกน้องคนสนิท และปิดท้ายด้วยไคโร การประชุมจึงเริ่มขึ้น

"กูได้ข่าวมาว่าพวกไอ้อาชามันเริ่มสนใจอยากเข้าธุรกิจนี้" วิคเตอร์เอ่ยขึ้นมาเรียบๆ หลังจากลีออนอวดสรรพคุณอาวุธชนิดใหม่เสร็จแล้ว

"เฮอะ! นอกจากค้าอวัยวะแล้วยังอยากมาทำอาวุธอีกเหรอ" ลีออนพ่นลมขึ้นจมูก หันกลับไปถาม

"ช่วงนี้ส่งของต้องระวังกันหน่อย"

"ถ้ามันกล้ายุ่ง ก็เก็บให้เรียบ" ไคโรเอ่ยเสียงเย็นแววตาวาวโรจน์

"หึหึ" ลีออนแค่นหัวเราะ แสยะยิ้มถูกใจกับคำพูดเพื่อนรัก

"..."

"เรื่องกลุ่มไอ้อาชา...เดี๋ยวกูลองตามสืบดู" โอนิกซ์ที่นั่งเงียบฟังอยู่นานเอ่ยขึ้น รู้สึกไม่ค่อยไว้วางใจ พอจะเคยได้ยินเรื่องอีกฝ่ายอยู่บ้าง ถึงความเจ้าเล่ห์ กัดไม่ปล่อย หากไม่เตรียมรับมือ คาดว่าคงมีเรื่องหน้าปวดหัวตามมาในอนาคตแน่นอน

เขาเคยเจออาชาตามงานสังคมหรือการประชุม พ่อของอาชาเป็นรัฐมนตรีกระทรวงสาธารณสุขควบตำแหน่ง ผอ.โรงพยาบาลใหญ่ ใครจะคิดว่าเบื้องหลังนายแพทย์ท่าทางเคร่งขรึมทำงานเพื่อสังคมจะมีลูกชายค้าอวัยวะเถื่อน

"นึกขยันอะไรขึ้นมาว่ะ" ลีออนเอียงคอมองอย่างสงสัย

"...แค่มีเรื่องสงสัย" ใบหน้าหล่อเหล่าเย็นชาภายใต้กรอบแว่น เอ่ยเพียงแค่นั้น ก่อนจะจมดิ่งกับความคิดของตัวเองอีกครั้ง ปล่อยให้กลุ่มเพื่อนพูดคุยหลอกล้อกันต่อ

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เชลยรักท่านประธาน