เมื่อเซียวหยางและเย่หยุนซูกลับมา พ่อแม่ของก็เย่หยุนซูกำลังรออยู่ที่บ้านของพวกเขา
“พ่อ แม่ ทำไมมาอยู่ที่นี่?”
"ไปฉลองวันเกิดคุณย่าของคุณเป็นไงบ้าง? คุณย่าของลูกมีความสุขมากไหม? เธอว่ายังไงบ้าง?” หลิวฉ่ายเสียคว้าไหล่ลูกสาวของเธอและพูดอย่างกังวล
หลังจากที่เย่หรูซานเข้าประตูไป เขานั่งบนโซฟา จากนั้นก็จุดบุหรี่ไม่พูดไม่จา
เย่หรูซานไม่ได้อยากมาที่บ้านลูกสาวของเขา เหตุผลหลักก็คือเขาไม่ต้องการเห็นเซียวหยาง เพราะเมื่อพวกเขาพบกันพวกเขาก็จะรู้สึกเหมือนอยู่ในเรือลำเดียวกัน ในความเห็นของเย่หรูซาน พวกเขาทั้งคู่ล้วนเป็นพวกขี้แพ้
ยิ่งสิ่งนี้เกิดขึ้นมากเท่าไร เย่หรูซานก็ยิ่งไม่อยากเจอเซียวหยางมากขึ้นเท่านั้น
เย่หยุนซูบอกแม่ของเธอเกี่ยวกับงานวันเกิด
จากนั้นหลิวฉ่ายเสียก็เหมือนจะเป็นบ้าขึ้นมาทันที “หยุนซู สมอของลูกพังไปแล้วหรือไง เรื่องแบบนี้ลูกไปตอบรับได้ยังไง ถ้าเราถูกไล่ออกจากตระกูลเย่ เงินสักแดงเดียวของตระกูลลูกก็จะไม่ได้ไม่รู้หรือไง!"
“นี่ลูกเท่ากับกำลังให้ท้ายพวกเย่หรูไห่อยู่ไม่ใช่หรือ พวกเขาคิดอะไรอยู่ลูกยังไม่รู้ชัดอีกหรือไง?”
เย่หยุนซูสะบัดมือแม่ของเขาออกและพูดอย่างรำคาญใจ “แม่ หนูไม่ต้องการให้พวกเขาดูถูกอีกต่อไป หลายปีมานี้พวกเรายังได้รับความลำบากไม่พออีกหรือไง?”
“อย่างนั้นลูกก็ไม่ควรตกลงเรื่องนี้สิ นั่นเป็นถึงเจี้ยนต๋า กรุ๊ปนะ ลูกรู้หรือไงว่าประตูของพวกเขาจะเปิดรับใคร อาศัยตัวตนของลูก พวกเขาไม่มีทางให้ลูกเข้าไปแน่!”
เย่หยุนซูขมวดคิ้ว เธอมองไปที่เซียวหยางและถามว่า "เซียวหยาง นายรู้จักประธานของเจี้ยนต๋า กรุ๊ปหรือ?"
เซียวหยางส่ายหัว
“อย่างนั้นนายมีอะไรที่เกี่ยวข้องกับเจี้ยนต๋า กรุ๊ป ไหม?”
เซียวหยางส่ายหัวอีก
กำลังล้อเล่นหรือไง? เขาไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเจี้ยนต๋า กรุ๊ปทำอะไร แล้วจะไปรู้จักกับประธานของพวกเขาได้ยังไง
แค่ว่า นี่สำคัญตรงไหนกัน? ด้วยความแข็งแกร่งของวิหารมังกร แค่เขากล่าวประโยคเดียว ประธานของเจี้ยนต๋า กรุ๊ปก็ยังต้องคุกเข่าคำนับ ก็แค่ความร่วมมือเท่านั้น ง่ายเพียงปอกกล้วย
ใบหน้าสวยของเย่หยุนซูกลายเป็นซีดขาวทันที "แต่เห็นได้ชัดว่านาย... "
หลิวฉ่ายเสียมองออกถึงอะไรบางอย่าง ยังไม่ทันที่ลูกสาวจะพูดจบ เธอก็ร้องขึ้นว่า "เกิดอะไรขึ้น? เรื่องนี้เกี่ยวข้องอะไรกับคนไร้ประโยชน์อย่างนาย?"
“พูดมา เรื่องนี้เป็นนายที่สนับสนุนให้ลูกสาวของฉันรับปากใช่ไหม?”
"ดี ไอเคนไร้ประโยชน์อย่างนาย คงแค้นที่ฉันทำตัวไม่ดีกับนายในหลายปีมานี้ใช่ไหม ถึงได้จงใจขับไล่เราออกจากตระกูลเย่? ถ้าเราอดตาย นายก็อย่าหวังจะมีความสุข!"
เย่หยุนซูฟังแล้วรู้สึกทนไม่ได้อยู่บ้าง “พอแล้วแม่ หนูเหนื่อยแล้ว อย่าเถียงกันอีกเลย เรื่องนี้เป็นหนูที่รับปากเอง ไม่เกี่ยวกับใครทั้งนั้น!”
"หยุนซู แม่สงสัยจริงๆ ว่าทำไมปู่ที่ตายไปแล้วของหนูถึงอยากให้คุณแต่งงานกับคนขี้แพ้แบบนี้"
เมื่อได้ยินเสียงดังในห้อง เซียวหยางก็ลูกหัวของเขาและเดินไปที่ประตู
“ไอ้คนไร้ประโยชน์ นายจะไปไหนอีก?”
"ซื้อผัก ทำอาหาร"
“ดูสิ ยังบอกว่าไม่ใช่คนไร้ประโยชน์อีก!”
……
เซียวหยางไปที่ตลาด จากนั้นก็ซื้อไก่แก่และผัก ขณะที่เขากลับมายังชุมชนก็เห็นรถโรลส์รอยซ์รุ่นลิมิเต็ดสีดำจอดอยู่ที่มุมหนึ่ง
และเห็นว่าชายผมทองตัวเล็กที่ด้านหน้าของโรลส์รอยซ์มีปีกสามคู่อยู่
ทูตฟ้าหกปีก คนของวิหารมังกร
"นายท่าน"
ชายชราในชุดทักซิโด้ลงมาจากรถ โรลส์รอยซ์ สีหน้าดูจริงจังและพิถีพิถัน เขาสวมแว่นตาลวดทอง และถือเอกสารปึกหนึ่งในมือข้างหนึ่ง ขณะที่อีกมือหนึ่งถือกล่องสีดำขนาดเล็ก
เซียวหยางหยิบกล่องขึ้นมาและเปิดดู มันเป็นผลึกโลหิตไฟ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เดชราชาพิโรธ